แม้จะเรียนมาทางด้านวิทยาศาสตร์สาขาเคมีจากสถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งไม่ได้มีความเกี่ยวข้องแต่อย่างใดกับเทคโนโลยีทางด้านไอที และการเงินเลย แต่ "ธีระชาติ ก่อตระกูล" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท สยามสแควร์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ก็สามารถผสมผสานศาสตร์แห่งความรู้ทั้ง 3 ด้านเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นแอพพลิเคชัน Stockradars บนสมาร์ทโฟนที่มียอดผู้ดาวน์โหลดไปใช้งานแล้วมากกว่า 3.8 แสนรายในปัจจุบัน
"ธีระชาติ" เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า ด้วยประสบการณ์ที่เคยร่วมงานกับบริษัทโบรกเกอร์มาก่อนเป็นระยะกว่า 5 ปี ในการรับจ้างผลิตแอพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนในฐานะที่เปรียบเสมือนเป็นมือปืนรับจ้าง เมื่อวันหนึ่งธุรกิจเกิดการสุกงอม จึงเกิดประกายไอเดียในการปรับเปลี่ยนธุรกิจจากซอฟต์แวร์เฮาส์ธรรมดา หรือการรับจ้างทำแอพมาเป็นธุรกิจซอฟต์แวร์แบบเต็มตัว เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนสถานะจากเอสเอ็มอี มาเป็น Startup ด้วยการสร้างโปรดักต์ของตนเอง ภายใต้แอพพลิเคชัน Stockradars
เขาบอกว่าการเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้นอยู่แล้ว ทำให้มีโอกาสได้เห็นช่องทางจากความต้องการของตนเอง ซึ่งต้องการเครื่องมือที่จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์การลงทุน และมีความเชื่อว่านักลงทุนรายอื่นก็น่าจะต้องการใช้งานเช่นเดียวกัน ทำให้เกิดแนวคิดที่จะทำแอพพลิเคชันผ่านสมาร์ทโฟนขึ้นมา โดยมุ่งหวังให้เป็นเพื่อนคู่คิดสำหรับนักลงทุนที่ใช้งานได้ง่ายแบบไม่ยุ่งยาก Stockradars จึงเริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่บัดนั้น
"ผมมีความเชื่อว่าคนเราหากต้องการทำอะไรก็จะทำได้เอง โดยมองว่าความรู้พื้นฐานช่วยให้เรามีโอกาสในอุตสาหกรรมเฉพาะ แต่ในบางอุตสาหกรรมก็ต้องการคนที่มีพื้นฐานต่างกันไป เพื่อให้ได้แนวคิดใหม่ๆเข้ามาอยู่ในอุตสาหกรรม เพราะหากทุกคนที่จบทางด้านการเงินมาทำก็จะได้แอพที่มีหน้าตาแบบนักการเงิน เนื่องจากทุกคนมีประสบการณ์มาเหมือนกัน แต่ด้วยความเป็นคนนอกทั้งเรื่องไอที และการเงินจึงมีข้อได้เปรียบที่ทำให้รู้ว่าคนที่เหลือไม่รู้เรื่องอะไร ไม่เข้าใจอะไร ทำให้หน้าตาของแอพ Stockradars ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายสำหรับคนทั่วไป"
อย่างไรก็ดี"ธีระชาติ" มองว่าในเรื่องของการยอมรับอาจจะต้องเวลาพิสูจน์ว่าเราทำได้จริง สิ่งที่เราภูมิใจก็คือ แม้ว่าจะมาไม่ตรงสายงาน แต่นวัตกรรมหลายอย่างในตลาดเราเป็นผู้ทำเป็นเจ้าแรก ด้วยความเป็นคนนอกทำให้ไม่ต้องคิดมาก ส่งผลให้ทำได้เร็วกว่าผู้อื่น ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าโลกมีการเปลี่ยนแปลง ข้อมูลที่ต้องการรู้สามารถหาได้หมดบนโลกของอินเตอร์เน็ต และที่สำคัญไม่มีความจำเป็นที่เราจะต้องทำทุกอย่างเป็น เรามีผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านอยู่แล้วที่ทำอยู่ เพียงแค่เข้าไปขอความช่วยเหลือ และเรียนรู้จากคนอื่นให้มากๆเท่านั้น
สำหรับ Stockradars นั้น จะเป็นเสมือนเรดาร์ให้กับนักลงทุน เนื่องจากในตลาดหุ้นจะมีเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างรวดเร็ว มีข้อมูลเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นโจทย์ของเราก็คือจะทำอย่างไรให้นักลงทุนทั่วไปสามารถเข้าถึงข้อมูล และมีเรดาร์ที่ช่วยตรวจจับความเคลื่อนไหวของตลาด
จุดเด่นที่สำคัญของ Stockradars ก็คือ การไม่ระบุให้ผู้ลงทุนซื้อหุ้นของบริษัทนั้น หรือบริษัทนี้ แต่จะเป็นเครื่องมือที่ทำให้นักลงทุนเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้ดีขึ้น ซึ่งในขั้นตอนสุดท้ายจะมีการซื้อขายหรือไม่ผู้ลงทุนจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจเอง โดยเราจะเปรียบตัวเองเป็นช่างตีดาบ เพราะฉะนั้นจะต้องตีดาบให้เก่งที่สุด เพื่อให้ได้ดาบที่ดีที่สุดในโลก นั่นคือหน้าที่เราแต่เมื่อใดก็ตามที่เราเริ่มบอกว่าหุ้นของบริษัทนี้ดี ราคานี้เหมาะสมสามารถเข้าซื้อได้เลย หรือขายได้เลย หมายความว่าช่างตีดาบเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเก่ง ฉลาดและลงไปออกรบเอง ซึ่งต่อให้ช่างตีดาบที่เก่งที่สุดไปออกรบเองก็ใช่ว่าจะชนะคู่ต่อสู้เสมอ ดังนั้นเราจึงมีหน้าที่เป็นเครื่องมือเท่านั้น เราต้องวางตำแหน่งของตัวเองให้ดี
"หัวใจหลักของ Stockradars มีอยู่อย่างเดียวคือ การทำเรื่องหุ้นให้เป็นเรื่องง่าย เราพยายามทำให้เกิดความใกล้ชิดกับคนมากขึ้น ทำให้เข้าถึงได้โดยคนทั่วไปเราจะมีความสุขทุกครั้งที่นักรบ (ผู้ลงทุน) กลับมาบอกเราว่า ดาบเราเจ๋ง มีความคมพอ สามารถช่วยให้เอาชนะศัตรูได้ การทำเครื่องมือของเราก็คือการสร้างอาวุธให้กับนักลงทุน แต่เราไม่ได้เป็นอัศวินไปออกรบเอง"
"ธีระชาติ" เล่าต่อไปอีกว่า ในแอพ Stockradars จะมีสัญญาณตรวจจับให้นักลงทุนตั้งค่าได้ ทำให้นักลงทุนสามารถนำไปผสม หรือประยุกต์ใช้กับการลงทุนได้ ซึ่งจะทำให้ได้ไอเดียในการลงทุนที่กว้างขึ้น นอกจากนี้มีอินไซด์เดอร์บายเซลล์ (Insider by sale) ซึ่งจะเป็นเรดาร์ที่คอยตรวจจับความเคลื่อนไหวของผู้บริหาร หรือเจ้าของกิจการนั้นๆ โดยหากผู้บริหารมีการซื้อขาย เรดาร์ที่นักลงทุนตั้งค่าไว้ก็จะแจ้งเตือนให้รู้ว่าเจ้าของกิจการมีการแอบซื้อขายหุ้นอยู่ ซึ่งข้อมูลต่างๆเหล่านี้เป็นข้อมูลที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ปัจจุบันถึงแม้ว่า Stockradars จะได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก แต่ธีระชาติกลับมองว่าตนเองยังไม่ประสบความสำเร็จ และยังห่างไกลกับคำว่าสำเร็จ เพราะยังต้องดิ้นรนอีกมาก โดยชีวิตของ Startup นั้นคนส่วนใหญ่จะมองว่าสำเร็จในวันที่ได้รับเงินทุน แต่เราไม่ได้มองแบบนั้น เพราะเงินลงทุนที่เข้ามาเพียงแค่ช่วยให้เราสามารถเติบโตได้เร็วขึ้น เพื่อที่จะทำให้เดินไปถึงเป้าหมายที่วางไว้มากกว่า ฉะนั้น หากเปรียบเทียบว่ามีอยู่ 100 ก้าวที่ต้องเดินไป เราคิดว่าเพิ่งมาได้แค่ก้าวเดียวเท่านั้น ยังเหลืออีก 99 ก้าวที่จะต้องทำ ดังนั้น เราจึงยังไม่สำเร็จแน่ๆ
"หากถามว่ากว่าจะเป็นที่รู้จัก หรือกว่าที่จะมีคนสนใจเรากำลังทำอะไรอยู่ ต้องบอกว่าเราใช้เวลาประมาณ 7 ปีที่ตั้งบริษัทมา โดยที่ในปีแรกๆขาดทุนมาตลอด แต่ก็อดทนรอ ผมเชื่อว่าความสามารถในการอดทนค่อนข้างสำคัญมากในการทำ Startup เพราะมันไม่ได้รวยเร็ว เพียงแต่ว่าฝันมันใหญ่ หรือจะกล่าวก็คือ หากรวยช้าแต่สำเร็จก็มีโอกาสสูงมากที่จะกลายเป็นเกมที่ใหญ่มากๆ ซึ่งเกมที่เราเล่นไม่ใช่แค่เกมเล็กๆ เราไม่ได้หวังแค่ในประเทศแต่เราหวังว่าจะเติบโตในระดับโลก "
ส่วนเป้าหมายในอนาคตนั้น ธีระชาติหวังเพียงแค่ให้คนไทยหันมาสนใจการลงทุนในตลาดหุ้นกันมากขึ้น เพราะหัวใจหลักของ Stockradars ก็คือ การทำเรื่องหุ้นให้เป็นเรื่องง่าย และพยายามออกแบบให้ใช้งานง่าย ทำให้นักลงทุนได้เข้าถึง เมื่อมีผู้ลงทุนมากขึ้นก็จะมีคนที่เข้ามาใช้งาน Stockradars มากขึ้นตามไปด้วย โดยปัจจุบันมีเพียง 1% ของประชากรไทยที่ลงทุนในตลาดหุ้น หากทำให้เพิ่มขึ้นได้เป็น 2% ก็หมายความว่าขนาดของตลาดจะโตจาก 100% เป็น 200% ซึ่งเป็นจำนวนที่มหาศาล
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,164 วันที่ 9 - 11 มิถุนายน พ.ศ. 2559