แกรมมี่ตั้งทีมผลิตคอนเทนต์ เพิ่มเรตติ้งดันรายได้800ล้าน

08 มิ.ย. 2559 | 11:00 น.
แกรมมี่ตั้งทีม GMM BRAVO เดินหน้าผลิตคอนเทนต์หวังเพิ่มเรตติ้ง GMM 25 พร้อมชู 3 กลยุทธ์พัฒนาคอนเทนต์เพลง/เจาะกลุ่มเป้าหมายหลัก/สร้างประสบการณ์ร่วม เสริมช่องให้แข็งแกร่ง มั่นใจดันรายได้ช่องทะลุ 800 ล้าน ก่อนขยายคอนเทนต์สู่ตลาดเออีซี

[caption id="attachment_60113" align="aligncenter" width="342"] ฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม  ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาดและการขาย  บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม
ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาดและการขาย
บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)[/caption]

นายฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาดและการขาย บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทจัดตั้งทีม GMM BRAVO ขึ้น เพื่อทำหน้าที่ผลิตคอนเทนต์คุณภาพ เพื่อใช้เป็นยุทธศาสตร์เชิงรุกในการเพิ่มเรตติ้งและการเติบโตให้กับช่อง จีเอ็มเอ็ม25 พร้อมใช้กลยุทธ์ NEW CONTENT SOLUTION ผ่านจุดแข็งของแกรมมี่3 ข้อ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและนักการตลาด ประกอบด้วย 1. การพัฒนาคอนเทนต์เพลง (POWER OF MUSIC CONTENT) ซึ่งเป็นคอนเทนต์หลักที่แข็งแรงของบริษัท และอยู่ในไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมาแปลงเป็นคอนเทนต์ทีวี เพราะหลังจากนี้เพลงจะไม่ใช่แค่เพลงอีกต่อไป โดยปัจจุบันเพลงของแกรมมี่ มีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 80% ในอุตสาหกรรมเพลงทั้งหมดในประเทศไทย อีกทั้งมีคลื่นสถานีวิทยุที่เป็นพันธมิตรอยู่ทั่วประเทศและศิลปินจำนวนมากที่มีงานแสดงสดทั่วประเทศกว่า 6 พันงานต่อปี

ทั้งนี้จากผลสำรวจฐานข้อมูลในส่วนของดิจิตอลแพลตฟอร์ม พบว่าบน YouTube ช่องแกรมมี่ในเครือทั้งหมด มียอดวิวสะสมรวมกว่า 1.7 หมื่นล้านวิว และช่องแกรมมี่ ออฟฟิศเชียล ครองอันดับ 1 ของยูทูปไทยแลนด์ มียอดผู้ติดตามกว่า 7 ล้านคน ส่วนยอดผู้ติดตามในโซเชียลมีเดียใน FACEBOOK กว่า 38 ล้านคน ซึ่งข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ทำให้บริษัทสามารถวิเคราะห์ถึงกลุ่มเป้าหมาย และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้ว่าต้องการเสพคอนเทนต์ในลักษณะใด

2. การนำพาคอนเทนต์ไปสู่กลุ่มเป้าหมาย (THE RIGHT TARGET) ซึ่งปัจจุบันช่องจีเอ็มเอ็ม 25 มีกลุ่มผู้ชมเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีอายุ 15-34 ปี โดยกลุ่มผู้ชมดังกล่าวเป็นกลุ่มที่แกรมมี่รู้จักเป็นอย่างดี เนื่องจากตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมาบริษัทสื่อสารกับกลุ่มผู้ชม ผู้ฟังกลุ่มนี้มาตลอด อีกทั้งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและยังเป็นกลุ่มที่มีส่วนร่วมกับการเล่นกิจกรรมกับคอนเทนต์ออนไลน์ต่อเนื่อง อาทิ Youtube ,Line และ Facebook หรือมีการเติบโตขึ้นมากกว่า 400% ในปี 2558 เมื่อเทียบกับปี 2557

3. การเพิ่มศักยภาพของการมีส่วนร่วมระหว่างกลุ่มเป้าหมาย ( TOTAL VIEWER EXPERIENCE) โดยช่องจะนำคอนเทนต์ไปสู่คนดูแบบมัลติแพลตฟอร์ม ด้วยการผนวกทุกแพลตฟอร์ม ตั้งแต่ ดิจิตอลทีวี แซทเทิลไลท์ ดิจิตอลแพลตฟอร์ม โซเชียลมีเดีย และออนกราวนด์ เข้าด้วยกัน ซึ่งกลยุทธ์นี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับนักโฆษณา นักการตลาด และสปอนเซอร์ ในการสื่อสารแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไรก็ดี การรุกสร้างความเข้มแข็งนี้จะส่งผลให้ช่อง GMM 25 มีรายได้รวม 800 ล้านบาทเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่ GMM BRAVO จะมีรายได้กว่า 200 ล้านบาทในสิ้นปีนี้

“คอนเทนต์ที่จะผลิตขึ้นใหม่นี้จะเน้นความสำคัญคอนเทนต์ต้องโดน และต้องมาจากประเด็นและกระแสของชีวิตคน โดยเบื้องต้นบริษัทได้ใช้งบประมาณผลิตคอนเทนต์ซีรีส์ชุดแรก จำนวน 10 เรื่องราว 150 ล้านบาท อาทิ คนไม่มีแฟน ปีนผาคว้าเลิฟ ,Man in the rain , Daddy จำเป็น และอื่นๆ โดยซีรีส์ทั้ง 3 ชุด กำหนดออนแอร์ทางช่อง จีเอ็มเอ็ม 25 ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ ในช่วงไพร์มไทม์ เวลา 21.30-22.30 น. ขณะเดียวกันช่องทางการหารายได้สำหรับโปรเจ็กต์นี้กว่า 80% มาจากการขายโฆษณาผ่านทางโทรทัศน์ และ 20% มาจากการขายผ่านช่องทางออนไลน์”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,163 วันที่ 5 - 8 มิถุนายน พ.ศ. 2559