พฤกษารุกบ้านประหยัดพลังงาน ชู ‘เดอะแพลนท์เอสทีคพัฒนาการ’รองรับเมกะเทรนด์
นับเป็นเวลากว่าทศวรรษที่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ ภายใต้นวัตกรรมอันทันสมัยอย่าง "ระบบพรีแคสต์" แม้ว่าในช่วงแรกจะไม่เป็นที่ยอมรับของตลาดมากนัก แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของนายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่เล็งเห็นว่านวัตกรรมดังกล่าวจะสามารถควบคุมคุณภาพได้ทุกขั้นตอน ตลอดจนควบคุมระยะเวลาการก่อสร้าง ช่วยลดการใช้แรงงาน ลดการสูญเสียวัสดุ และลดขยะการก่อสร้างที่หน้างาน
อีกมีข้อดีหลายประการ เมื่อเทียบกับการก่อสร้างแบบเดิม ไม่ว่าจะเป็น ด้านความแข็งแรงทนทาน สามารถต้านทานแรงลมและแรงแผ่นดินไหว เก็บเสียงได้ดีกว่า และเนื่องจากใช้ผนังรับน้ำหนักจึงไม่มีเสา-คาน ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นและสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ลงตัวยิ่งขึ้น ส่งผลให้นวัตกรรมดังกล่าวเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายในประเทศ และได้ชื่อว่าเป็นผู้นำนวัตกรรมด้านการสร้างที่อยู่อาศัยรายแรกของประทศ และยกให้เป็นโรงงานพรีแคสต์ที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในโลกอีกด้วย ซึ่งปัจจุบัน บมจ.พฤกษา มีโรงงานพฤกษา พรีแคสต์ทั้งหมด 7 โรงงาน มีกำลังการผลิตบ้านรวมสูงถึง 1,120 หน่วยต่อเดือนหรือ 6.5 ล้านตร.ม.ต่อปี โดยได้เลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในโลกจากประเทศเยอรมนี อีกทั้งยังเป็น Green Factory แห่งแรกของประเทศไทย ด้วยการนำระบบ Concrete Recycling มาใช้ โดยนำน้ำทิ้งและเศษคอนกรีตจากการทำงานกลับมาใช้ในกระบวนการผลิตอีกครั้ง
[caption id="attachment_59743" align="aligncenter" width="399"]
เลอศักดิ์ จุลเทศ
รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม
บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)[/caption]
เดินหน้าตอบโจทย์เมกะเทรนด์
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วมบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เพื่อตอบโจทย์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง อาจไม่เหมาะสมกับการพัฒนาในเชิงพาณิชย์ บริษัท พฤกษาฯจึงนำความต้องการของกลุ่มลูกค้าเหล่านั้นมาแปลงออกมาเป็นบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการในอนาคต ซึ่งประกอบด้วย 4 เมกะเทรนด์ ได้แก่ 1.บ้านที่แข็งแรงปลอดภัย 2.บ้านที่ห่วงใยสุขภาพ 3.บ้านอนุรักษ์พลังงาน และ 4.บ้านที่มีดีไซน์และเทคโนโลยี โดยทั้ง 4 เมกะเทรนด์นี้จะถูกบรรจุลงในบ้านของพฤกษาทุกหลังนับจากนี้ไป
ต่อยอดนวัตกรรมสู่บ้านประหยัดพลังงาน
แม้จะได้ชื่อว่าเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมด้านการก่อสร้างที่อยู่อาศัย แต่บริษัท พฤกษาฯ ก็ไม่หยุดยั้งที่จะนำเรื่องของนวัตกรรมมาใช้ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจับมือนักวิจัยชาวเยอรมันร่วมพัฒนานวัตกรรมบ้านประหยัดพลังงาน
นายเลอศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาพัฒนาบ้านประหยัดพลังงาน ภายใต้คอนเซ็ปต์ "พฤกษา พลัส เฮ้าส์" (Pruksa Plus House) โดยจะนำร่องที่โครงการบ้านเดี่ยวเดอะแพลนท์ เอสทีค พัฒนาการ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ในช่วงเดือนมิถุนายน 2559
ด้าน นายสุภัทร รัตนะโสภณชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์นวัตกรรม บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท กล่าวเพิ่มเติมว่า พฤกษา พลัส เฮ้าส์ เป็นที่อยู่อาศัยที่สร้างขึ้นภายใต้วัตถุประสงค์หลัก 2 ข้อคือ 1.เพื่อวิจัยการสร้างบ้านแบบ Sustainable House เป็นบ้านที่สามารถสร้างพลังงานสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันได้เอง และ 2.เพื่อเป็นแบบมาตรฐานในการพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยมีเป้าหมายได้สิทธิบัตรรับรองจากเยอรมนี DGNB ซึ่งเป็นเอกสารใบรับรองมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก และในอนาคตจะพัฒนาโครงการนี้ต่อเป็น Pruksa Lab ที่จะเป็น Show Case สำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีของพฤกษาต่อไป
สำหรับรายละเอียดของบ้านต้นแบบจะมีการติดตั้งฉนวนกันความร้อนในบริเวณหลังคา / ผนัง / ฝ้าเพดาน พร้อมติดตั้งระแนงไม้รอบบ้าน ติดตั้ง Solar Cell แยะ Ice Storage เพื่อใช้เป็นถังเก็บความเย็นแทนเครื่องปรับอากาศ สำหรับพลังงานความร้อนจะถูกแปลงเป็นพลังงานที่ใช้ในเครื่องทำความร้อน-เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น ทั้งนี้ การสร้างพลังงานไฟฟ้าในบ้านจะใช้ระบบปรับอากาศรูปแบบธรรมชาติให้ไหลเวียนในตัวบ้าน ในส่วนของน้ำฝนที่ตกลงมาจะถูกกักเก็บในถังน้ำใต้ดิน เพื่อให้เป็นน้ำรดต้นไม้
เร่งศึกษาพัฒนาห้องน้ำแผ่น
นายอมรพล ธูปะวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการสายโรงงานพรีแคสต์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาร่วมกับนักพัฒนาชาวเยอรมันในการผลิตห้องน้ำแผ่น เพื่อใช้ในบ้านเดี่ยว เนื่องจากห้องน้ำสำเร็จรูปที่ใช้ในปัจจุบันไม่สามารถใส่ในบ้านเดี่ยวได้ เพราะจะทำให้ผนังมีความหนา ส่งผลต่อต้นทุนและประโยชน์การใช้งาน ซึ่งปัจจุบันการศึกษาดังกล่าวมีความคืบหน้ากว่า 50% รวมทั้งการพัฒนาลวดลายบนผนังสำเร็จรูป เช่น ลายหิน ลดการใช้วัสดุประเภทอื่นๆ
ทั้งนี้ บริษัท พฤกษาฯได้พัฒนาที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่ปี 2536-2558 รวมทั้งหมด 525 โครงการ ใช้ระบบพรีแคสต์ 476 โครงการ หรือคิดเป็น 91% ของโครงการทั้งหมด โดยแบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 112 โครงการ (26,084 หน่วย) ใช้พรีแคสต์ 100% ทาวน์เฮาส์ 345 โครงการ (113,940 หน่วย ) ใช้พรีแคสต์ 325 โครงการ คิดเป็น 94% ( ประมาณ 107,000 หน่วย) และคอนโดมิเนียม 68 โครงการ (7,114 หน่วย) ใช้พรีแคสต์ 39 โครงการ คิดเป็น 57% (ประมาณกว่า 4,000 หน่วย)
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,163 วันที่ 5 - 8 มิถุนายน พ.ศ. 2559
อีกมีข้อดีหลายประการ เมื่อเทียบกับการก่อสร้างแบบเดิม ไม่ว่าจะเป็น ด้านความแข็งแรงทนทาน สามารถต้านทานแรงลมและแรงแผ่นดินไหว เก็บเสียงได้ดีกว่า และเนื่องจากใช้ผนังรับน้ำหนักจึงไม่มีเสา-คาน ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นและสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ลงตัวยิ่งขึ้น ส่งผลให้นวัตกรรมดังกล่าวเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายในประเทศ และได้ชื่อว่าเป็นผู้นำนวัตกรรมด้านการสร้างที่อยู่อาศัยรายแรกของประทศ และยกให้เป็นโรงงานพรีแคสต์ที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในโลกอีกด้วย ซึ่งปัจจุบัน บมจ.พฤกษา มีโรงงานพฤกษา พรีแคสต์ทั้งหมด 7 โรงงาน มีกำลังการผลิตบ้านรวมสูงถึง 1,120 หน่วยต่อเดือนหรือ 6.5 ล้านตร.ม.ต่อปี โดยได้เลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในโลกจากประเทศเยอรมนี อีกทั้งยังเป็น Green Factory แห่งแรกของประเทศไทย ด้วยการนำระบบ Concrete Recycling มาใช้ โดยนำน้ำทิ้งและเศษคอนกรีตจากการทำงานกลับมาใช้ในกระบวนการผลิตอีกครั้ง
[caption id="attachment_59743" align="aligncenter" width="399"]
รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม
บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)[/caption]
เดินหน้าตอบโจทย์เมกะเทรนด์
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วมบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เพื่อตอบโจทย์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง อาจไม่เหมาะสมกับการพัฒนาในเชิงพาณิชย์ บริษัท พฤกษาฯจึงนำความต้องการของกลุ่มลูกค้าเหล่านั้นมาแปลงออกมาเป็นบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการในอนาคต ซึ่งประกอบด้วย 4 เมกะเทรนด์ ได้แก่ 1.บ้านที่แข็งแรงปลอดภัย 2.บ้านที่ห่วงใยสุขภาพ 3.บ้านอนุรักษ์พลังงาน และ 4.บ้านที่มีดีไซน์และเทคโนโลยี โดยทั้ง 4 เมกะเทรนด์นี้จะถูกบรรจุลงในบ้านของพฤกษาทุกหลังนับจากนี้ไป
ต่อยอดนวัตกรรมสู่บ้านประหยัดพลังงาน
แม้จะได้ชื่อว่าเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมด้านการก่อสร้างที่อยู่อาศัย แต่บริษัท พฤกษาฯ ก็ไม่หยุดยั้งที่จะนำเรื่องของนวัตกรรมมาใช้ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจับมือนักวิจัยชาวเยอรมันร่วมพัฒนานวัตกรรมบ้านประหยัดพลังงาน
นายเลอศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาพัฒนาบ้านประหยัดพลังงาน ภายใต้คอนเซ็ปต์ "พฤกษา พลัส เฮ้าส์" (Pruksa Plus House) โดยจะนำร่องที่โครงการบ้านเดี่ยวเดอะแพลนท์ เอสทีค พัฒนาการ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ในช่วงเดือนมิถุนายน 2559
ด้าน นายสุภัทร รัตนะโสภณชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์นวัตกรรม บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท กล่าวเพิ่มเติมว่า พฤกษา พลัส เฮ้าส์ เป็นที่อยู่อาศัยที่สร้างขึ้นภายใต้วัตถุประสงค์หลัก 2 ข้อคือ 1.เพื่อวิจัยการสร้างบ้านแบบ Sustainable House เป็นบ้านที่สามารถสร้างพลังงานสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันได้เอง และ 2.เพื่อเป็นแบบมาตรฐานในการพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยมีเป้าหมายได้สิทธิบัตรรับรองจากเยอรมนี DGNB ซึ่งเป็นเอกสารใบรับรองมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก และในอนาคตจะพัฒนาโครงการนี้ต่อเป็น Pruksa Lab ที่จะเป็น Show Case สำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีของพฤกษาต่อไป
สำหรับรายละเอียดของบ้านต้นแบบจะมีการติดตั้งฉนวนกันความร้อนในบริเวณหลังคา / ผนัง / ฝ้าเพดาน พร้อมติดตั้งระแนงไม้รอบบ้าน ติดตั้ง Solar Cell แยะ Ice Storage เพื่อใช้เป็นถังเก็บความเย็นแทนเครื่องปรับอากาศ สำหรับพลังงานความร้อนจะถูกแปลงเป็นพลังงานที่ใช้ในเครื่องทำความร้อน-เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น ทั้งนี้ การสร้างพลังงานไฟฟ้าในบ้านจะใช้ระบบปรับอากาศรูปแบบธรรมชาติให้ไหลเวียนในตัวบ้าน ในส่วนของน้ำฝนที่ตกลงมาจะถูกกักเก็บในถังน้ำใต้ดิน เพื่อให้เป็นน้ำรดต้นไม้
เร่งศึกษาพัฒนาห้องน้ำแผ่น
นายอมรพล ธูปะวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการสายโรงงานพรีแคสต์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาร่วมกับนักพัฒนาชาวเยอรมันในการผลิตห้องน้ำแผ่น เพื่อใช้ในบ้านเดี่ยว เนื่องจากห้องน้ำสำเร็จรูปที่ใช้ในปัจจุบันไม่สามารถใส่ในบ้านเดี่ยวได้ เพราะจะทำให้ผนังมีความหนา ส่งผลต่อต้นทุนและประโยชน์การใช้งาน ซึ่งปัจจุบันการศึกษาดังกล่าวมีความคืบหน้ากว่า 50% รวมทั้งการพัฒนาลวดลายบนผนังสำเร็จรูป เช่น ลายหิน ลดการใช้วัสดุประเภทอื่นๆ
ทั้งนี้ บริษัท พฤกษาฯได้พัฒนาที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่ปี 2536-2558 รวมทั้งหมด 525 โครงการ ใช้ระบบพรีแคสต์ 476 โครงการ หรือคิดเป็น 91% ของโครงการทั้งหมด โดยแบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 112 โครงการ (26,084 หน่วย) ใช้พรีแคสต์ 100% ทาวน์เฮาส์ 345 โครงการ (113,940 หน่วย ) ใช้พรีแคสต์ 325 โครงการ คิดเป็น 94% ( ประมาณ 107,000 หน่วย) และคอนโดมิเนียม 68 โครงการ (7,114 หน่วย) ใช้พรีแคสต์ 39 โครงการ คิดเป็น 57% (ประมาณกว่า 4,000 หน่วย)
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,163 วันที่ 5 - 8 มิถุนายน พ.ศ. 2559