เป้าจดค้าออนไลน์6 หมื่นราย ดันมูลค่าตลาด 2.1 ล้านล้าน

03 มิ.ย. 2559 | 13:00 น.
พาณิชย์เดินหน้ากระตุ้นผู้ประกอบการขยายช่องทางการค้าผ่านอี-คอมเมิร์ซ เจาะตลาดคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว ตั้งเป้าจดทะเบียนปีนี้ 6 หมื่นราย ขณะคาดมูลค่าการค้าออนไลน์ไทยปีนี้กว่า 2.1 ล้านล้าน เตรียมจัดงาน Thailand e-Commerce Day ยกระดับค้าออนไลน์ไทยสู่มาตรฐานสากล สร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อ-ขาย

[caption id="attachment_58792" align="aligncenter" width="363"] ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์[/caption]

นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (พค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ปัจจุบันการค้าขายผ่านช่องทางออนไลน์ หรืออี-คอมเมิร์ซเป็นที่นิยมของนักช็อปจากทั่วทุกมุมโลกเนื่องจากความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวก และรวดเร็ว ทำให้การซื้อขายสินค้าและบริการผ่านทางออนไลน์ขยายตัวอย่างรวดเร็วและมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในส่วนของประเทศไทยในปี 2559 มูลค่าตลาดการค้าออนไลน์คาดจะมีมูลค่าสูงถึง 2.1 ล้านล้านบาท

จากแนวโน้มดังกล่าวทางกรม ได้เล็งเห็นว่าการค้าขายในช่องทางนี้ยังต้องการการกระตุ้นและส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจของไทยใช้อี-คอมเมิร์ซเป็นเครื่องมือช่วยเพิ่มโอกาสในการจำหน่ายสินค้าและบริการ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จำนวน1.58 หมื่นราย เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 277 ราย (จากเป้าหมายในปีนี้ 6 หมื่นราย) ประกอบด้วยนิติบุคคล 4.016 พันราย คิดเป็นสัดส่วน 26% บุคคลธรรมดา 1.18 หมื่นรายสัดส่วน74% ขณะที่มีร้านค้าออนไลน์ที่ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จำนวน 1.77 หมื่นร้านค้า เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (มี.ค. 59) 292 ร้านค้า หรือเพิ่มขึ้น 1.7% ส่วนธุรกิจที่ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered สูงสุด 3 อันดับแรกประกอบด้วยธุรกิจแฟชั่น/เครื่องแต่งกาย/เครื่องประดับ จำนวน 2.924 พันร้านค้า คิดเป็น 16%, ธุรกิจคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ ไอที และซอฟต์แวร์ จำนวน 2.621 พันร้านค้า คิดเป็น 15% และธุรกิจการแพทย์ สุขภาพ ยา สมุนไพร สปา จำนวน 2.461 พันร้านค้า คิดเป็น 14%

"เครื่องหมาย DBD Registered จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นในการเลือกซื้อสินค้าและบริการให้กับผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น โดยกรมประสานขอความร่วมมือกับตลาดกลางออนไลน์ให้กำกับดูแลสมาชิกให้มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายเพราะหากปฏิบัติไม่ถูกต้องจะมีโทษปรับ และอาจถูกพิจารณางดให้บริการเข้าขายสินค้าในตลาดกลางด้วย โดยปรับครั้งแรก 2 พันบาท และปรับอีกวันละ100บาท จนกว่าจะมีการจดทะเบียนให้ถูกต้อง"

อย่างไรก็ดีเพื่อเป็นการกระตุ้นการค้าอี-คอมเมิร์ซให้ขยายตัวมากขึ้น ทางกรมได้เตรียมจัดงาน Thailand e-Commerce Day ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 9-11 มิถุนายน 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยส่วนหนึ่งจะมีพิธีมอบรางวัลให้กับเว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ดีเด่นตามนโยบายของ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการกระตุ้นและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสร้างร้านค้าออนไลน์และมีการบริหารจัดการที่ดีมีมาตรฐานคุณภาพ ขณะที่ภายในงานยังมีกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการค้าออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นมุมมองและทิศทางอี-คอมเมิร์ซไทย การเปิดตลาดโลกกับอี-คอมเมิร์ซข้ามพรมแดน เทคนิค การมัดใจลูกค้า กลเม็ดเคล็ดลับการตลาดดิจิตอล การสร้างความเชื่อมั่นให้ร้านค้าออนไลน์ รวมถึงการแสดงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ e- Commerce เช่นการบริการจัดทำเว็บไซต์สำเร็จรูป การให้บริการจดโดเมนเนม การจัดส่งสินค้า การชำระเงิน (e-Payment) การให้สินเชื่อแก่ธุรกิจ นอกจากนี้กรมยังอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์สามารถยื่นคำขอจดทะเบียนพาณิชย์ได้ในงานดังกล่าวอีกด้วย

"การจัดงานครั้งนี้จะจุดประกายทางความคิดและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยได้มองเห็นโอกาสและใช้ประโยชน์จากตลาดอี-คอมเมิร์ซมาเป็นอาวุธสำคัญในการบุกตลาดในประเทศและต่างประเทศสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และเพิ่มยอดขายให้แก่สินค้าและบริการได้อย่างดี และจะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวม ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถให้ผู้ประกอบการไทยพร้อมรุกและรับมือกับการแข่งขันในตลาดระดับโลก"

Photo : Pixabay
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,162 วันที่ 2 - 4 มิถุนายน พ.ศ. 2559