ตลาดหลักทรัพย์ฯชี้ญี่ปุ่นสนใจกองทุน ETF

26 พ.ค. 2559 | 08:04 น.
Breaking-News ดร.สันติ  กีระนันทน์  รองผู้จัดการ  หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์  ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)เปิดเผยว่าในการเดินทางไปนำเสนอข้อมูล หรือโรดโชว์ที่ประเทศฮ่องกง  และญี่ปุ่นพบว่า  นักลงทุนที่ประเทศญี่ปุ่นให้ความสนใจกองทุนเปิดที่จดทะเบียน  และซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (Exchange Traded Fund : ETF) โดยมองว่าเหตุใดยังไม่ได้พัฒนาไปมากนัก  และจะมีโอกาสหรือไม่ที่จะพัฒนาให้มีสภาพคล่องมากกว่าในปัจจุบัน  เนื่องจากรายได้ที่ได้จากนักลงทุนที่ซื้อขายหุ้นปกติไม่ได้มีอัตราการเติบโตมากนัก  ดังนั้น  จึงเริ่มให้ความสนใจกับการลงทุนรูปแบบอื่น เช่น ETF เป็นต้น

ส่วนที่ฮ่องกงส่วนใหญ่จะสนใจแต่บริษัทจดทะเบียน (บจ.) เป็นหลักอย่างไรก็ดี  หลังจากที่ได้มีการนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนทั้ง 2 แห่งดังกล่าวแล้วพบว่า  นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาให้ความสนใจลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น  อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะปรับน้ำหนักการลงทุน  หลังจากที่ผ่านมาได้มีการปรับลดน้ำหนักการลงทุน (Underweight) มาหลายปี  โดยจะเห็นได้จากปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติมีการเข้าซื้อสุทธิ (Net Buy) ตลาดหุ้นไทย  หลังจากที่ปี 58 มีการขายสุทธิ (Net Sell)  เนื่องจากผลประกอบการของ บจ. ในไตรมาสที่ 1/59 ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์  และภาพรวมดัชนีหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นดีกว่าหลายประเทศในภูมิภาค  ทำให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาสนใจตลาดหุ้นไทยดังกล่าว

“ในปี 59 นี้ตลาดหุ้นในอาเซียนที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจะมีอยู่แห่งได้แก่ ประเทศไทย  และอินโดนีเซีย  นี่จึงเป็นส่วนหนึ่งของปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติหันมาให้ความสนใจตาดหุ้นไทย  และจะปรับน้ำหนักการลงทุนมากขึ้น”

สำหรับการไปโรดโชว์ในครั้งนี้นั้น  ที่ฮ่องกงพบกองทุนจำนวน 29 กองทุน จำนวนผู้เข้าฟัง 90 คน ที่ญี่ปุ่นพบกองทุน 18 กองทุน จำนวนผู้เข้าฟัง 147 คน ซึ่งกองทุนให้ความสนใจเข้าฟังข้อมูลในลักษณะหนึ่งต่อหนึ่ง (One on One)และแบบกรุ๊ป รวม 237 ครั้ง เต็มทุกรอบ และได้มีการขอเพิ่มรอบในการเข้าพบ บจ. ซึ่งถือว่าไม่เคยเกิดเหตุการณ์นี้มาก่อน   นอกจากนี้ กองทุนยังได้ขอเข้าพบ ตลท.ด้วย เพื่อรับฟังข้อมูลภาพรวมเศรษฐกิจไทย  รวมถึงภาพรวมตลาดหุ้นไทยและสถานการณ์การลงทุน  ที่สำคัญยังได้มีการสอบถามถึงประเด็นการเมืองไทยว่ามีประเด็นที่น่ากังวลอะไรบ้าง ซึ่งตลท.ได้ให้ข้อมูลในเรื่องการทำประชามติว่าจะเสร็จในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งต้องติดตามต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร แต่จะเป็นไปตามโรดแมปที่รัฐบาลวางไว้จะมีการเลือกตั้งในปีหน้า

สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่ไปโรดโชว์ครั้งนี้มีทั้งหมด 11 บริษัท และอีก 1 กองทุน ประกอบด้วย บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD  ,บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA  ,บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG  ,บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL  ,บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO  ,บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP   ,บริษัทเดลต้าอีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ,บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC  ,บริษัท บิวตี้คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY  ,บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน)หรือ MINT   ,บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมดิจิทัล (DIF)

ขณะที่บริษัทที่ไปโรดโชว์ทั้งญี่ปุ่นและฮ่องกง ประกอบด้วย SAWAD CHG CENTEL โรดโชว์ที่ฮ่องกงประเทศเดียว คือ EA TASCO TCAP DELTA และโรดโชว์ญี่ปุ่นที่เดียว คือ BEAUTY MINT CPF SCC และกองทุน DIFอย่างไรก็ดี  ในปีนี้ ต.ล.ท. ยังมีแผนที่จะไปโรดโชว์ต่างประเทศอีก 3 ครั้ง  ได้แก่ ประเทศสิงคโปร์  และสหรัฐอเมริกาช่วงประมาณกลางปี  และที่ประเทศญี่ปุ่นอีกครั้งหนึ่งในช่วงเดือนตุลาคม  ขณะที่โรดโชว์ในประเทศจะอยู่ในปลายปีกับงานไทยแลนด์โฟกัส