บรรยากาศการลงทุนดัชนีตลาดโดยรวมแย่ลง หุ้นที่ปรับลดลงมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งหมายความว่านักลงทุนจะลงทุนอย่างระมัดระวังและเลือกซื้อหุ้นเป็นรายตัวแต่เน้นขายหุ้นที่ปรับตัวลงหลุดแนวรับหรือเปลี่ยนรอบเป็นขาลง เราคาดดัชนีตลาดหุ้นไทยน่าจะยังคงอยู่ในช่วงแนวโน้มขาลง จากสัญญาณ Dead cross (เส้นค่าเฉลี่ย 10&25 วัน) 1380 จุด ในระยะนี้นักลงทุนจะมุ่งเน้นความสนใจไปที่การประชุมการประชุมFed วันที่ 14-15 มิ.ย. สถานการณ์ล่าสุดมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ย หากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวต่อเนื่อง อาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐน่าจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ในระยะกลาง ด้านราคาราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีความผันผวนสูงเนื่องจากอุปทานที่ลดลงจากแหล่งผลิตที่แคนาดาและไนจีเรีย ขณะที่ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯมีแนวโน้มลดลง จากจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี อย่างไรก็ตาม ราคายังคงได้รับแรงกดดันหรือปัจจัยลบจาก ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบประทเศอิหร่านที่ยังคงเพิ่มปริมาณการส่งออกและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น
สัญญาณทางเทคนิคชี้ว่า ตลาดจะมีความผันผวนสูงสุดในเร็วๆนี้และจะส่งผลให้ดัชนีหลักลดลงอย่างมาก ซึ่งถือว่าเป็นจุดการปรับตัวไปสู่ระดับ Oversold ปัจจุบันดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลงทดสอบระดับ 1380 ( เส้นค่าเฉลี่ยและTrend line support) กรณีหลุดอาจส่งสัญญาณเชิงลบ อาจเป็นจุดเปลี่ยนการปรับตัวลงของตลาด
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
Small-Cap Playbook 1Q16 earnings wrap & picks for 2Q16
กลุ่มอุปกรณ์ IT โดดเด่นตามคาด
COM7 (BUY, TP 9.0 บาท): กำไร 1Q16 ที่ 89 ล้านบาท (มากกว่าคาด 7%) เพิ่มขึ้น 25% YoY ไฮไลท์คือ อัตรากำไรขั้นต้นที่ 13.4% ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ 1Q15 ที่ 12.7% และดีกว่า 4Q15 ที่ 12.5% คาดกำไร 2Q16 จะเติบโตสูง YoY และโตต่อเนื่อง QoQ จากปัจจัยหนุน 1) ผลตอบรับ iPhone SE ที่ดีเกินคาด จะช่วยหนุนกำไรในช่วง 2Q-3Q16 เติบโตดีแม้จะเป็น low season 2) ยอดเปิดเบอร์มือถือเริ่มปรับตัวสูงขึ้น และคอมมิชชั่นอัตราใหม่ 3) คาดโปรโมชั่น True จะเพิ่มโอกาสในการขายให้กับบริษัท
SYNEX: รายงานกำไรสุทธิ 1Q16 ที่ 99 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 24%YoY และ ทรงตัว QoQ) กำไรหลักจะอยู่ที่ 73 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 27%YoY และ 29%QoQ) แม้ผลประกอบการ 2Q16 จะมีแนวโน้มเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ จากการเข้าสู่ high season แต่คาดราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมา 30%YTD ตามคำแนะนำ ซื้อ ก่อนหน้านี้ จนเกินมูลค่าที่เราประเมินแล้ว ได้สะท้อนปัจจัยบวกไปส่วนหนึ่งแล้ว จึงแนะนำเต็มมูลค่า
คาดกำไรโตแรง 2Q16 ไปจนถึงครึ่งปีหลัง
BWG (BUY; TP 2.5): รายงานกำไร 1Q16 ที่ 84 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 37%YoY และ 14%QoQ) คาดกำไรครึ่งปีหลังจะเติบโตโดดเด่นโดยได้ปัจจัยหนุนจาก 1) สายการผลิตเชื้อเพลิงอัดแท่ง (RDF) ที่ 2 ที่จะพร้อมใช้งานส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มเป็น 600 ตัน/วัน 2) การรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าแห่งแรกขนาด 9.4MW ที่จะ COD ในช่วง 3Q-4Q16 นี้
SMT (BUY; TP 9.15): รายงานกำไรสุทธิ 1Q16 ที่ 38 ล้านบาท พลิกมีกำไรเมื่อเทียบกับ 1Q15 ที่ขาดทุน และเติบโตจาก 4Q15 ที่มีกำไร 15 ล้านบาท (เป็นไปตามคาด) คาด 2Q16 บริษัทจะมีกำไรที่ดีขึ้น QoQ (และพลิกจากขาดทุนใน 2Q15) และโดดเด่นขึ้นอีกในช่วง 2H16 จากการเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงอย่างเช่น Wafer dicing อีก 33% เป็น 200 ล้านชิ้น/เดือน ซึ่งได้มีการเริ่มผลิตแล้วตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และการเริ่มทดลองผลิตสินค้าในกลุ่ม Medical Products อย่างเช่น Muscle Stimulator และ TMDD
BKD (BUY; TP 4.1): กำไรหลัก 1Q16 อยู่ที่ 30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28%YoY แต่ลดลง 14% QoQ อย่างไรก็ดีมีรายการพิเศษจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 13 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 17 ล้านบาท เรามองว่ากำไรจะเริ่มปรับตัวขึ้นตั้งแต่ 2Q16 เป็นต้นไป เพราะบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้ในโครงการต่างๆอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นไปตามการรับรู้รายได้แบบ S-curve เช่นโครงการตกแต่งภายในอาคารของ กทม. มูลค่าราว 800 ล้านบาท ที่จะมีการเร่งโครงการให้เสร็จภายในปีนี้ (จากเดิมกลางปีหน้า) และยังมีโอกาสที่จะได้กลับรายการที่ตั้งสำรองราว 28 ล้านบาทในช่วง 2H16 เมื่อปิดโครงการด้วย
(-) ADVANC เราปรับคำแนะนำลงเป็น ถือ และปรับราคาเป้าหมายลง 35% เป็น 140 บาท ภายใต้สมมติฐานการปรับคาดการณ์กำไรลง 7% ในปีนี้ และ 17-28% ในปี 2017-28 ในกรณีที่บริษัทได้ใบอนุญาติคลื่น 900MHz มาในราคา 7.6 หมื่นล้านบาท ในการประมูลวันศุกร์นี้ นอกจากนี้เราคาดบริษัทจะมีการปรับลดนโยบายปันผล (payout ratio) ลงจากเดิม 100% เป็น 80% ส่งผลให้ dividend yield ลดลงเหลือ 5% ในปีนี้ และลดลงเหลือ 4% ในปีถัดไป (จากเดิม 6-7%)
ที่มา:บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง