ขู่ทีวีดิจิตอลจ่ายงวด3ช้าคิดดอกรายวัน
ลุ้นคสช. ใช้มาตรา 44 สั่งชะลอจ่ายค่าประมูลทีวีดิจิตอลงวด 3 จนนาทีสุดท้าย "พีพีทีวี" โอดผิดหวังกับบอร์ดไร้ปราณี หลังขู่เก็บดอกเบี้ยรายวันหากไม่ชำระภายใน 23 พ.ค. ขณะที่เวิร์คพอยท์-ช่อง 3 ย้ำควักแน่ตามกำหนด ด้าน "ช่อง 7 – โมโน 29" นำร่องจ่ายแล้ว ฟาก "กสทช." ออกประกาศเตือนไม่จ่ายคิดดอกเบี้ยรายวัน 7.5% ต่อปีพร้อมพักใช้หรือถอนใบอนุญาต
[caption id="attachment_55916" align="aligncenter" width="700"]
ผลประกอบการณ์ทีวีดิจิตอลไตรมาส 1/2559[/caption]
นายเขมทัตต์ พลเดช อุปนายกสมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทบางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด ผู้บริหารช่อง "พีพีทีวี เอชดี" เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า พีพีทีวีรวมทั้งผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลทั้ง 7 ช่อง ประกอบไปด้วย ONE 31 , GMM 25 , ไทยรัฐทีวี , NOW , เนชั่นทีวี , สปริงนิวส์และไบร์ททีวี ยังไม่ชำระเงินค่าประมูลงวดที่ 3 โดยจะรอความคืบหน้ากรณีที่ยื่นฟ้องศาลและยื่นหนังสือถึงหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้ใช้อำนาจรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 มาตรา 44 ไปวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมาเพื่อขอให้แก้ไขปัญหาความล้มเหลวของการเปลี่ยนผ่านการรับชมโทรทัศน์จากระบบอนาล็อกไปสู่ระบบดิจิตอลของประเทศไทยก่อน
"ผู้ประกอบการค่อนข้างผิดหวังกับบอร์ด กสทช.อย่างมากที่ไม่ยอมรับมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ไม่เลื่อนจ่ายค่าใบอนุญาตงวดที่ 3 ซึ่งการเลื่อนจ่ายเงินเพื่อต้องการนำเงินดังกล่าวไปพัฒนาคอนเทนท์ให้ดีขึ้น นี่คือสิ่งที่เรียกร้องมาตลอด 2 ปีแต่กสทช.ไม่เคยอนุมัติ อย่างไรก็ดี หลังจากที่มีการประชุมร่วมกันกับผู้ประกอบการทั้ง 8 ช่องลงความเห็นว่า จะรอจนกว่าจะถึงวันที่ครบกำหนดชำระเงินค่าใบอนุญาตงวดที่ 3 คือวันที่ 23 พฤษภาคม 2559 ก่อนที่จะตัดสินใจอีกครั้ง"
เวิร์คพอยท์พร้อมจ่าย 23 พค.
ด้านนายชลากรณ์ ปัญญาโฉม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานดิจิทัลทีวี บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) (บมจ.) กล่าวว่า บริษัทยืนยันว่าจะดำเนินการชำระค่าประมูลใบอนุญาตงวดที่ 3 ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดแน่นอน โดยส่วนตัวมองว่าในแง่ของกฎหมายควรจะต้องเป็นไปตามหลักการประมูลหรือตามข้อกฎหมายที่กำหนด เพราะหากไม่เป็นไปตามที่กำหนดอาจจะมีผลกระทบตามมาภายหลังได้ เช่น ผู้ที่ประมูลช่องทีวีไม่ได้เมื่อ 2-3 ปีก่อนอาจจะท้วงติง หรือ อาจจะทำให้การประมูลอะไรก็ตามในครั้งถัดไปจะเกิดปัญหาตามมาภายหลังได้ เป็นต้น
สำหรับผลประกอบการไตรมาสแรกที่ผ่านมา พบว่า เวิร์คพอยท์มีรายได้รวม 546.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นรายได้จากรายการโทรทัศน์รวม 495.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% มาจากค่าโฆษณาและโปรโมท ค่าเช่าเวลา รวมถึงการรับจ้างผลิตรายการให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อออกอากาศในช่องเวิร์คพอยท์ และจากตัวเลขการเติบโตดังกล่าวบริษัทเชื่อว่าแนวโน้มในปีนี้บริษัทจะสามารถทำรายได้กลุ่มธุรกิจทีวีตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ราว 2.4 -2.6 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.8 พันล้านบาท
ช่อง3 โอดขาดทุน แต่ยอมจ่าย
นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการและปฏิบัติหน้าที่แทนรักษาการกรรมการผู้จัดการ ไทยทีวีสีช่อง 3 เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมชำระค่างวดที่ 3 ของช่อง 3 Family , ช่อง 3 SD และช่อง 3 HD ให้แก่กสทช. ภายในกำหนดเวลาที่วางไว้ แม้ภาพรวมรายได้ทีวีปีนี้ยังอยู่ในภาวะขาดทุน เนื่องจากภาพรวมของเศรษฐกิจในประเทศไทยปีนี้ค่อนข้างชะลอตัว ซึ่งจากเดิมบริษัทคาดว่าจะเริ่มเห็นกำไรธุรกิจดีขึ้น แต่เมื่อได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวจึงส่งผลให้ธุรกิจทีวีไตรมาสแรกลดลงราว 10% ขณะที่ภาพรวมบีอีซีกรุ๊ปลดลงไปราว 16%
"ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ของไร่ส้ม ที่ส่งผลทำให้คุณสรยุทธ์ต้องยุติการดำเนินรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทำให้ภาพรวมเรตติ้งของช่องลดลงไปด้วย แต่อย่างไรก็ตามยังเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาด ที่ไม่ใช่เรตติ้งเฉพาะช่อง 3 เท่านั้นที่ลดลง แต่เรตติ้งหรือจำนวนผู้ชมของทุกช่องก็ลดลงเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงส่งผลกระทบต่อรายได้โฆษณาที่ลดลงด้วย โดยขณะนี้บริษัทพยายามปรับผังรายการต่อเนื่องเพื่อให้ตรงกับพฤติกรรมผู้ชม ล่าสุดได้นำคอนเทนต์ฟุตบอลยูโรเข้ามาเพื่อเรียกกระแสผู้ชมกลับเข้ามาอีกครั้ง นอกจากนี้ยังรวมถึงการนำคอนเทนท์ใหม่ๆ อาทิ ละคร รายการวาไรตี้ ฯลฯ เข้ามาเพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายขยายฐานผู้ชมเพิ่ม ทั้งนี้บริษัทยังเชื่อว่าภาพรวมรายได้ปีนี้จะดีขึ้นกว่าปีก่อนอย่างแน่นอน"
ช่อง 7 –โมโน 29จูงมือจ่ายแล้ว
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 ได้ชำระค่าประมูลทีวีดิจิตอลหมวดหมู่ทั่วไปแบบความคมชัดสูง หรือ HD งวดที่ 3 ต่อสำนักงาน กสทช. จำนวน 559.61 ล้านบาท เป็นรายแรก ขณะเดียวกันบริษัท โมโนบรอดคาซท์ จำกัด ในเครือโมโนกรุ๊ป ก็ได้ชำระเงินค่าประมูลแล้ว โดยชำระรวม 3 งวดเป็นจำนวนเงิน 412 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา
สอดรับกับที่นายนวมินทร์ ประสพเนตร กรรมการผู้จัดการบริษัท โมโนบรอดคาซท์ จำกัด ในเครือโมโนกรุ๊ป กล่าวว่า ด้วยศักยภาพความพร้อมของโมโน 29 สามารถจ่ายค่าไลน์เซ่นของทีวีดิจิตอลในงวด 3 ได้ตามที่ กสทช. กำหนด โดยบริษัทชำระเงินจำนวน 412 ล้านบาท ในวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมาแล้ว และบริษัทเตรียมพร้อมในการขยายธุรกิจทั้งในด้านเงินทุน บุคคลากร และคอนเทนต์ โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าที่จะมีรายได้ 1.5 พันล้านบาท เติบโต 100% และมีเรตติ้งเพิ่มขึ้นที่ 0.8-0.9 จากปัจจุบันที่มีเรตติ้ง 0.6
กสทช. ขู่ไม่จ่ายคิดดอกรายวัน 7.5%
ด้านพันเอก ดร. นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า วันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา มติการประชุมคณะกรรมการกสทช. ได้ประกาศให้ผู้รับใบอนุญาตคลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ชำระค่าธรรมเนียมให้ถูกต้องครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยการชำระงวดที่ 3 จะต้องชำระภายในวันที่ 23 พฤษภาคนี้
ทั้งนี้หากไม่ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ครบถ้วนภายในเวลาที่กำหนด จะต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเป็นจำนวนเงินเท่ากับผลคูณของจำนวนค่าธรรมเนียมที่ค้างชำระกับอัตราดอกเบี้ย 7.5% คูณกับสัดส่วนของจำนวนวันที่ค้างชำระต่อจำนวนวันในหนึ่งปี (360 วัน) หากพ้นกำหนดกรอบระยะเวลาที่กำหนดชำระเงิน กสทช.จะถือว่าผู้รับใบอนุญาตกระทำผิดเงื่อนไข ซึ่งคณะกรรมการอาจพิจารณาพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต รวมถึงมอบหมายให้สำนักงานกสทช.ส่งหนังสือติดตามตรวจสอบชำระค่าใบอนุญาตและค่าธรรมเนียมดังกล่าวเพิ่มเติม
โดยยกตัวอย่างผู้รับใบอนุญาต A มียอดที่ต้องชำระงวดที่ 3 ภายในวันที่ 23 พฤษภาคม 2559 จำนวน 200 ล้านบาท แต่ไม่สามารถชำระได้ครบภายในวันที่กำหนด หรือจ่ายเพียงแค่ 100 ล้านบาท ผู้รับใบอนุญาตจะต้องนำส่งค่าธรรมเนียมเพิ่ม คือ 100 ล้านบาท(เงินคงค้างที่เหลือ) คูณด้วยดอกเบี้ย 7.5% คูณสัดส่วนของจำนวนวันที่ค้างชำระต่อจำนวนวันในหนึ่งปี (180/360) หรือ 3.75 ล้านบาท = 100 ล้านบาท +375 ล้านบาท = 103.75 ล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,159 วันที่ 22 - 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
[caption id="attachment_55916" align="aligncenter" width="700"]
นายเขมทัตต์ พลเดช อุปนายกสมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทบางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด ผู้บริหารช่อง "พีพีทีวี เอชดี" เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า พีพีทีวีรวมทั้งผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลทั้ง 7 ช่อง ประกอบไปด้วย ONE 31 , GMM 25 , ไทยรัฐทีวี , NOW , เนชั่นทีวี , สปริงนิวส์และไบร์ททีวี ยังไม่ชำระเงินค่าประมูลงวดที่ 3 โดยจะรอความคืบหน้ากรณีที่ยื่นฟ้องศาลและยื่นหนังสือถึงหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้ใช้อำนาจรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 มาตรา 44 ไปวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมาเพื่อขอให้แก้ไขปัญหาความล้มเหลวของการเปลี่ยนผ่านการรับชมโทรทัศน์จากระบบอนาล็อกไปสู่ระบบดิจิตอลของประเทศไทยก่อน
"ผู้ประกอบการค่อนข้างผิดหวังกับบอร์ด กสทช.อย่างมากที่ไม่ยอมรับมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ไม่เลื่อนจ่ายค่าใบอนุญาตงวดที่ 3 ซึ่งการเลื่อนจ่ายเงินเพื่อต้องการนำเงินดังกล่าวไปพัฒนาคอนเทนท์ให้ดีขึ้น นี่คือสิ่งที่เรียกร้องมาตลอด 2 ปีแต่กสทช.ไม่เคยอนุมัติ อย่างไรก็ดี หลังจากที่มีการประชุมร่วมกันกับผู้ประกอบการทั้ง 8 ช่องลงความเห็นว่า จะรอจนกว่าจะถึงวันที่ครบกำหนดชำระเงินค่าใบอนุญาตงวดที่ 3 คือวันที่ 23 พฤษภาคม 2559 ก่อนที่จะตัดสินใจอีกครั้ง"
เวิร์คพอยท์พร้อมจ่าย 23 พค.
ด้านนายชลากรณ์ ปัญญาโฉม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานดิจิทัลทีวี บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) (บมจ.) กล่าวว่า บริษัทยืนยันว่าจะดำเนินการชำระค่าประมูลใบอนุญาตงวดที่ 3 ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดแน่นอน โดยส่วนตัวมองว่าในแง่ของกฎหมายควรจะต้องเป็นไปตามหลักการประมูลหรือตามข้อกฎหมายที่กำหนด เพราะหากไม่เป็นไปตามที่กำหนดอาจจะมีผลกระทบตามมาภายหลังได้ เช่น ผู้ที่ประมูลช่องทีวีไม่ได้เมื่อ 2-3 ปีก่อนอาจจะท้วงติง หรือ อาจจะทำให้การประมูลอะไรก็ตามในครั้งถัดไปจะเกิดปัญหาตามมาภายหลังได้ เป็นต้น
สำหรับผลประกอบการไตรมาสแรกที่ผ่านมา พบว่า เวิร์คพอยท์มีรายได้รวม 546.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นรายได้จากรายการโทรทัศน์รวม 495.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% มาจากค่าโฆษณาและโปรโมท ค่าเช่าเวลา รวมถึงการรับจ้างผลิตรายการให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อออกอากาศในช่องเวิร์คพอยท์ และจากตัวเลขการเติบโตดังกล่าวบริษัทเชื่อว่าแนวโน้มในปีนี้บริษัทจะสามารถทำรายได้กลุ่มธุรกิจทีวีตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ราว 2.4 -2.6 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.8 พันล้านบาท
ช่อง3 โอดขาดทุน แต่ยอมจ่าย
นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการและปฏิบัติหน้าที่แทนรักษาการกรรมการผู้จัดการ ไทยทีวีสีช่อง 3 เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมชำระค่างวดที่ 3 ของช่อง 3 Family , ช่อง 3 SD และช่อง 3 HD ให้แก่กสทช. ภายในกำหนดเวลาที่วางไว้ แม้ภาพรวมรายได้ทีวีปีนี้ยังอยู่ในภาวะขาดทุน เนื่องจากภาพรวมของเศรษฐกิจในประเทศไทยปีนี้ค่อนข้างชะลอตัว ซึ่งจากเดิมบริษัทคาดว่าจะเริ่มเห็นกำไรธุรกิจดีขึ้น แต่เมื่อได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวจึงส่งผลให้ธุรกิจทีวีไตรมาสแรกลดลงราว 10% ขณะที่ภาพรวมบีอีซีกรุ๊ปลดลงไปราว 16%
"ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ของไร่ส้ม ที่ส่งผลทำให้คุณสรยุทธ์ต้องยุติการดำเนินรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทำให้ภาพรวมเรตติ้งของช่องลดลงไปด้วย แต่อย่างไรก็ตามยังเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาด ที่ไม่ใช่เรตติ้งเฉพาะช่อง 3 เท่านั้นที่ลดลง แต่เรตติ้งหรือจำนวนผู้ชมของทุกช่องก็ลดลงเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงส่งผลกระทบต่อรายได้โฆษณาที่ลดลงด้วย โดยขณะนี้บริษัทพยายามปรับผังรายการต่อเนื่องเพื่อให้ตรงกับพฤติกรรมผู้ชม ล่าสุดได้นำคอนเทนต์ฟุตบอลยูโรเข้ามาเพื่อเรียกกระแสผู้ชมกลับเข้ามาอีกครั้ง นอกจากนี้ยังรวมถึงการนำคอนเทนท์ใหม่ๆ อาทิ ละคร รายการวาไรตี้ ฯลฯ เข้ามาเพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายขยายฐานผู้ชมเพิ่ม ทั้งนี้บริษัทยังเชื่อว่าภาพรวมรายได้ปีนี้จะดีขึ้นกว่าปีก่อนอย่างแน่นอน"
ช่อง 7 –โมโน 29จูงมือจ่ายแล้ว
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 ได้ชำระค่าประมูลทีวีดิจิตอลหมวดหมู่ทั่วไปแบบความคมชัดสูง หรือ HD งวดที่ 3 ต่อสำนักงาน กสทช. จำนวน 559.61 ล้านบาท เป็นรายแรก ขณะเดียวกันบริษัท โมโนบรอดคาซท์ จำกัด ในเครือโมโนกรุ๊ป ก็ได้ชำระเงินค่าประมูลแล้ว โดยชำระรวม 3 งวดเป็นจำนวนเงิน 412 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา
สอดรับกับที่นายนวมินทร์ ประสพเนตร กรรมการผู้จัดการบริษัท โมโนบรอดคาซท์ จำกัด ในเครือโมโนกรุ๊ป กล่าวว่า ด้วยศักยภาพความพร้อมของโมโน 29 สามารถจ่ายค่าไลน์เซ่นของทีวีดิจิตอลในงวด 3 ได้ตามที่ กสทช. กำหนด โดยบริษัทชำระเงินจำนวน 412 ล้านบาท ในวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมาแล้ว และบริษัทเตรียมพร้อมในการขยายธุรกิจทั้งในด้านเงินทุน บุคคลากร และคอนเทนต์ โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าที่จะมีรายได้ 1.5 พันล้านบาท เติบโต 100% และมีเรตติ้งเพิ่มขึ้นที่ 0.8-0.9 จากปัจจุบันที่มีเรตติ้ง 0.6
กสทช. ขู่ไม่จ่ายคิดดอกรายวัน 7.5%
ด้านพันเอก ดร. นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า วันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา มติการประชุมคณะกรรมการกสทช. ได้ประกาศให้ผู้รับใบอนุญาตคลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ชำระค่าธรรมเนียมให้ถูกต้องครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยการชำระงวดที่ 3 จะต้องชำระภายในวันที่ 23 พฤษภาคนี้
ทั้งนี้หากไม่ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ครบถ้วนภายในเวลาที่กำหนด จะต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเป็นจำนวนเงินเท่ากับผลคูณของจำนวนค่าธรรมเนียมที่ค้างชำระกับอัตราดอกเบี้ย 7.5% คูณกับสัดส่วนของจำนวนวันที่ค้างชำระต่อจำนวนวันในหนึ่งปี (360 วัน) หากพ้นกำหนดกรอบระยะเวลาที่กำหนดชำระเงิน กสทช.จะถือว่าผู้รับใบอนุญาตกระทำผิดเงื่อนไข ซึ่งคณะกรรมการอาจพิจารณาพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต รวมถึงมอบหมายให้สำนักงานกสทช.ส่งหนังสือติดตามตรวจสอบชำระค่าใบอนุญาตและค่าธรรมเนียมดังกล่าวเพิ่มเติม
โดยยกตัวอย่างผู้รับใบอนุญาต A มียอดที่ต้องชำระงวดที่ 3 ภายในวันที่ 23 พฤษภาคม 2559 จำนวน 200 ล้านบาท แต่ไม่สามารถชำระได้ครบภายในวันที่กำหนด หรือจ่ายเพียงแค่ 100 ล้านบาท ผู้รับใบอนุญาตจะต้องนำส่งค่าธรรมเนียมเพิ่ม คือ 100 ล้านบาท(เงินคงค้างที่เหลือ) คูณด้วยดอกเบี้ย 7.5% คูณสัดส่วนของจำนวนวันที่ค้างชำระต่อจำนวนวันในหนึ่งปี (180/360) หรือ 3.75 ล้านบาท = 100 ล้านบาท +375 ล้านบาท = 103.75 ล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,159 วันที่ 22 - 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2559