Q1บริษัทจดทะเบียนโกยกำไร2.3แสนล้าน นักวิเคราะห์ชี้สัญญาณดี เตรียมอัพเป้าทั้งปี

20 พ.ค. 2559 | 03:00 น.
บริษัทจดทะเบียนไทย สุดแกร่ง ไตรมาสแรกโชว์กำไร 2.3 แสนล้านบาท พุ่งกระฉูด 40% เทียบไตรมาส 4 ปี 58 ขณะที่ทรงตัวเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน นักวิเคราะห์สานเสียงผู้ประกอบการในตลาดหุ้นโชว์ฟอร์มดีกว่าที่คาด เผยได้หุ้นบิ๊กแคปหนุนทั้งปตท. ปตท.สผ. ไทยออยล์ ปูนซิเมนซ์ไทย ซีพีเอฟ ชี้เริ่มเห็นสัญญาณการปรับประมาณการกำไรของตลาดในเชิงบวก ผนวกราคานํ้ามันดิบพุ่งสูงสุดในรอบ 7เดือน บล.เอเซีย พลัสฯเผยตลาดหุ้นยืนเหนือ 1,400 จุด เหตุคลายกังวลเรื่องเศรษฐกิจ

[caption id="attachment_54811" align="aligncenter" width="700"] บริษัทจดทะเบียนที่รายงานกำไรดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ บริษัทจดทะเบียนที่รายงานกำไรดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์[/caption]

บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ทิสโก้ จำกัด ระบุจากการรวบรวมผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) ในไตรมาส 1/25591 ( จำนวน 518 จาก 583 บริษัท หรือคิดเป็น 89%) มีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 2.32 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 40% เทียบไตรมาส 4/2558 ซึ่งไตรมาสดังกล่าวมีฐานกำไรต่ำเพียง 1.66 แสนล้านบาท และแทบไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน หากเทียบกับคาดการณ์กำไรของตลาดที่มีทั้งสิ้น 147 บริษัท จะมีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 1.89 แสนล้านบาท ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ 8% (ที่ 1.75 แสนล้านบาท)

สาเหตุที่กำไรบจ.ดีขึ้น หลักๆ มาจากกำไรของหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี อาทิ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)(บมจ.) ที่มีกำไรดีกว่าตลาดคาด 24% บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP ) มีกำไรดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ 64% นอกจากนี้มีบมจ.ไทยออยล์ บมจ.ไออาร์พีซี บมจ.โกลว์ พลังงาน บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย และบมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(ดูตารางประกอบ)

บทวิเคราะห์บล.ทิสโก้ ระบุว่า ด้วยกำไรไตรมาสแรกที่ดีกว่าคาด ทำให้เริ่มเห็นสัญญาณการปรับประมาณการกำไรของตลาดในเชิงบวก โดยในเดือนพฤษภาคมนี้ มีการปรับประมาณการกำไรขึ้นครั้งแรกในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา โดยมองว่ามีโอกาสจะเห็นการปรับประมาณการกำไรของตลาดชัดมากขึ้นในช่วง 2-4 สัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการจัดประชุมนักวิเคราะห์ และการจัดงานบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน ทำให้นักวิเคราะห์ได้ข้อมูลใหม่จากผู้บริหาร ประกอบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดสูงสุดรอบ 7 เดือน มาที่ 47 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล สำหรับน้ำมันเวสท์ เท็กซัส (WTI) และ 49 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลสำหรับน้ำมันเบรนท์ ( Brent)

สอดคล้องกับบทวิเคราะห์บล.เอเซีย พลัส มองภาพรวมกำไรบจ.ไตรมาส 1/2559 ฟื้นตัวมากเมื่อเทียบไตรมาส 4/2558 เนื่องจากฐานต่ำ และแทบไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรเพิ่มขึ้นทั้งเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบไตรมาส 4/2558 คือ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มปิโตรเคมี กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (ลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดทะเบียนจำนอง) ที่เพิ่งหมดอายุไปเมื่อปลายเดือนเมษายน 2559

สำหรับบจ.ที่มีกำไรแย่ลงมาก คือ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มสื่อสาร มีกำไรลดลงเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน แต่มีกำไรดีขึ้นเมื่อเทียบไตรมาส 4/2558 ในทิศทางเดียวกับภาพรวมของตลาด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยดีดฟื้นตัวจนสามารถกลับขึ้นมายืนเหนือ 1,400 จุด ได้อีกครั้ง เนื่องจากภาพรวมการลงทุนผ่อนคลายความกดดันภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยได้ระดับหนึ่ง หลังการประกาศตัวเลขผลิตภัฑณ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยเดือนเมษายน 2559 ออกมาดีกว่าคาดที่ระดับ 3.2 % ตลอดจนหุ้นในกลุ่มสื่อสารที่คลายความกังวลเรื่องราคาประมูลซ่อมคลื่น 900 MHz จะสูงไปกว่าราคาตั้งต้นมาก หลังคณะกรรมการ(บอร์ด) บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) มีมติไม่เข้าร่วมการประมูลรอบใหม่ โดยให้เหตุผลว่ามีคลื่นในมือเพียงพออยู่แล้ว จึงทำให้บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ( ADVANC ) ปรับตัวขึ้นแรง

อย่างไรก็ตามนายเทิดศักดิ์ กล่าวว่า แม้ตัวเลขจีดีพี จะออกมาดีเกินคาด แต่ยังต้องการติดตามการผลักดันการฟื้นตัวเศรษฐกิจของภาครัฐต่อไป ว่าจะเดินหน้าได้มากน้อยขนาดไหน รวมถึงทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัอเมริกา (เฟด) ที่มีความไม่แน่อนและความผันผวนค่อนข้างสูงเป็นกระแสข่าวรายวัน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,158 วันที่ 19 - 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2559