คปภ.เข้มให้ความรู้ธุรกิจบริษัทประกันประชาชน

17 พ.ค. 2559 | 06:38 น.
IMG_8316 นายสิทุธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริม
การประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวในงานสัมมนา "ประกันภัย กำกับดูแลอย่างไร ...ให้โดนใจประชาชน" สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ เมื่อ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ว่า บริษัทประกันได้คิดผลิตภัณฑ์หลากหลายอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา คปภ.จึงต้องกำกับดูแลอย่างทั่วถึงและทันสถานการณ์ เพื่อไม่ให้ประชาชนผู้เอาประกันถูกเอาเปรียบ ด้วยการเดินหน้าสร้างความเข้าใจกับประชาชนให้มีความรู้ในการเข้าถึงระบบประกันมากขึ้น

สำหรับการดูแลระบบประกันภัยพืชผลให้กับเกษตรกร ป้องกันความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ เพื่อให้ครอบคลุมทั้งการปลูกพืชทางการเกษตร การปศุสัตว์ การทำประมง คปภ.ได้ประสานกับ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ยกร่าง พ.ร.บ.ควบคุมดูแลระบบประกันภัยพืชผล โดยร่วมกันดูแลจากหลายหน่วยงานทั้งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) กระทรวงเกษตรฯ คปภ. และส่งเสริมให้เกษตรกรมีความเข้าใจมากขึ้น หวังผลักดันเข้าสู่ระบบประกันประมาณ 30 ล้านไร่ ผ่านแรงจูงในการคิดเบี้ยประกัน 120 บาทต่อไร่ โดยภาครัฐอุดหนุนเบี้ยประกันบางส่วน

นอกจากนี้ ยังมีระบบไกล่เกลี่ยผ่านผู้ชำนาญการ หากเกิดข้อพิพาทโต้แย้งเกิดขึ้น คาดว่าจะเสนอร่างกฎหมายฉบับใหม่ ให้สภา สปท.พิจารณาในเร็วๆ นี้

นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า แม้ยอดขายรถยนต์จะขยายตัวลดลง 10% แต่ส่งผลกระทบต่อการประกันวินาศภัยเพียง 1% จึงถือว่าไม่หนักใจต่อระบบประกันวินาศภัย และคาดว่าเบี้ยประกันวินาศภัยทั้งปียังสามารถขยายตัวได้ 3% เนื่องจากยอดขายรถยนต์มีแนวโน้มขยายตัวได้ 1-2% ยอมรับว่าการประกันภัยทรัพย์สิน อาคาร โรงงาน ยังมียอดกรมธรรม์เพิ่มขึ้น แต่อัตราเบี้ยประกันกลับลดลงจาก 0.8% ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ได้ลดเหลือ 0.3% ในปัจจุบัน เมื่อเบี้ยประกันลดลงจะส่งผลให้ผู้ประกอบการ นักลงทุนทำประกันภัยทรัพย์สินเพิ่มขึ้น

และเมื่อ คปภ.ได้ส่งเสริมความรู้ให้กับประชาชน และภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น จึงทำให้การเข้าสู่ระบบประกันเพิ่มและยังกำกับควบคุมดูแลอย่างเข้มงวด นับว่าเป็นส่ิงที่ดีต่อระบบประกันภัย จนทำให้ยอดการร้องเรียนมีเพียง 0.01% เท่านั้น

"จากนี้ไป ธุรกิจประกันวินาศภัยจะยกระดับการบริหารความเสี่ยงของประเทศ พร้อมดูแลสวัสดิการประชาชนโดยภาครัฐอุดหนุนบางส่วน รวมถึงเป็นฐานผลักดันในการขยายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน CLMV โดยภาครัฐอยู่ข้างหลังคอยส่งเสริมผ่านกองทุนในการรับประกันภัยต่อ โดยไม่ต้องประกันภัยต่อกับต่างประเทศ เมื่อตลาดแข่งขันกันมากขึ้นเบี้ยประกันภัยจะลดลง ผ่านการดูแลจากภาครัฐ และคอยส่งเสริม" นายอานนท์กล่าว

นายพิชา สิริโยธิน ผู้อำนวยการบริหารและเลขานุการ สมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวว่า ขณะนี้แนวโน้มเศรษฐกิจเร่ิมดีขึ้น ประชาชนเร่ิ่มมีความเข้าใจการทำประกันชีวิตมากขึ้น หลังจากยอดเบี้ยประกันในเดือนกุมภาพันธ์ขยายตัว 7% และประชาชนเร่ิ่มเข้ามาสอบเป็นตัวแทนจำหน่ายประกันชีวิต เพื่อหารายได้พิเศษหรือเป็นรายได้หลัก เพื่อดึงประชาชนเข้าระบบประกัน จึงคาดว่าในปีนี้ประกันชีวิตจะขยายตัวได้ 9% ตามเป้าหมาย การพัฒนาผลิตภัณฑ์จะเร่ิ่มปรับเปลี่ยนจากการประกันแบบสะสมทรัพย์ หันมาเน้นในด้านการคุ้มครองมากขึ้น และหันมาขายแบบยูนิตลิงค์มากขึ้น เพื่อเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์อื่นเพิ่มเติม