MADE IN JAPAN

20 พ.ค. 2559 | 00:00 น.
น่าตกใจนะครับกับจำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่หลั่งไหลเข้าประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี ABE ผู้เล็ง "ลูกศร 3 ดอก" แก้ปัญหาเศรษฐกิจของแผ่นดินอาทิตย์อุทัยเปิดไฟเขียวให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปจับจ่ายใช้สอยอยู่ได้ 15 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า "YOKOSO, JAPAN!"

ตัวเลขคือ คนไทยเข้าไปปีละ 5 แสนคน ยิ่งการบินไทยมี Airbus A 380 เครื่องบินยักษ์ขนได้ 500 คนต่อเที่ยว และ Low Cost คู่แข่งสำคัญอย่าง Air Asia เสนอราคาเย้ายวนสนับสนุน จึงมีผู้โดยสารของ"เจ้เกียว" หนีไปขึ้นเครื่องนอก เปิดหูเปิดตากันแยะโดยเฉพาะไปประเทศญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ของเอเชีย

มันก็น่าตื่นตาตื่นใจ น่าหลงไหลและน่าเที่ยวอยู่หรอก

สัมผัสแรกที่เห็นตึกรามบ้านช่องของเมืองใหญ่อย่าง TOKYO OSAKA ทำให้หายสงสัย ตัวการ์ตูน หุ่นยนต์ คนประหลาด สัตว์ประหลาด มาจากสภาพแวดล้อมที่แออัด และเต็มไปด้วยอาคารรูปทรงประหลาดนี่เอง

ศิลปินมักได้แรงบันดาลใจจากสิ่งแวดล้อม

อย่างงานจิตรกรรม งานศิลปะของบ้านเราในอดีต อ่อนช้อย งดงาม เพราะสภาพแวดล้อม คูคลอง แม่น้ำ ต้นไม้แยะ ผู้คนมีน้ำใจ

ดูงานวัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง วัดวาอารามบ้านช่องคนไทยโบราณ สะอาด งามสง่า เป็นระเบียบเทียบกับบ้านเมืองไทยสมัยใหม่ ยุ่งเหยิง วุ่นวาย สกปรก บนฐานของ "มือใครบาง สาวได้สาวเอา"

งานสถาปัตยกรรมไทยรุ่นใหม่เกิดหลังยุค "น้าชาติ" ที่ทำให้ราคาที่ดินแพงขึ้นๆ และวิศวกรสามารถล้มเลิกความเชื่อโบราณที่ว่า ดินกรุงเทพฯอ่อน มีน้ำใต้ดินมาก ไม่สามารถก่อสร้างอาคารสูงได้

โบราณ ตึกสูงสุดแค่ "เก้าชั้น เยาวราช"

สถาปนิคและนักผังเมืองระดับเกียรตินิยมจาก HARVARD LIVERPOOL เคยให้คำจำกัดความ ความสับสนวุ่นวายของอาคารสูงต่างๆที่โผล่เป็นดอกเห็ดในบ้านเราว่า "เหมือนเรากำลังแกงหม้อกำลังเดือดๆ

แต่ยังไม่รู้ว่า "แกงอะไร" จับอะไรได้ก็ใส่เข้าไป"

เสน่ห์ของบ้านเมืองญี่ปุ่นอยู่ที่ถึงจะมีอาคารทันสมัย แต่ก็ไม่ทิ้ง "ของเก่า" ถ้าจำเป็นต้องมีงานสมัยใหม่เข้ามาแทรก ก็ต้องคิดออกแบบให้กลมกลืน กับสภาพแวดล้อม

ไม่ใช่ยืนเด่น ยืนข่มคนอื่น

สวนสาธารณะเป็นสิ่งจำเป็นให้ผู้คนได้พักผ่อน ผ่อนคลายจากความเครียด เครียดทางสายตา เครียดจากการเดินทาง เครียดจากงาน ฯลฯ

ร้านเหล้ามีมากก็จริง แต่สวนสาธารณะ สวนสวยๆ ข้างทางก็หาง่ายเช่นกัน

ที่คนไทยไม่ค่อยรู้ก็คือ ญี่ปุ่นแม้ราคาที่ดินจะแพงที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง แต่เขาก็ยังมีช่องเว้นวรรค ไม่เอาไปทำธุรกิจหมด เว้นที่ดินว่างๆ ไว้ส่วนหนึ่ง เป็นสวน เป็นที่นัดหมาย มาหลบภัยจากแผ่นดินไหว อาคารถล่ม

การคมนาคมในญี่ปุ่นแสนสะดวกสบาย ด้วยการเน้น Mass Transit และถึงแม้ว่าเป็นเจ้าเทคโนโลยี ในการผลิตรถยนต์คุณภาพ รถไฟความเร็วสูง (Shinkansen) เขาก็ยังไม่ลืม "คนเดินเท้า" "คนขี่จักรยาน"

บาทวิถีที่กว้างเอื้อต่อผู้สัญจร บางเมืองก้าวไกลไปถึงมีเสียงดนตรี มีดอกไม้สวยๆ เรียงรายไปตลอดถนน

ทุกระบบคมนาคมของญี่ปุ่น อำนวยความสะดวกให้ "ผู้พิการและคนชรา"

ประเทศของเขาน่าจะเน้นความเป็นอยู่ การสัญจร ของผู้คนของเขาเองให้สะดวก สบายมาก่อน การท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ Boom น่าจะได้ "อานิสงส์" จากบริการพื้นฐานที่รัฐให้ประชาชนของเขาเอง

และ "การท่องเที่ยว" ก็ได้ให้รายได้ ให้อาชีพกลับไป

ญี่ปุ่นพยายามพัฒนา "สินค้าการท่องเที่ยว" ของตนว่า เที่ยวได้ทั้งปี เที่ยวได้ทุกหน้า (Season) ด้วยฤดูกาล Winter Spring Summer

และแต่ละเมือง แต่ละภูมิภาค ก็จะมีอาหารการกิน ขนม ภูมิทัศน์ที่แตกต่างกันออกไป สินค้า OTOP ของเราพยายามลอกเลียนแบบเขา แต่พอ "กระชาย" ดัง ก็ทำไวน์กระชายกันทุกเมือง

ที่น่าสนใจคือ เขาแบ่งอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ไปเฉลี่ยลงเมืองต่างๆ ไม่ใช่กระจุกแออัดอยู่แต่เมืองเดียว
TOKYO OSAKA KYOTO HIROSHIMA YOKOHAMA etc. แต่ละเมืองมีบริษัทใหญ่ๆ โรงงานใหญ่ๆ ที่เป็นความภาคภูมิใจของเมือง

เมื่อผมเป็นเด็ก เราจะร้องยี้กับสินค้า Made in Japan แต่ทุกวันนี้ Made in Japan เป็นที่ต้องการ มาตรฐานสูงไม่แพ้ยุโร

เวลาซื้อกล้อง Digital Brand ดังๆ อย่าง Nikon Cannon Fuji ect. Model ใหม่ๆ แพงๆ ต้องพลิกก้นดูก่อนว่า Made in Japan หรือไม่ ตอนออกใหม่ๆ บริษัทจะผลิตในประเทศก่อน พอขายดีระดับหนึ่ง ผ่องถ่ายไปให้ประเทศอื่นผลิต อย่าง Made in China , Made in Thailand etc.
เป็นความฉลาดอย่างหนึ่งของญี่ปุ่น ประเทศเจ้าตำรับ SME

เราคงต้องเรียนรู้จากเขาอีกแยะ

(อย่าเอาแต่ "เที่ยว" และ "ดูงาน" เพลินๆ นะข้าราชการไทย)

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,158 วันที่ 19 - 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2559