เบอร์1ยางรถจีนปักฐานไทย ทุ่มหมื่นล้านผุดโรงงานส่งออก/เล็งฟัน 1.3 หมื่นล้าน/ปี

16 พ.ค. 2559 | 08:00 น.
"หวาอี้ กรุ๊ป" เบอร์ 1 ยางรถยนต์แดนมังกรบุกไทย ร่วมทุนไทยเบคก้า ปักฐานตั้งโรงงานหมื่นล้านในนิคมฯหลักชัยเมืองยางที่ระยอง คาดเริ่มผลิตส่งออกได้ไตรมาส 2 ปีหน้า เป้าฟันรายได้ปีละ 1.3 หมื่นบิ๊กหวาอี้ เผยเป็นการลงทุนนอกประเทศครั้งแรก ประเดิมผลิตปีละ 2 ล้านเส้น เป้าบุกตลาดเออีซี-อเมริกาเหนือ "หลักชัย" ชี้ส่งผลดี ช่วยเพิ่มการใช้ยางพาราในไทย แย้มเครือข่ายหวาอี้ จ่อแห่ลงทุนอีกหลายราย

จากเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2559 ได้มีพิธีลงนามในสัญญาการร่วมทุนระหว่างบริษัท หวาอี้ กรุ๊ป (ไทยแลนด์)ฯ กับนิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยาง จังหวัดระยอง เพื่อตั้งโรงงานผลิตยางรถยนต์ในไทย โดยมีผู้แทนระดับสูงจากภาครัฐและเอกชนไทย-จีน ร่วมแสดงความยินดีและเป็นสักขีพยานจำนวนมาก

นายหลักชัย กิตติพล ประธานเจ้าหน้าที่ผู้บริหารบริษัท ไทยเบคก้า เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยาง เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" การร่วมทุนดังกล่าวทางหวาอี้จะถือหุ้นสัดส่วน 85% และทางไทยเบคก้า ถือ 15% มูลค่าการลงทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท บนพื้นที่ 188 ไร่ของนิคมฯหลักชัยเมืองยาง โดยจะเริ่มลงมือก่อสร้างโรงงานตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้ และมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2560 พร้อมกันนี้บริษัทได้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)แล้ว คาดจะได้รับอนุมัติในเร็ววัน

สำหรับโครงการร่วมทุนในครั้งนี้ มีเป้าหมายการผลิตยางรถยนต์ 6 ล้อ 10 ล้อ ยางรถบัส และยางอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ รวม 2 ล้านเส้นต่อปี ส่งออก 99% เป้าหมายตลาดอาเซียนและอเมริกาเหนือ ใช้เงินลงทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท คาดจะเริ่มส่งออก และรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2560 โดยมีเป้าหมายรายได้จากการขายปีละ 1.3 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้การลงทุนของหวาอี้ ถือเป็นนักลงทุนรายที่ 3 จากจีนที่เข้ามาลงทุนในนิคมฯหลักชัยเมืองยาง จาก 2 รายแรกมีบริษัทเซ็นจูรี่ไทร์(ประเทศไทย)ฯ หนึ่งในผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่จากจีนเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานแล้วบนพื้นที่ 138 ไร่ ใช้เงินลงทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท และอีกหนึ่งรายเป็นผู้ผลิตที่นอนจากยางพารา

"พื้นที่นิคมฯหลักชัยเมืองยางในเฟสแรก 2.2 พันไร่ ขณะนี้เข้ามาลงทุนแล้ว 3 รายจะใช้พื้นรวมกันประมาณ 500 ไร่ คิดเป็นปริมาณวัตถุดิบยางพาราของทั้ง 3 รายที่จะใช้รวมกันประมาณ 1 แสนตันต่อปี โดยในส่วนของหวาอี้ จะใช้วัตถุดิบประมาณ 5 หมื่นตันต่อปี ซึ่งจะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนเพิ่มการใช้ยางพาราในประเทศของรัฐบาล และการมาลงทุนของหวาอี้ กรุ๊ป รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ที่ผลิตยางรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงเป็นอันดับ 1 ของจีนในครั้งนี้จะมีเครือข่ายโรงงานที่เกี่ยวเนื่องเข้ามาลงทุนในไทยอีกหลายราย"

ขณะที่นายหลิว ซิ่งฟง (Liu Xunfeng) ประธานกรรมการ หวาอี้ กรุ๊ป กล่าวว่า หวาอี้กรุ๊ป เป็นผู้ลิตยางรถยนต์อันดับ 1 ของจีน มีกำลังการผลิตยางรถบรรทุกกว่า 7 ล้านเส้นต่อปี (มีโรงงาน 4 โรงในจีน)โดยผลิตยางรถยนต์หลายแบรนด์ ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก เช่น แบรนด์ Double Coin และ Strong Man มีเครือข่ายการจัดจำหน่ายกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยในปี 2558 ที่ผ่านมามีรายได้จากการขายกว่า 7 หมื่นล้านบาท

สำหรับความร่วมมือตั้งโรงงานผลิตยางรถยนต์กับทางไทยเบคก้า ครั้งนี้ ถือเป็นโครงการแรกของทางกลุ่มที่อยู่ในต่างประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปี 2536 ทางกลุ่มได้มีการร่วมทุนกับทางไทยเบคก้า ตั้งโรงงานยางแท่งที่จังหวัดสงขลา ในนามบริษัท Hautai (หวาอี้ กรุ๊ปถือหุ้น 83% และไทยเบคก้า ถือหุ้น 17%) ปัจจุบันโรงงานมีกำลังการผลิตยางแท่ง 1.1 แสนตันต่อปี ขณะที่การร่วมลงทุนโครงการล่าสุดนี้จะเพิ่มการจ้างงานในประเทศไทยอีก 800 อัตรา และเป็นไปตามแนวคิดของทางกลุ่มในการพัฒนาเรื่อง "เคมีสีเขียว ชีวิตสวยงาม" และเร่งจังหวะย่างก้าวสู่ การพัฒนาระดับไฮเอนด์ การพัฒนาด้วยนวัตกรรม การพัฒนาข้ามเมือง พัฒนาแบบบูรณาการ และพัฒนาสู่สีเขียว ซึ่งเป็นความยั่งยืนในระยะยาวของทางกลุ่ม

Photo Cover : Pixabay
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,157 วันที่ 15 - 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559