อนันดาฯ โชว์กำไรสุทธิไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 102%

12 พ.ค. 2559 | 07:29 น.
K Chanond 4 บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยติดรถไฟฟ้า โชว์ศักยภาพการดำเนินงาน ประกาศความสำเร็จอีกครั้ง พร้อมเติบโตอย่างมั่นคง เผยไตรมาสแรกของปี 2559 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการสร้างกำไรสุทธิ 149 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 102% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 58 พร้อมทั้งสร้างรายได้ 2,595 ล้านบาท เติบโตถึง 86% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 58 ตอกย้ำความสำเร็จของเป้าหมายตอนต้นปี ที่ปี 2559 ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของอนันดาฯ ในการเข้าสู่การเก็บเกี่ยวผลตอบแทน (Harvest Period) สะท้อนถึงความสามารถในการนำเงินลงทุนจาก IPO มาพัฒนาโครงการและมีการเปิดขายไปก่อนหน้านี้ ซึ่งได้เริ่มสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทอนันดา        ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ มีภาพรวมการดำเนินธุรกิจที่ ประสบความสำเร็จจากตัวเลขรายได้ และกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งสอดคล้องกับในปี 2559 ถือเป็นช่วงของการเก็บเกี่ยวผลตอบแทน (Harvest Period) ตั้งแต่เงินลงทุนจาก IPO ที่นำมาพัฒนาโครงการและมีการเปิดขายไปก่อนหน้านี้ รวมถึงการก่อสร้างได้แล้วเสร็จ และเริ่มมีการโอนกรรมสิทธิ์ โดยจะเริ่มสร้างผลตอบแทนจากยอดโอนในปี 2559 จำนวน 5 โครงการ นอกจากนี้บริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2559 กำหนดภายในช่วง 3 ปีข้างหน้าจำนวนกว่า 38,500 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดเป็นสถิติอีกครั้ง โดยเพิ่มขึ้น 3.7% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 12.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 58

ในไตรมาส 1/2559 บริษัทฯ ได้เปิดตัวคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า 2 โครงการใหม่อย่างเป็นทางการได้แก่ โครงการแอชตัน สีลม ตั้งอยู่บนถนนสีลม มูลค่าโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถปิดการขาย 59.3% และโครงการไอดีโอ ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์  ห่างจากรถไฟฟ้าMRT ท่าพระ เพียง 100 เมตร มูลค่าโครงการกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถปิดการขายได้28% จากมูลค่าที่เปิดขายกว่า 1,500 ล้านบาท ประกอบกับยอดขายจากโครงการที่เปิดขายก่อนหน้า ทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายในไตรมาสแรกได้กว่า 4,800 ล้านบาท สอดคล้องกับยอดขายที่ตั้งเป้ าหมายไว้ ทั้งนี้ในไตรมาสแรก บริษัทฯ สร้างยอดขายได้ 23%ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ตั้ งไว้ในไตรมาส 1/2559 นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแผนเปิดโครงการใหม่อีก 11 โครงการ ตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งโครงการที่ได้เปิดตัวไปแล้ วนั้นได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า แสดงให้เห็นว่าความต้องการที่พักอาศัยในระดับราคาทุกประเภทยังคงมีอยู่มาก โดยเฉพาะโครงการที่คุ้มค่า คุณภาพดี ทำเลใกล้รถไฟฟ้า

ในไตรมาส 1/2559 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรั พย์ 2,179 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายรายได้ที่ตั้ งไว้เมื่อต้นปีถึง 34% และเพิ่มขึ้นถึง 81% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี58 พร้อมทั้งมีกำไรสุทธิ 149 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 102% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 58 ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ปรับเพิ่มเป้ายอดโอนทั้งปีอีกเล็กน้อย 0.4% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อนหน้า อยู่ระหว่าง 15,000-16,000 ล้านบาท สำหรับในไตรมาส1/2559 นี้ บริษัทฯ สร้างอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 6%เพิ่มขึ้นจาก 5% ในช่วงเดียวกันของปี58  และสามารถสร้างรายได้ดีกว่าเป้าหมาย จากการที่บริษัทฯ ได้เริ่มโอนโครงการคอนโดมิเนียม ไอดีโอ คิว ราชเทวี ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเริ่มโอนได้เร็วกว่าเป้ าหมายที่ตั้งไว้ นอกจากนี้บริษัทได้สร้ างผลกำไรสุทธิที่ดีกว่าเป้าหมาย จากการควบคุมต้นทุน โดยค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้ ลดลงจาก 28% ในไตรมาสเดียวกันของปี 58  เป็น 24% ในไตรมาสนี้ ถึงแม้ว่าบริษัทฯ จะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วก็ตาม

ถึงสภาพเศรษฐกิจโดยรวมจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่ความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้ายังคงมีอัตรายอดขายที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงหลายปี ที่ผ่านมา อีกทั้งรูปแบบการพักอาศัยก็มี การปรับเปลี่ยนจากการอยู่อาศัย บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ มาเป็นคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำการพัฒนาคอนโดมิเนียมติ ดรถไฟฟ้าที่สามารถตอบโจทย์ และสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนกรุงเทพฯ ได้อย่างดีที่สุด

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังรักษาวินัยในการบริหารงาน โดยมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารต่อรายได้ ลดลงจากปี58 และสามารถรักษาวินัยทางการเงิน และบรรลุเป้าหมายการเติบโต โดยบริษัทฯ ได้ดำรงอัตราส่วนหนี้สินที่มี ภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนทุ นในระดับเพียง 0.8:1 ณ สิ้นไตรมาส 1/2559

บริษัทฯ มีกระแสเงินสดที่มั่นคงและแข็งแกร่ง พร้อมมีเงินสดเกินกว่า 2,800 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 1/2559 และยังคงได้รับการสนับสนุนที่ดี จากธนาคาร รวมถึงมีทางเลือกหลายทางหากจำเป็นที่จะต้องใช้ เงิน ในเดือนพฤษภาคม 2559 บริษัทฯ ได้ออกหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถื อ ประเภทด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน จำนวน 1,000 ล้านบาท รองรับการขยายธุรกิจ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน บริษัทฯ ยังคงรักษาความวินัยทางการเงิ นโดยบริษัท ทริส เรทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ จากระดับ BBB- แนวโน้มเชิงบวก เป็นระดับ BBB แนวโน้มคงที่ พร้อมได้จัดอันดับตราสารที่มีลั กษณะคล้ายทุนดังกล่าวในระดับ BB+ แนวโน้มคงที่