อคส.เตรียมแผนซื้อ CPO แสนตัน รับผลผลิตปาล์มทะลักทำราคาตก

16 พ.ค. 2559 | 09:00 น.
อคส.ปรับเกณฑ์เตรียมซื้อน้ำมันปาล์มดิบ 1 แสนตัน หลังแทรกแซงปี 58 ไม่ประสบผลสำเร็จ เน้นเปิดกว้างเกษตรกรมากขึ้น แต่จำนวนไร่เท่าเดิม70ไร่ เตรียมเสนอแนวทางใหม่เข้ากนป.สัปดาห์ก่อนผลผลิตปาล์มออกมาในเดือนมิ.ย. ขณะที่สศก.คาดไตรมาส2 ผลิตปาล์มน้ำมันทะลัก 3.8 ล้านตัน ความต้องการใช้ในประเทศ 1.6 แสนตันต่อเดือนสูงขึ้นหวั่นกระทบราคาผลปาล์ม

พล.ต.ต.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการ(บอร์ด)องค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า เพื่อเป็นการเตรียมมาตรการรองรับช่วงที่ผลผลิตปาล์มน้ำมันออกสู่ตลาดมาก โดยจากข้อมูลสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)คาดผลผลิตปาล์มน้ำมันในปี 2559 จะออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมซึ่งจะมีผลผลิต 9.36 แสนตัน และในช่วงไตรมาส 2(เม.ย.-มิ.ย.)จะมีผลผลิต 3.83 ล้านตัน ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบ(CPO)ภายในประเทศ เฉลี่ยเดือนละ 1.6 แสนตัน ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบของประเทศสูงกว่า 2.5 แสนตัน นับตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไปและอาจจะส่งผลให้ราคาผลปาล์มน้ำมันมีแนวโน้มลดต่ำลง

อย่างไรก็ดีในการประชุมครั้งที่ 1/2559 ของคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ(กนป.) เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา และการประชุมคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร(คชก.) ครั้งที่1/2559 เมื่อวันที่ 17 มีนาคม มีมติให้อคส.รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบในปี 2559 ปริมาณ 1 แสนตัน จากโรงสกัดน้ำมันปาล์มที่เข้าร่วมโครงการในราคาไม่ต่ำกว่า 26.20 บาทต่อกิโลกรัม โดยระยะเวลาในการรับซื้อตั้งแต่เดือนเมษายน 2559-มีนาคม 2560 ทั้งนี้เพื่อให้โรงสกัดรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรไม่ต่ำกว่า 4.20 บาทต่อกิโลกรัม ในอัตราน้ำมัน17%

นอกจากนี้กนป.ยังได้อนุมัติวงเงินจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร วงเงิน 2.95 พันล้านบาท ให้อคส.เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงงานสกัดเพื่อเก็บสต๊อกแบ่งเป็นเป็นเงินหมุนเวียน เพื่อเป็นทุนในการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงสกัด 1 แสนตัน วงเงิน 2.62 พันล้านบาท และ 332 ล้านบาท เพื่อใช้จ่ายในการเก็บสต๊อกน้ำมัน เช่น ค่าถังเก็บน้ำมันปาล์มดิบตันละ 214 บาทต่อเดือน ค่าดูแลรักษาและปรับปรุงสภาพตันละ 214 บาทต่อเดือน ค่าประกันภัย และค่าใช้จ่ายในการขาย เป็นต้น

ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาดที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานไปจัดทำกรอบแนวทางปฏิรูปปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน และให้อคส.กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการรับซื้อใหม่ หลังจากที่การซื้อน้ำมันปาล์มดิบปริมาณ 1 แสนตันในปี 2558 ไม่ประสบผลสำเร็จโดยที่สามารถรับซื้อได้เพียง 2.63 พันตันเท่านั้น โดยสาเหตุเกิดจากความล่าช้าเกิดจากการตรวจสอบรับรองพื้นที่เกษตรกรผู้ปลูกน้ำมันปาล์ม,เกษตรกรทำสำเนาสมุดทะเบียนเกษตรกรหรือใบรายงานผลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรของกรมส่งเสริมการเกษตรมีความผิดพลาด เป็นต้น ทำให้โรงสกัดไม่สามารถจัดหาเอกสารที่ใช้ประกอบการส่งมอบน้ำมันปาล์มดิบได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการรับซื้อปาล์มได้

ดังนั้นการรับซื้อปาล์มน้ำมันรอบใหม่นี้กนป.ได้ให้อคส.เร่งปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการใหม่โดยนำปัญหาอุปสรรคปัญหาที่เกิดขึ้นในปี 2558 มาพิจารณา เช่น เดิมจะให้เฉพาะเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมวิชาการเกษตรเท่านั้นที่มีสิทธิ์ ก็จะขยายให้เกษตรกรที่อยู่ในกลุ่มสหกรณ์การเกษตรสามารถมีสิทธิ์ในการเข้าร่วมโครงการได้ โดยจำกัดจำนวนไว้ที่เท่าเดิมคือ 70 ไร่ ซึ่งหลังจากนี้เสนอให้ที่ประชุมกนป.พิจารณาในสัปดาห์หน้า

"หลังจากนี้ก็จะเชิญกลุ่มโรงสกัดทั้งหมดมาหารือถึงวิธีการรับซื้อแนวทางการปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องกันและจะได้ไม่ต้องมีปัญหาในการรับซื้อ เพราะราคาปาล์มจะส่งผลกระทบในช่วงเดือนมิถุนายนซึ่งเป็นช่วงที่ปาล์มออกมามาก"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,156 วันที่ 12 - 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2559