‘คุณภาพ+ราคา’กลยุทธ์ข้าวหงษ์ทองโตสวนตลาด1.5หมื่นล้าน

13 พ.ค. 2559 | 09:00 น.
แม้ว่าข้าวสารจะเป็นสินค้าจำเป็นที่ทุกคนต้องซื้อมาบริโภค แต่ในสถานการณ์ที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และกำลังซื้อยังไม่ดีเหมือนเดิม ทำให้ผู้ประกอบการข้าวบรรจุถุง ต้องทำการตลาดเพื่อสร้างยอดขายด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลาย เพื่อเดินหน้าสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจอย่างต่อเนื่อง “ฐานเศรษฐกิจ” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ “นางโสพรรณ มานะธัญญา” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุง และผลิตภัณฑ์อาหารภายใต้แบรนด์หงษ์ทอง ถึงทิศทางและภาพรวมของธุรกิจข้าวบรรจุถุงในปี 2559 ที่ยังต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัวลง

[caption id="attachment_51769" align="aligncenter" width="366"] โสพรรณ มานะธัญญา กรรมการผู้จัดการ  บริษัท เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง จำกัด  ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุง และผลิตภัณฑ์อาหารภายใต้แบรนด์หงษ์ทอง โสพรรณ มานะธัญญา
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง จำกัด
ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุง และผลิตภัณฑ์อาหารภายใต้แบรนด์หงษ์ทอง[/caption]

ภาพรวมตลาดข้าวบรรจุถุง

ภาพรวมธุรกิจข้าวบรรจุถุงตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันยังทรงตัว ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากปีที่ผ่านมา แต่ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ภาพรวมมีอัตราการเติบโตเพียงเล็กน้อยเพียง 1-2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ปัจจัยสำคัญยังเป็นเรื่องภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัว ราคาสินค้าเกษตรก็ลดต่ำลง หนี้ครัวเรือนก็เพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าช่วงครึ่งปีหลังของปี 2558 สถานการณ์จะปรับตัวดีขึ้นแต่ไม่เพียงพอจะกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตได้ และการเติบโตยังเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปด้วย ปัจจุบันตลาดข้าวบรรจุถุงมีมูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ในปีนี้ยังประเมินว่าหากสถานการณ์ปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ตลาดข้าวก็น่าจะเติบโตได้ในอัตรา 3-4% แต่ทั้งนี้ คงขึ้นอยู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลว่าจะประสบผลสำเร็จมากน้อยแค่ไหน โดยภาคเอกชนก็มีความหวังว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะส่งผลได้ในเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะการกระตุ้นกำลังซื้อกับกลุ่มผู้บริโภคระดับล่างจนถึงระดับกลาง ขณะที่จีดีพีปีนี้ยังประเมินว่าจะเติบโตเพียง 2.8% เท่านั้น

ต้องการให้ภาครัฐสนับสนุน

ปัจจุบันรัฐบาลมีการกำหนดเป้าหมายการเพาะปลูก ข้าวจาก 33 ล้านตันให้อยู่ที่ 27 ล้านตันข้าวเปลือก เพื่อไม่ให้ข้าวออกมาล้นตลาด และทางกระทรวงพาณิชย์ก็เข้ามามีส่วนส่งเสริมในเรื่องการตลาด เช่น การส่งออกข้าวไรซ์เบอร์รี่ไปยังต่างประเทศ ในส่วนของโรงสีก็มีการรับซื้อในราคาตลาดสิ่งที่หลาย ๆ โรงสีต้องการคือสินเชื่อจากธนาคารเพื่อการรับซื้อข้าวและการขยายโรงอบข้าวเปลือก เพราะปัจจุบันข้าวเปลือกที่รับซื้อจากชาวนาจะเป็นข้าวสด ต้องนำมาอบเพื่อลดความชื้นลงก่อนเก็บรักษาเป็นข้าวเปลือกไว้สีเป็นข้าวกล้อง ข้าวขาวส่งขายทีหลัง

[caption id="attachment_51770" align="aligncenter" width="500"] โสพรรณ มานะธัญญา โสพรรณ มานะธัญญา[/caption]

กลยุทธ์การแข่งขัน

แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะไม่ได้ฟื้นตัวดีเป็นปกติ กำลังซื้อไม่ได้เพิ่มมากขึ้น แต่การแข่งขันของตลาดข้าวถุงยังรุนแรงมากเพราะทุกคนต้องการรักษาการเติบโต หรืออย่างน้อยต้องการรักษาส่วนแบ่งการตลาดของตนเองเอาไว้ การแข่งขันเรื่องราคา จึงยังมีให้เห็นและเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ประกอบการนำมาใช้เป็นกลยุทธ์ในการทำตลาด เพราะคนส่วนใหญ่ยังให้ความสำคัญ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ สินค้าต้องมีคุณภาพที่ดีพอ

แนวทางตลาดข้าวหงษ์ทอง

สำหรับกลยุทธ์การตลาดด้านช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัทวางแผนขยายช่องทางจัดจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อเพิ่มมากขึ้น โดยกระจายสินค้าไปถึงระดับอำเภอ ตำบล และแหล่งชุมชนทั่วไป เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านค้าสะดวกซื้อเพิ่มมากขึ้น ส่วนกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ ยังคงเน้นการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพดีออกมาทำตลาด จากปัจจุบันมีสินค้าทำตลาดกว่า 20 รายการ อาทิ ข้าวหอมมะลิใหม่ต้นฤดูที่ออกวางตลอดอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงปลายปีที่ผ่านมาบริษัทได้วางจำหน่ายข้าวหอมมะลิ ที่เป็นทางเลือกในราคาที่ถูกลงเหลือราคา 170 บาทต่อขนาด 5 กิโลกรัมจากปกติที่จะต้องจำหน่ายราคากว่า 200 บาท

เป้าหมายการดำเนินงาน

ช่วงปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดขาย 1.7 พันล้านบาท ซึ่งมียอดขายที่เพิ่มขึ้นมาจากการขยายช่องทางโมเดิร์นเทรด โดยเฉพาะรูปแบบร้านสะดวกซื้อ หรือร้านค้าขนาดเล็ก ซึ่งกระจายสาขาทั่วประเทศ ทำให้สินค้าสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายมาจากช่องทางโมเดิร์นเทรด 51% ช่องทางร้านทั่วไป 49% ส่วนเป้าหมายปีนี้คาดว่าจะมียอดขายเติบโตขึ้น 10% หรือมียอดขาย 2 พันล้านบาท มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 13% เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่ามาที่มีส่วนแบ่งการตลาด11%

กลยุทธ์สำคัญในปีนี้คือการจัดแคมเปญ“ความสุขล้นถุง เพิ่มฟรี 500 กรัม” เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ผู้บริโภค โดยจัดรายการทั้งเพิ่มปริมาณ และราคาพิเศษ ในผลิตภัณฑ์ 2 ชนิดคือ ข้าวหอมมะลิ 100% คัดพิเศษ ถุงสีม่วง ที่จำหน่ายผ่านช่องทางห้างสรรพสินค้า และข้าวหอมมะลิทอง 100% ถุงสีทอง จำหน่ายในช่องทางร้านโชห่วย โดยเริ่มจัดรายการตั้งแต่กลางเดือนเมษายนจนถึงเดือนพฤษภาคมนี้ โดยเตรียมสินค้ารุ่นพิเศษน้ำหนักสุทธิ 5.5 กิโลกรัม จำนวน 1 ล้านถุง ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าปกติถึง 30%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,156 วันที่ 12 - 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2559