มีส่วนร่วมยิ่งเร็วยิ่งดี

14 พ.ค. 2559 | 01:00 น.
การสืบทอดกิจการถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้นำธุรกิจครอบครัว เนื่องจากการถ่ายโอนกิจการที่มีประสิทธิภาพย่อมจะส่งผลกระทบทั้งต่อครอบครัวและธุรกิจ เป็นที่ทราบกันดีว่าการให้เวลาในการเตรียมทายาทรุ่นต่อไปเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้การสืบทอดกิจการเป็นไปอย่างราบรื่น คนรุ่นใหม่จำเป็นต้องทำความเข้าใจธุรกิจครอบครัวโดยเริ่มให้เร็วที่สุด ด้วยการให้การศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจและการพัฒนาจิตสำนึกการเป็นผู้ดูแลและเครือข่ายของธุรกิจครอบครัว

[caption id="attachment_51759" align="aligncenter" width="700"] How Important is the Education and preparation of the next generation? How Important is the Education and preparation of the next generation?[/caption]

ทั้งนี้จากการที่ EY และKennesaw State University ได้สำรวจธุรกิจครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก 525 ราย จาก 21 ประเทศ พบว่าธุรกิจครอบครัวที่มีประสบการณ์การสืบทอดกิจการมากที่สุดมักจะมุ่งเน้นไปที่ให้การศึกษาและการเตรียมตัวทายาทรุ่นต่อไป และยังพบว่าหากคณะกรรมการบริหารมีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องการสืบทอดกิจการด้วยพวกเขาจะให้ความสำคัญกับการศึกษาและการเตรียมทายาทรุ่นต่อไปมากกว่า (ภาพที่ 1) โดยเฉพาะในกรณีที่คณะกรรมการบริหารมีกรรมการที่ทำหน้าที่ดูแลการสืบทอดกิจการด้วยอีกชั้นหนึ่ง

นอกจากนี้จากการสำรวจยังพบว่าไม่มีความสัมพันธ์กันระหว่างหน้าที่รับผิดชอบของคณะกรรมการบริหารต่อการสืบทอดกิจการและระยะเวลา (ปี)ในการออกไปหาประสบการณ์จากภายนอกเพื่อการเป็นผู้นำ ซึ่งจากผลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการบริหารไม่คิดว่าประสบการณ์ทำงานภายนอกบริษัทจะเป็นกุญแจสำคัญในการสืบทอดกิจการอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เป็นที่น่าสนใจว่าธุรกิจครอบครัวในสหรัฐอเมริกาที่มีคณะกรรมการบริหารซึ่งประกอบไปด้วยกรรมการสืบทอดกิจการมักมีสมาชิกในครอบครัวเป็นผู้บริหารระดับสูงมากกว่า จากข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า ประสบการณ์ในการบริหารงานภายในบริษัทถูกมองว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญในการเตรียมความพร้อมให้แก่ทายาท และเนื่องจากในการสืบทอดกิจการมีความยุ่งยากอยู่มาก ดังนั้นการที่สมาชิกในครอบครัวเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นภายในบริษัทย่อมจะเป็นการดีสำหรับสืบทอดกิจการมากกว่าทั้งในแง่ครอบครัวและธุรกิจ

อย่างไรก็ตามหากการหาประสบการณ์จากภายนอกไม่ใช่สิ่งสำคัญ แล้วการเตรียมทายาทรุ่นต่อไปเพื่อการเป็นผู้นำควรทำอย่างไร และอะไรคือสิ่งที่ธุรกิจครอบครัวควรบ่มเพาะคนรุ่นต่อไปเป็นการภายใน เนื่องจากมักไม่เป็นที่แน่ชัดว่าสมาชิกในครอบครัวจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารงานโดยตรงของบริษัท หรือเป็นเพียงผู้ถือหุ้นที่รอรับผลประโยชน์เพียงอย่างเดียว ดังนั้นสมาชิกในครอบครัวทุกคนควรศึกษาเกี่ยวกับครอบครัวและธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งการทำความเข้าใจในเรื่องพื้นฐานทั่วไปนี้จะช่วยสนับสนุนในกระบวนการสืบทอดกิจการและการเปลี่ยนแปลงอื่นๆที่จะอาจจะเกิดขึ้นในภายหน้า ทั้งนี้ควรเริ่มให้ความรู้แก่ทายาทเสียแต่เนิ่นๆในเรื่องดังต่อไปนี้

1) การช่วยทายาทให้ได้รู้จักผู้คนและธุรกิจโดยผ่านทางการประชุมอย่างเป็นทางการ อีเมล์ข่าวบริษัท ข่าวประชาสัมพันธ์และประวัติของครอบครัวและบริษัท

2) สนับสนุนให้เรียนรู้เกี่ยวกับแวดวงอุตสาหกรรมของบริษัทโดยไปร่วมงานแสดงสินค้า การบอกรับนิตยสารเกี่ยวกับแวดวงอุตสาหกรรมและบริการแจ้งเตือนข่าวสารข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการประชุมแบบไม่เป็นทางการกับบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันในเขตไม่ได้เป็นคู่แข่งกันและที่อื่นๆในห่วงโซ่คุณค่า

3) การอำนวยความสะดวกให้เกิดการพบปะกับคนอื่นๆในแวดวงธุรกิจครอบครัว ทั้งจากการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย การประชุมเครือข่ายและงานอีเว้นท์ต่างๆ

4) การช่วยให้ได้รับการศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจทั่วไป เริ่มด้วยการทำความเข้าใจกับงบการเงินง่ายๆ จากนั้นจึงต่อยอดด้วยการศึกษา DuPont model และความสัมพันธ์ระหว่างต้นทุน ปริมาณและกําไร

5) การเชิญชวนให้เข้าร่วมการประชุมครอบครัวและการประชุมสภาครอบครัว

6) ให้เข้าร่วมทุกการประชุมหรือเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมคณะกรรมการบริหารของบริษัทแม่และ/หรือบริษัทย่อยเมื่อพวกเขาพร้อม

ที่มา: EY and Kennesaw State University. 2015. Preparing or procrastinating?: How the world’s largest family businesses undertake successful successions Special report based on a global survey of the world’s largest family businesses. Available: http://www.ey.com/Publication/vwLUAssets/ey-preparing-or-procrastinating/$FILE/ey-preparing-or-procrastinating.pdf

Photo : Pixabay
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,156 วันที่ 12 - 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2559