เก๊กหล่อหนีแข่งดุแตกแบรนด์ รุกเครื่องดื่มหวานน้อย/ลุยสยายปีกส่งออกตปท.เพิ่ม

08 พ.ค. 2559 | 12:00 น.
รีสเพค วัน เปิดตัวแบรนด์ น้องใหม่ “สดชื่น บาย เก๊กหล่อ” ชูจุดเด่นเครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อความสดชื่นไม่มีน้ำตาล จ่อวางจำหน่ายมิถุนายนนี้ ดัมพ์ราคาขาย 10 บาท หวังขยายฐานตลาดแมส ก่อนพาแบรนด์สยายปีกบุกต่างประเทศ ทั้งลาว จีน ฮ่องกง หลังพบแนวโน้มตลาดเครื่องดื่มในประเทศแข่งเดือด

นายสรกฤต ลัทธิธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท รีสเพค วัน เบฟเวอเรจ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย เครื่องดื่มสมุนไพร “เก๊กหล่อ” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นโยบายการดำเนินธุรกิจนับจากนี้จะให้ความสำคัญกับการสร้างการเติบโตด้วยการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ เพื่อรองรับการแข่งขัน ผ่านกลยุทธ์ทางการตลาดทั้งในเรื่องสินค้า คุณภาพ และโพสิชันนิ่งของแบรนด์ รวมถึงโฟกัสที่การขยายตลาดไปต่างประเทศ ล่าสุดเพื่อเป็นการสร้างการเติบโต รวมทั้งเป็นการกระตุ้นตลาดในประเทศและขยายฐานผู้บริโภค ในช่วงไตรมาส 2 จึงเตรียมเปิดตัวเครื่องดื่มสมุนไพรชื่อ “สดชื่น บาย เก๊กหล่อ” มี 5 รสชาติ ได้แก่ รสชาติมะขามผสมมะนาว มะม่วงผสมเสาวรส เก๊กฮวย บ๊วย และน้ำผึ้งผสมมะนาว ขนาด 330 มล. ราคา 10 บาท (เฉพาะช่องทางเซเว่น อีเลฟเว่น ราคา 12 บาท) เบื้องต้นเตรียมวางจำหน่าย 2 รสชาติในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ คือรสชาติมะขามผสมมะนาว และมะม่วงผสมเสาวรส ในเซเว่นอีเลฟเว่น ก่อนจะทยอยเปิดตัวครบทุกรสชาติและทุกช่องทางการจำหน่ายภายในปีนี้

ทั้งนี้ “สดชื่น บาย เก๊กหล่อ” มีเป้าหมายต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นแมส ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มหนุ่มสาวโรงงาน โรงพยาบาล และบุคคลทั่วไป ชูจุดเด่นเรื่องราคา 10 บาทที่เทียบเท่ากับแบรนด์อื่นๆ แต่ใช้หญ้าหวานเป็นส่วนประกอบในการให้ความหวานแทนน้ำตาล สามารถดื่มได้สดชื่น และไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล โดยวางเป้าหมายการกระจายสินค้าไปยังเขตภาคกลาง ภาคอีสาน ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่ต้องการขยายสัดส่วนทางการจำหน่ายเพิ่มเติม จากปัจจุบันที่มีสินค้าวางจำหน่ายในเขตภาคกลาง ไม่ว่าจะเป็นกทม. ชลบุรี ระยอง ในสัดส่วน 70% รองลงมาคือภาคอีสานและภาคเหนือตามลำดับ ขณะที่ภาคใต้ยังไม่มีการเข้าไปทำตลาดแต่อย่างใด

“แน่นอนว่าตลาดเครื่องดื่มเมืองไทยปัจจุบันมีการแข่งขันที่รุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราต้องหาตลาดที่เป็นบลูโอเชียน ขณะที่ในส่วนของการแข่งขันนั้นพยายามโฟกัสการขยายตลาดไปต่างประเทศควบคู่กันไป ซึ่งในตลาดต่างประเทศสินค้าประเภทเครื่องดื่มสมุนไพรกำลังได้รับความนิยมจึงมองว่าจะเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆในการแข่งขันให้กับแบรนด์มากกว่าในประเทศที่มีการแข่งขันกันสูงอยู่แล้ว ”

ทั้งนี้การเปิดตัวแบรนด์ใหม่ในช่วงเดือนมิถุนายน ถือว่าเป็นช่วงที่เพิ่งผ่านพ้นซัมเมอร์ที่เป็นไฮซีซันนั้น เพราะต้องการเลี่ยงการชนกับผู้เล่นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ที่แข่งขันกันสูง และไม่คุ้มค่าในการลงทุน ขณะที่ตลาดต่างประเทศนั้นบริษัทได้เตรียมเจรจากับพาร์ตเนอร์จากประเทศลาวในการนำผลิตภัณฑ์ “สดชื่น บาย เก๊กหล่อ” เข้าไปจัดจำหน่าย คาดว่าจะเข้าไปวางจำหน่ายได้ในช่วงเดือนมิถุนายนเช่นกัน นอกจากนี้ยังวางเป้าหมายขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆไม่ว่าจะเป็นจีน ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา เพิ่มเติม เพื่อเป็นการหาช่องทางในการเติบโตใหม่ๆและเป็นตลาดที่มีศักยภาพทางการเติบโต

สำหรับงบประมาณการจัดกิจกรรมทางการตลาดปีนี้อยู่ที่ 30-40 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาที่ใช้อยู่ที่ 150 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณสำหรับการสร้างแบรนด์สดชื่น บาย เก๊กหล่อ 60% และแบรนด์ เก๊กหล่อ 40% โดยจะให้ความสำคัญกับการจัดโปรโมชันและกิจกรรม ณ จุดขายมากกว่า การจัดแคมเปญใหญ่ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัวทำให้ประชาชนงดการจับจ่าย การจัดแคมเปญจึงไม่สามารถเข้าถึงและสร้างการรับรู้ได้มากเท่าการจัดกิจกรรม ณ จุดขาย ทั้งมีการแจกสินค้าทดลองชิม การเข้าร่วมงานชุมชนต่างๆ เพื่อสร้างการเข้าถึงอีกด้วย

อย่างไรก็ตามตั้งเป้ารายได้สิ้นปีนี้ที่ 130 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 30%จากปีที่ผ่านมา โดยช่วงไตรมาสแรกพบว่ายอดขายใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าเพื่อสร้างการเติบโตแบบยั่งยืนในระยะยาว และคาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดเครื่องดื่มจะสามารถสร้างการเติบโตที่สูงขึ้นในปี 2560 เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทยในปัจจุบันคาดการณ์ว่ามีมูลค่าราว 2 แสนล้านบาท และมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 5-7% ในปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์นมแดรี่โปรดักส์ น้ำผลไม้ และเอเซียนดริงก์ คือกลุ่มหลักในการไดรฟ์ตลาดที่สำคัญ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,155 วันที่ 8 - 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559