อาดิดาสเล็งขายธุรกิจกอล์ฟ ความสนใจผู้บริโภคน้อยลงทำยอดขายลดต่อเนื่อง

07 พ.ค. 2559 | 14:00 น.
อาดิดาส เผยว่ากำลังมองหาผู้เข้ามาซื้อกิจการของธุรกิจกอล์ฟส่วนใหญ่ของบริษัท หลังจากธุรกิจในส่วนดังกล่าวมียอดขายซบเซาและส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัทมาหลายปี

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า อาดิดาส ผู้ผลิตเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์กีฬาจากเยอรมนี เปิดเผยว่า หลังจากมีการประเมินยุทธศาสตร์ทางธุรกิจของบริษัทเสร็จสิ้นในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหารของบริษัทมีความเห็นว่า ควรจะขายธุรกิจกอล์ฟในส่วนของแบรนด์ เทย์เลอร์เมด-อาดิดาส กอล์ฟ, อดัมส์ กอล์ฟ, และแอชเวิร์ธออกไป โดยแบรนด์เหล่านี้ส่วนใหญ่ผลิตอุปกรณ์กีฬากอล์ฟเป็นหลัก ขณะที่อาดิดาสจะยังคงเก็บแบรนด์ อาดิดาส กอล์ฟ ที่ผลิตเสื้อผ้าและรองเท้าสำหรับกีฬากอล์ฟเอาไว้

เทย์เลอร์เมด-อาดิดาส กอล์ฟ ซึ่งอาดิดาสซื้อกิจการมาเมื่อปี 2540 เคยเป็นหนึ่งในหน่วยธุรกิจที่ทำรายได้สูงสุดให้กับบริษัท และปัจจุบันยังคงเป็นแบรนด์อุปกรณ์กอล์ฟที่ครองส่วนแบ่งสูงที่สุดในตลาด ส่วนแบรนด์แอชเวิร์ธ อาดิดาสซื้อกิจการมาในปี 2551 เป็นมูลค่า 72.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และแบรนด์อดัมส์ กอล์ฟ อาดิดาสใช้เงิน 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซื้อกิจการมาเมื่อปี 2555

อย่างไรก็ตาม ในปี 2557 ธุรกิจอุปกรณ์กีฬากอล์ฟของอาดิดาสกลับประสบกับภาวะชะงักงัน โดยอาดิดาสส่งผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมากเกินไป และไม่สามารถจับทิศทางของตลาดได้ว่าความสนใจของผู้บริโภคที่มีต่อกีฬากอล์ฟมีลดน้อยลง

หลังจากธุรกิจกอล์ฟของอาดิดาสประสบภาวะขาดทุน เฮอร์เบิร์ท ไฮเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอาดิดาส กล่าวว่า จะดำเนินการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อช่วยเพิ่มอัตรากำไร อย่างไรก็ตาม แผนการดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แม้ว่าธุรกิจกอล์ฟของบริษัทจะฟื้นกลับมาได้ในระดับหนึ่ง แต่ยอดขายยังต่ำกว่าเมื่อ 3 ปีก่อนเป็นอย่างมาก

ในปี 2555 แบรนด์เทย์เลอร์เมด-อาดิดาส กอล์ฟ ประสบความสำเร็จด้วยรายได้ 1.4 พันล้านยูโร แต่ในปีที่ผ่านมา รายได้ของแบรนด์ดังกล่าวลดลงเหลือ 903 ล้านยูโร และในไตรมาสแรกของปีนี้ รายได้ของแบรนด์ดังกล่าวอยู่ที่ 275 ล้านยูโร ลดลงอีก 1.7%

ขณะเดียวกัน อาดิดาสกล่าวว่า ยอดขายโดยรวมในตลาดอเมริกาเหนือในช่วง 3 เดือนแรกของปีเพิ่มขึ้น 23% หรือคิดเป็นสัดส่วน 31% ของยอดขายแบรนด์อาดิดาสทั้งหมด ซึ่งแสดงให้เห็นว่า กลยุทธ์ของไฮเนอร์ในการชิงส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ และให้ความสำคัญกับการทำการตลาดในเมืองใหญ่ๆ ของโลกเริ่มเห็นผล หลังจากปีที่ผ่านมาอาดิดาสถูกอันเดอร์อาร์เมอร์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แซงหน้าขึ้นมาเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์และเครื่องแต่งกายกีฬาอันดับ 2 ในตลาดสหรัฐฯ

"ผมดีใจเป็นพิเศษกับพัฒนาการที่แข็งแกร่งของเราในตลาดอเมริกาเหนือ แสดงให้เห็นว่าการให้ความสำคัญกับตลาดที่สำคัญแห่งนี้เริ่มเห็นผล" ไฮเนอร์กล่าว

แมตต์ พาวล์ นักวิเคราะห์จากเอ็นพีดี กรุ๊ป กล่าวว่า ยอดขายของอาดิดาสในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่า 50% ในเดือนมีนาคม โดยบริษัททำผลงานได้ดีเป็นพิเศษในสินค้าประเภทไลฟ์สไตล์รันนิ่ง รองเท้ารูปแบบคลาสสิกและแคชวล

ด้านนาตาชา เคซิน นักวิเคราะห์จากยูโรมอนิเตอร์ มองว่าการปรับยุทธศาสตร์ของอาดิดาสในสหรัฐฯ ให้ผลที่น่าพึงพอใจ "อย่างไรก็ตาม บริษัทจะต้องจับตาธุรกิจอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดจีนและยุโรปตะวันตก ที่คู่แข่งสำคัญอย่างไนกี้ได้เข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดไป"

ทั้งนี้ แบรนด์อาดิดาสทำยอดขายได้แข็งแกร่งในตลาดจีน และยุโรปตะวันตกในไตรมาสที่ผ่านมา ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้น 30% และ 26% ตามลำดับ ขณะที่ยอดขายในรัสเซียเพิ่มขึ้น 2% แม้ว่ารัสเซียจะประสบกับภาวะความผันผวนทางเศรษฐกิจภายในประเทศ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,155 วันที่ 8 - 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559