"ออมสิน" เหมาเข่งชง 3 แพ็กเกจให้สคร.-คนร.เสนอครม.อนุมัติจัดซื้อ –ซ่อมรถเมล์เอ็นจีวีและรถไฟฟ้ารวมมูลค่า 4.3 พันล้านบาท หลังทบทวนแผนฟื้นฟูครั้งแล้วครั้งเล่ายังไม่แล้วเสร็จ ล่าสุดเปิดใช้งานรถโดยสาร ขสมก.ที่ปรับปรุงสภาพใหม่นำร่อง 4 คันวิ่งให้บริการใน 4 เส้นทางหลักได้แล้ววันนี้
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบและอนุมัติให้ดำเนินการรถเมล์เอ็นจีวีจำนวน 489 คัน การจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้าจำนวน 200 คัน และการปรับปรุงรถเก่าจำนวน 672 คันให้มีสภาพใหม่ รวมวงเงินทั้งสิ้น 4.3 พันล้านบาท
โดยปัจจุบันการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันอยู่ระหว่างการเตรียมเปิดประกวดราคารอบใหม่ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความเห็นร่างเอกสารประกวดราคา คาดว่าจะสามารถเปิดประกวดราคารอบใหม่ในเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนเรื่องอื่นอยู่ระหว่างการนำเสนอสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.)พิจารณาก่อนที่จะนำเสนอครม.อนุมัติให้ดำเนินการ
ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมจะเร่งสรุปรายละเอียดและความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำเสนอครม.อนุมัติให้ดำเนินการโดยเร็วต่อไป โดยเมื่อได้รับอนุมัติให้ดำเนินการปรับปรุงรถเก่า จัดซื้อรถใหม่ได้ทั้งหมดแล้วก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงในแนวทางที่ดีขึ้นของขสมก. พร้อมกับการฝึกอบรมพนักงานขับรถให้มีความตระหนักด้านการบริการ นอกจากนั้นยังได้มอบนโยบายให้ ขสมก.ต้องเชิญผู้ประกอบการรถร่วมเอกชนจัดส่งพนักงานเข้ามาร่วมฝึกอบรมด้วยเพื่อให้แนวทางการบริหารจัดการเป็นไปในทิศทางเดียวกันนั่นเอง
"แผนเดิมขสมก.จะใช้งบกว่า 1.3 หมื่นล้านบาทไปจัดซื้อรถใหม่จำนวน 3,183 คัน แต่ขสมก.จัดทำแผนดำเนินการใหม่นำเสนอจัดซื้อรถไฟฟ้า 200 คัน คันละ 10 ล้านบาทรวมเป็นวงเงิน 2.3 พันล้านบาท โครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน รวมวงเงิน 1.7 พันล้านบาท และโครงการปรับปรุงรถเก่า 672 คัน รวมวงเงิน 300 ล้านบาท โดยใช้งบรวมประมาณ 4.3 พันล้านบาทซึ่งถูกกว่าการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันโดยประหยัดงบได้กว่า 8 พันล้านบาท"
ด้านนายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การ ขสมก. กล่าวว่า ล่าสุดได้ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขสมก.โดยนำรถโดยสารขสมก.จำนวน 672 คันไปปรับปรุงให้มีสภาพเป็นรถโดยสารใหม่ ได้แก่ รถโดยสารธรรมดายี่ห้อมิตซูบิชิ จำนวน 501 คัน คันละ 9 แสนบาท รถโดยสารปรับอากาศยี่ห้อเบนซ์ จำนวน 119 คัน และรถโดยสารปรับอากาศยี่ห้อแดวู จำนวน 52 คัน คันละ 1.6 ล้านบาท ซึ่งหากจัดซื้อรถใหม่ราคาคันละ 3.5 ล้านบาท โดยโครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล.) และบริษัท ไทยเจริญยางบริการ จำกัด ในการศึกษาและดำเนินการปรับปรุงสภาพรถเก่าเป็นรถใหม่ จำนวน 4 คัน เป็นการนำร่อง หรือรถต้นแบบ และมีการติดตั้งระบบ GPS และกล้อง CCTV เพิ่มเติม
โดยแผนใหม่ขสมก.นำเสนอให้มีการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันโดยผ่านการรับฟังความเห็นร่างทีโออาร์ครั้งที่ 2 พร้อมเตรียมประกาศประกวดราคารอบใหม่ในเร็วๆ นี้ นอกจากนั้นยังเร่งนำเสนอครม.ขออนุมัติจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้า 200 คัน คันละ 10 ล้านบาท (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)โดยเรื่องผ่านคนร.เรียบร้อยแล้วเตรียมนำเสนอครม.อนุมัติให้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างต่อไป อีกทั้งยังเสนอปรับปรุงรถเก่าจำนวน 672 คัน ปัจจุบันได้ 4 คันนำร่องให้บริการแล้ว โดยรถปรับอากาศจะใช้งบจำนวน 300 ล้านบาทไปดำเนินการ ส่วนรถธรรมดาเพื่อการประหยัดงบประมาณจึงใช้วิธีเสนอรูปแบบเหมาซ่อมเป็นระยะเวลา 5 ปีพร้อมปรับปรุงสภาพและเฉลี่ยค่าปรับปรุงไปในค่าเหมาซ่อมรายเดือนนั้นด้วย จึงเป็นการนำงบจำนวนประมาณ 1 ล้านบาทกระจายระยะเวลาได้ 5 ปี ขสมก.ก็สามารถหาเงินเฉลี่ยจ่ายให้ได้ ส่วนเฟส 2 จะค่อยดำเนินการในส่วนที่เหลืออีกประมาณ 1,500 คันต่อไป
"ขสมก.นำเสนอให้ครม.เป็นโครงการเดียวประกอบด้วย 3 แพ็กเกจให้พิจารณา ซึ่งช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขสมก.ได้นำรถโดยสารยี่ห้อมิตซูบิชิที่ปรับปรุงสภาพเป็นรถต้นแบบจำนวน 1 คันวิ่งให้บริการเส้นทางสาย 178 (สวนสยาม-วงกลมเกษตรนวมินทร์) มาแล้ว พบว่ามีสภาพการใช้งานได้เช่นเดียวกับรถโดยสารใหม่ อีกทั้งขณะนี้รถโดยสารต้นแบบอีก 3 คันก็ได้ดำเนินการปรับปรุงสภาพแล้วเสร็จ พร้อมนำไปวิ่งให้บริการประชาชนในเส้นทางสาย 168 (สวนสยาม-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) สาย 73 ก (สวนสยาม-สะพานพุทธ) และสาย 36 ก (สวนสยาม-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ)"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,155 วันที่ 8 - 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559