ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วันศุกร์ซึมตัวลงเล็กน้อย แนวรับ 1,390-1,395 จุด ยังทำงานได้แข็งแกร่ง หุ้นหลัก PTTEP / KBANK / ADVANC/ PTTGC ช่วยประคองและผลักดันให้ SET INDEX กลับมายืนเหนือ 1,400 จุดอีกครั้ง ปิด ณ สิ้นวันที่ 1,404.61 จุด บวก 4.70 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 40,290 ล้านบาท
ต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 6 อีก 504 ล้านบาท ขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 5 ลดลงเหลือ 8,911 ล้านบาท แต่คง Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 1,138 สัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
•ตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือนมี.ค. อยู่ในเกณฑ์ทรงตัวถึงดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการท่องเที่ยว และการใช้จ่ายภาครัฐ
•ตลาด Nikkei ปิดทำการวันที่ 3 – 5 พ.ค. เนื่องในเทศกาล Golden week
•รถไฟสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ – เตาปูน เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการวันที่ 6 ส.ค.
•ราคาน้ำมันดิบ NYMEX หลุดแนว US$45/barrel คืนวานนี้
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 15)
เราประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX วันนี้ระหว่าง 1,395 -1,415 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบาง 3.0-3.5 หมื่นล้านบาท เพราะเป็นช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย ทำให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ชะลอการลงทุน
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมี.ค.ของไทยถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงดีเล็กน้อย แน่นอนว่าปัจจัยผลักดันหลักคือ การท่องเที่ยว และการใช้จ่ายภาครัฐ ยังคงแข็งแกร่ง แต่การบริโภค และการลงทุนภาคเอกชน ทรงตัวถึงลดลงเล็กน้อยจากเดือนก.พ. เราประเมินว่า GDP ใน 1Q59 น่าจะเติบโตได้ 3.0% และจะดีขึ้นเป็นลำดับในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งน่าจะช่วยปิดความเสี่ยงของตลาดหุ้นไทยในทางอ้อมได้เช่นกัน
หุ้นรายกลุ่มที่สำคัญ
•กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ อย่าง น้ำมัน / ปิโตรเคมี / SCC เพราะแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่า ช่วยเอื้อต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ให้แข็งแกร่งต่อเนื่อง
•กลุ่ม Domestic Play อย่างค้าปลีก / ค้าปลีกไอที / leasing ยังมีแนวโน้มเป็นบวกต่อภาพรวมกำลังซื้อที่ดีขึ้นเป็นลำดับ
•หุ้นขนาดกลาง และเล็กที่มีประเด็นเด่นเฉพาะตัว
Stock Pick of The Day
1.สะสม TPIPL: ราคาปิด 2.50 บาท ราคาเหมาะสม 3.40 บาท
a)MBKET คาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก หลังวันศุกร์ที่ผ่านมาผู้บริหารชี้แจงในการประชุมผู้ถือหุ้นว่าบริษัทไม่ได้ทำผิดตามที่ถูกกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ฟ้องร้องแต่อย่างใด และยืนยันว่าที่ดินที่พิพาทเป็นที่ดินของบุคคลอื่น ซึ่งมีทางสาธารณะผ่านมิใช่ที่ดินของบริษัท
b)คาดผลประกอบการ 1Q59 จะเป็น Catalyst ให้ราคาหุ้นฟื้นตัว โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตทั้ง yoy และ qoq เป็น 400-500 ล้านบาท จากแรงหนุนของธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะที่จะรับรู้รายได้เต็มไตรมาส และเป็นไตรมาสแรกที่เดินเครื่องโดยใช้กำลังการผลิตเต็มที่
c)คาดกำไรสุทธิปี 2559 เติบโต +600% yoy เป็น 2,879 ล้านบาท และ Valuation ถูก ซื้อขายระดับ PBV2559 เพียง 0.85 เท่า ต่ำกว่า SCC ที่ 2.53 เท่า และ SCCC ที่ 3.22 เท่า
2.สะสม BEM: ราคาปิด 5.95 บาท ราคาเหมาะสม 6.50 บาท
a)MBKET คาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก จากความคืบหน้าของการเปิดให้บริการถไฟฟ้า
สายสีม่วง โดยมีกำหนดเปิดใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 6 ส.ค. เร็วขึ้นจากกำหนดการเดิมในวันที่ 12 ส.ค. ขณะที่การทดลองเดินรถจะเริ่มในวันที่ 10 พ.ค.
b)คาดผลประกอบการ 1Q59 เติบโต +14% yoy เป็น 680 ล้านบาท จากการเติบโต yoy ของทุกธุรกิจ ได้แก่ ทางด่วน, รถไฟฟ้าและสื่อโฆษณา และ 2Q59 จะเติบโต yoy & qoq เนื่องจากจะเป็นไตรมาสแรกที่ได้ประโยชน์จากการ Refinance ส่งผลให้ต้นทุนดอกเบี้ยลดลงจาก 6.2% เหลือ 4.8%
c)คงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตในระยะยาว จากการเติบโตตามระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และซื้อขายระดับ PER2560 ที่ 23.8 เท่า ต่ำกว่า BTS ที่ 34.1 เท่า
ที่มา: Maybank Kim Eng