เชนสโตร์ค้าปลีกไอที สบช่องสร้างยอดโต. เจ.ไอ.บี จัดโปรแกรมพิเศษเจาะกลุ่มร้านเน็ต ชี้ขุมทรัพย์ใหญ่ ซื้อคอมพ์ใหม่ปีละ 3-4 พันล้านบาท พร้อมดัน "มายด์คาเฟ่" ร้านเน็ตยุคใหม่ เร่งเครื่องช่องทางออนไลน์ ตั้งเป้าเดือนละ 100 ล้าน. ด้านคอมเซเว่น. ผนึกกลุ่มทรู ทำตลาดบริการโมบาย อินเตอร์เน็ต ทรูวิชั่น ผ่านเครือข่าย บานาน่าไอที. ไอสตูดิโอ 300 สาขาทั่วประเทศ พร้อมเข้าบริหารทรูช็อป 166 แห่ง. ในบิ๊กซี- โลตัส คาดหนุนรายได้เพิ่ม 10-20%
นายสมยศ เชาวลิต กรรมการผู้จัดการ บริษัทเจ.ไอ.บี คอมพิวเตอร์ จำกัด เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ" ว่าต้นเดือนพฤษภาคมนี้บริษัทจะร่วมกับผู้ผลิตสินค้าไอที จัดทำโครงการ"ไอ คาเฟ่" จำหน่ายคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ราคาพิเศษ พร้อมกับสิทธิพิเศษการรับประกันสินค้า ทั้งประกันที่นาน 4-5 ปี จากปกติ 3 ปี หรือการเปลี่ยนชิ้นส่วนให้ทันที กับกลุ่มผู้ประกอบการร้านอินเตอร์เน็ต นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับไมโครซอฟท์ในการลดราคาไลเซนส์ซอฟต์แวร์ให้กับร้านอินเตอร์เน็ตที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวด้วย. ขณะเดียวกันยังเปิดโอกาสให้ร้านอินเตอร์เน็ตขายสินค้าที่เจ.ไอ.บี เป็นตัวแทนจำหน่าย. และเป็นจุดรับสินค้า เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับร้านอินเตอร์เน็ต
ทั้งนี้มองว่าธุรกิจร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ในไทยมีประมาณ 2 หมื่นแห่ง มีจำนวนคอมพิวเตอร์ให้บริการอยู่ 5-6 แสนเครื่อง มีการเปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ปีละประมาณ 1.5 แสนเครื่อง คิดเป็นมูลค่าราว 3-4 พันล้านบาท ถือเป็นตลาดที่มีมูลค่ามหาศาล แต่บริษัทยังไม่เคยเข้าไปทำตลาดจริงจัง โดยปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้จากโครงการดังกล่าวราว 200 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 1 พันล้านบาทในปีหน้า
ส่วนธุรกิจร้านอินเตอร์เน็ตสายพันธุ์ใหม่ " มาย คาเฟ่"(mine Café) บาย เจ.ไอ.บี ที่เปิดสาขาแรกไปแล้วย่านมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต นั้นกระแสการตอบรับดี ซึ่งจะเดินหน้าขยาย มาย คาเฟ่ ไปยังย่านสถานศึกษา เพิ่มเป็น 5 แห่งในปีนี้ โดยคาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 2-3 ปี ตามเป้าหมาย. และสร้างแบรนด์ เจ.ไอ.บี. ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มคนรุ่นใหม่ และเป็นฐานลูกค้าในอนาคต
ขณะที่ธุรกิจออนไลน์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่เติบโตสูงไตรมาสแรกโดยมีรายได้ราว 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมา 100% และมีลูกค้าใหม่ที่เข้ามาซื้อสินค้าออนไลน์เป็นครั้งแรก เฉลี่ยวันละ 100 ราย นั้นบริษัทยังมุ่งให้ความสำคัญต่อเนื่อง โดยจะพัฒนาระบบภายในให้สามารถจัดส่งสินค้าให้รวดเร็วขึ้นจากปัจจุบันสามารถส่งสินค้าให้กับลูกค้าภายใน 6 ชั่วโมงหลังคำสั่งซื้อ นอกจากนี้ยังมีแผนร่วมกับผู้ผลิต ขายสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ โมเดล ที่มีจำหน่ายที่ เจ.ไอ.บี.ที่เดียวมากขึ้น โดยคาดว่าภายในปีนี้จะมีรายได้จากช่องทางออนไลน์เฉลี่ยเดือนละ 100 ล้านบาท
นายสมยศ กล่าวต่อไปว่าไตรมาสแรกที่ผ่านมาบริษัทมียอดการเติบโต 6%. ทั้งนี้คาดว่าโครงการใหม่ที่ดำเนินการปีนี้จะสามารถผลักดันยอดการเติบโตขึ้นรวม 16% โดยมีรายได้ราว 7.5 พันล้านบาท ส่วนงบลงทุนขยายสาขาเพิ่มอีก 12 แห่ง จากปัจจุบัน 130 แห่ง และการเปิดร้าน "มาย คาเฟ่" 5 แห่งปีนี้ราว 150 ล้านบาท
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ผู้ค้าปลีกสินค้าไอทีภายใต้ชื่อร้าน "บานาน่าไอที" และไอสตูดิโอ บายคอมเซเว่น กล่าวว่าบริษัทได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่มทรู คอร์ปอเรชั่น เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการที่ครบวงจร และเพิ่มประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้า โดยคอมเซเว่น มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอที ทั้งฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์เสริม อีกทั้งยังเป็นผู้ให้บริการและจำหน่ายสินค้าแบรนด์แอปเปิลสูงสุดในไทย
ขณะที่กลุ่มทรูเป็นผู้นำธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ของไทยที่มีผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งด้านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที 3G และ 4G อินเตอร์เน็ต ไว-ไฟ และ คอนเทนต์ ซึ่งภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวร้านบานาน่าไอที และร้านไอสตูดิโอ ที่มีราว 300 แห่งทั่วประเทศ จะนำเสนอบริการทั้งหมดของกลุ่มทรูไปพร้อมกับฮาร์ดแวร์ที่คอมเซเว่นเป็นตัวแทนจำหน่าย
นอกจากนี้ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวนั้นบริษัทจะนำประสบการณ์ในธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอที ไปช่วยในการบริหารจัดการร้านทรูช็อป ที่ตั้งในบิ๊กซี และโลตัส ทั่วประเทศ 166 แห่ง ภายใต้สัญญาระยะแรก 3 ปีด้วย
นายสุระ กล่าวต่ออีกว่า ทั้งนี้คาดว่า สัดส่วนรายได้จากภายใต้ความร่วมมือกับกลุ่มทรู ปีนี้จะอยู่ราว 10-20% จากรายได้ที่ตั้งเป้าปีนี้ 1.7 หมื่นล้านบาท โดยรายได้จะมาจากการค่ายเครื่องเฮาส์แบรนด์ทรู ส่วนแบ่งรายได้จากการขายบริการ และค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่างๆในสินค้าและบริการของทรู
ด้านนายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าเป็นครั้งแรกที่กลุ่มทรูร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นโลคัลพาร์ตเนอร์ โดยนำความสำเร็จ และประสบการณ์ของคอมเซเว่น ในธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอที และอุปกรณ์ มาช่วยในการกระจายบริการต่างๆ ของกลุ่มทรูให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น และได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,153 วันที่ 1 - 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2559