วอลมาร์ทปิด 269 สาขาทั่วโลก แต่เล็งบุกตลาดเมืองขนาดกลางและเล็กในจีน

27 เม.ย. 2559 | 11:00 น.
เป็นเรื่องที่น่าจับตาอย่างยิ่งที่วอลมาร์ท (Walmart) ผู้ค้าปลีกรายใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ประกาศปิดสาขา 269 สาขาในทั่วโลก อันเป็นผลจากการที่บริษัทไม่สามารถแข่งขันกับตลาดสินค้าออนไลน์ อีกทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แต่ในอีกทางหนึ่งวอลมาร์ทกำลังเร่งบุกตลาดในเมืองขนาดกลางและขนาดเล็กในประเทศจีนโดยวางแผนเปิดเพิ่มอีก 115 สาขาภายในปี 2560

ทั้งนี้ สาขาทั้ง 269 สาขาที่ถูกปิดไป อยู่ในสหรัฐอเมริกา 154 สาขา และต่างประเทศ 115 สาขา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสาขาขนาดเล็กที่มีผลประกอบการที่ขาดทุน โดยนักวิเคราะห์มองว่า การขาดทุนของวอลมาร์ทในสหรัฐอเมริกานั้นเนื่องจากมีสัดส่วนพื้นที่ต่อประชากรสูง การเปิดสาขาจึงมีต้นทุนค่อนข้างสูง และปัจจุบันวอลมาร์ทสาขาเหล่านี้ไม่สามารถแข่งขันกับร้านค้า E-Commerce อาทิ Amazon ที่มีความได้เปรียบด้านความหลากหลายและครบถ้วนของประเภทสินค้า และต้นทุนโลจิสติกส์ที่ต่ำกว่า

สำหรับประเทศจีนนั้น แม้ว่ามีพื้นที่กว้างใหญ่เช่นกัน แต่จีนมีประชากรอย่างหนาแน่นมากกว่า ซึ่งแม้ว่าซูเปอร์มาร์เก็ตได้รับผลกระทบจากการค้า E-Commerce และร้านสะดวกซื้อ แต่ก็ยังมีส่วนแบ่งการตลาดที่พอสมควรสำหรับการเปิดสาขาซูเปอร์มาร์เก็ต อย่างไรก็ดี ปัจจุบันซูเปอร์มาร์เก็ตในเมืองขนาดใหญ่ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และเสินเจิ้น มีจำนวนมากพอสมควรแล้ว ในขณะที่เมืองขนาดกลางและขนาดเล็กมีการพัฒนาความเป็นเมือง (Urbanization) รวดเร็วขึ้น และชาวจีนในเมืองเหล่านี้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ทำให้วอลมาร์ท ตัดสินขยายการเปิดสาขามากขึ้น

ในเดือนธันวาคม 2558 และมกราคม 2559 วอลมาร์ทได้เปิดสาขาใหม่ 13 สาขาในเมืองที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ในจีน เช่น เมืองชื่อเฟิงในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน เมืองลี่เจียงในมณฑลยูนนาน เมืองจี้หนิงในมณฑลซานตง และเมืองเสียนหนิงในมณฑลหูเป่ย เป็นต้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อตลาดเมืองขนาดกลางและขนาดเล็กในจีน

ตามรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2558-2559 ของวอลมาร์ทในตลาดจีนพบว่า วอลมาร์ทมียอดขยายเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีงบประมาณก่อนหน้า ส่วนแบ่งตลาด FMCG (Fast Moving Consumer Goods) ในตลาดซูเปอร์มาร์เก็ตของวอลมาร์ทในจีนได้เพิ่มขึ้นติดกันเป็นไตรมาสที่ 12 ซึ่งมาจากผลประกอบการของการเปิดสาขาใหม่และการพัฒนาปรับปรุงสาขาที่มีอยู่ แล้ว

อย่างไรก็ดี ตลาดซูเปอร์มาร์เก็ตในจีนมีการแข่งขันสูงมาก โดยมีการลงทุนจากต่างชาติ อาทิ วอลมาร์ท คาร์ฟูร์ และอาร์ที-มาร์ท (RT-MART) รวมทั้งซูเปอร์มาร์เก็ตของจีนเองที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งโดยผ่านการควบรวมกิจการ เช่น Yonghui Superstores

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า ในอนาคต ร้านค้าปลีก (offline) ในจีนส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ หรือเป็นร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก ซึ่งซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดกลางที่มีขนาด 300 ตารางเมตร - 1,000 ตารางเมตรจะอยู่รอดค่อนข้างยาก นอกจากนี้ บรรดาร้านค้าออนไลน์ยังทยอยขยายธุรกิจให้บริการไปยังเมืองขนาดกลางและขนาดเล็ก จึงคาดว่าธุรกิจค้าปลีกในจีนโดยภาพรวมจะประสบการแข่งขันมากยิ่งขึ้นในอนาคต

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่องทางการค้า-การลงทุน และข้อมูลเศรษฐกิจส่งตรงจากประเทศจีนได้ที่เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน http://www.thaibizchina.com หรือช่องทางใหม่ www.facebook.com/thaibizchina

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,151 วันที่ 24 - 27 เมษายน พ.ศ. 2559