ลาคอส เผยยอดขายทั่วโลกทะลุ 2 พันล้านยูโร โต 9% แม้เจอภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เดินหน้ามุ่งพัฒนาแบรนด์และสินค้าให้พรีเมียม หนีสินค้าฟาสต์แฟชั่น พร้อมเพิ่มสัดส่วนช่องทางออนไลน์ 20% อีก 5 ปีข้างหน้า ชี้ไทยตลาดสำคัญในเอเชียเติบโตเร็วสุด
นายเทียร์รี่ กีเบอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ กลุ่มบริษัท ลาคอส จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่นแบรนด์ลาคอส (LACOSTE) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมาว่า สามารถสร้างยอดขายทั่วโลกได้ 2 พันล้านยูโร หรือประมาณ 7.94 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 9% โดยภูมิภาคยุโรปเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทได้อย่างดี โดยเฉพาะประเทศฝรั่งเศสและอังกฤษ ซึ่งเติบโตถึงเลข 2 หลัก ปัจจัยสำคัญมาจากภาวะการท่องเที่ยวที่เติบโต มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปซื้อสินค้า แต่ขณะนี้เริ่มมีผลกระทบจากเหตุการณ์วางระเบิดในช่วงเดือนพฤศจิกายนและกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ขณะที่ภูมิภาคเอเชีย ถือว่าเป็นภูมิภาคที่สำคัญแห่งหนึ่งของบริษัท ปีที่ผ่านมามียอดขายเติบโตในอัตรา 5% ซึ่งถือว่าตลาดในเอเชียก็มีการแข่งขันที่สูงเช่นกัน ส่วนประเทศสหรัฐอเมริกาปีที่ผ่านมาถือว่าภาวะตลาดค่อนข้างเหนื่อย ยอดขายอยู่ในภาวะทรงตัว เนื่องจากไม่มีปัจจัยเรื่องการท่องเที่ยวมาเป็นตัวกระตุ้นยอดขาย ประกอบกับมีปัญหาในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลดอลลาร์ด้วย
“ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปีที่ผ่านมาไม่ได้ดีมากนัก ทำให้ธุรกิจไม่สามารถวางเป้าหมายการเติบโตได้ถึง 20% แค่รักษาการเติบโตให้ได้ก็ถือว่าดีแล้ว”
สำหรับภูมิภาคเอเชียปัจจุบันมีสัดส่วนประมาณ 22% ของยอดขายทั่วโลก คาดว่าภายใน 5 ปี น่าจะเพิ่มสัดส่วนขึ้นเป็น 30% โดยประเทศที่ถือว่าเป็นตลาดใหญ่ ได้แก่ ประเทศเกาหลี จีน ญี่ปุ่น ไทย และฟิลิปปินส์ ซึ่งประเทศเกาหลีในบางปีมีส่วนแบ่งการตลาดที่มีจำนวนมาก ขณะที่ญี่ปุ่นเติบโตเฉลี่ย 3% ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ส่วนประเทศจีนมียอดขายจำนวนมากเช่นกัน แต่มีการแข่งขันสูง ส่วนประเทศไทยและฟิลิปปินส์ เป็น 2 ประเทศที่มีอัตราการเติบโตของยอดขายเร็วที่สุด
ส่วนประเทศไทยถือเป็นประเทศสำคัญในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากมีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัวบ้าง แต่เป็นภาวะที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งบางปีประเทศไทยมียอดขายเติบโต 2-3% บางปีมีอัตราการเติบโต 7% แต่ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตเฉลี่ย 5% ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากภาวะการท่องเที่ยวที่เติบโตมาก และแบรนด์ลาคอสเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค ซึ่งบริษัทพยายามพัฒนาสินค้าให้เป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น
สำหรับกลยุทธ์และแนวทางการดำเนินธุรกิจของลาคอส จะไม่แข่งขันกับธุรกิจฟาสต์แฟชั่น อาทิ ยูนิโคล่ ซาร่า เอชแอนด์เอ็ม ที่ปัจจุบันมีสินค้าอยู่ทั่วโลก แต่จะมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ลาคอสให้มีความเป็นพรีเมียม และมีความแตกต่างจากคู่แข่งขัน เป็นสินค้าที่ไม่ซ้ำใคร และอยู่ในตำแหน่งสินค้าที่ดีที่สุด ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับช่องทางการตลาดออนไลน์ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันมีการดูข้อมูลสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และมาซื้อสินค้าในร้าน ซึ่งบริษัทจะผสมผสานแนวทางการตลาดระหว่างช่องทางออนไลน์และช่องทางออฟไลน์เข้าด้วยกัน
“ช่องทางออนไลน์บริษัทได้เริ่มมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2557 ปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายประมาณ 6% คาดว่าภายในระยะ 5 ปีจะเพิ่มสัดส่วนขึ้นเป็น 20% ”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,151 วันที่ 24 - 27 เมษายน พ.ศ. 2559