สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ผู้ผลิตเมล็ดกาแฟโรบัสต้าในเวียดนามซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่สุดของโลก เร่งขายกาแฟในระดับที่เร็วที่สุดใน 2 ปี เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าระบบชลประทานหลังจากที่เจอแล้งหนักสุดในรอบ 30 ปี
บลูมเบิร์กสำรวจผู้ค้ากาแฟรายใหญ่ 7 ราย ระบุว่าผู้ปลูกกาแฟในเวียดนามขายกาแฟไปแล้ว 930,000 ตันหรือประมาณ 58 % ของผลผลิตกาแฟทั้งหมดที่เก็บเกี่ยวในฤดูกาลที่สิ้นสุดเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการขายที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2557 ที่ขายไป 62 % และปีที่แล้วขายไป 49 % ในระยะเวลาเดียวกัน
บลูมเบิร์ก รายงานจากการสำรวจว่าผลผลิตกาแฟโรบัสต้าของเวียดนามปีนี้ น่าจะอยู่ในระดับประมาณ 1.6 ล้านตันเท่ากับปีที่แล้ว
สมาคมกาแฟและโกโก้เวียดนาม แถลงว่าพื้นที่ปลูกกาแฟในเวียดนามปีนี้ประสบกับปัญหาภัยแล้งหนักสุดในรอบ 30 ปีโดยสาเหตุของความแห้งแล้งครั้งนี้เกิดจากปรากฏการณ์เอลนิโญ โดยผลผลิตกาแฟที่บราซิลและโคลัมเบียประสบปัญหาภัยแล้งด้วยทำให้ราคากาแฟสูงขึ้นโดยกาแฟโรบัสต้าซึ่งนำมาผลิตเป็นกาแฟสำเร็จเป็นหลักเพิ่ม 6.2 % ในเดือนมีนาคมเป็นอัตราเพิ่มขึ้นรายเดือนสูงสุดนับตั้งแต่ เดือนมิถุนายนปีที่แล้ว
นายฟาน ฮุง แอ็ง (Phan Hung Anh) รองผู้อำนวยการบริษัท แอ็ง มินห์ฯ (Anh Minh Co.) ผู้ค้ากาแฟที่จังหวัด ดัคลัค กล่าวว่าคนปลูกกาแฟเร่งขายกาแฟเพื่อนำเงินมาจ่ายค่าชลประทานเนื่องจากปัญหาน้ำแล้งและเนื่องจากราคาดีจึงเร่งขายสินค้าออกมาในช่วงนี้
บลูมเบิร์ก รายงานอ้างข้อมูลจากสำนักงานสถิติของเวียดนามว่า การส่งออกกาแฟของเวียดนามไตรมาสแรกปีนี้ 457,000 ตัน เพิ่มขึ้น 24 % เทียบกับไตรมาสแรกปีที่แล้ว
สำหรับภาวะแล้งในพื้นที่ปลูกกาแฟ มีรายงานจากการทำนายน้ำฝนแห่งชาติของเวียดนามว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกลงในที่ราบสูงภาคกลางซึ่งเป็นแหล่งปลูกกาแฟของเวียดนาม อยู่ในระดับ 50-70 % ของปริมาณน้ำฝนที่ตกตามปกติเท่านั้นโดยอุณหภูมิโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 0.5-1 องศาเซลเซียสเทียบกับอุณหภูมิเฉลี่ยปกติโดยภาวะแห้งแล้งยังไม่ผ่อนคลาย
มีรายงานว่าแหล่งน้ำที่ใช้ในการชลประทานที่จังหวัดดัคลัค และ เตื่อยแจ๋ (Tuoi Tre) เมื่อวันที่ 5 เมษายน จำนวน 599 บ่อมี 20 % ที่น้ำแห้งหมด คิดเป็นแหล่งน้ำ 118 แห่งที่ใช้การไม่ได้ขณะที่ในปีที่แล้วมีเพียง 30 แห่งที่ใช้การไม่ได้นอกจากนี้นายแอ็ง ยังระบุว่าความร้อนทำให้ความชื้นระเหยไปในอัตราที่เร็วขึ้น
นายแอ็ง ระบุว่าถ้าในเดือนเมษายนนี้แล้งต่อเนื่องโดยฝนไม่ตกหรือตกกระจายได้ปริมาณน้ำน้อย ไร่กาแฟของเวียดนามจะต้องประสบปัญหาหนักอย่างแน่นอน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,150 วันที่ 21 - 23 เมษายน พ.ศ. 2559