ครึ่งปีแรกก่อหนี้ผูกพันแล้ว 63% จ่อถกเงินอุดหนุนหมู่บ้าน18 เม.ย.

19 เม.ย. 2559 | 15:00 น.
กรมบัญชีกลาง พอใจยอดเบิกจ่ายครึ่งปีแรกเป็นไปตามเป้า หลังรายจ่ายลงทุนเบิกจ่ายแล้วเกือบ 30% ขณะที่ก่อหนี้ผูกพันได้แล้ว 63.44% เตรียมถก 4 หน่วยงานเดินหน้ากำหนดรูปแบบเงินอุดหนุนหมู่บ้านละ 2 แสนบาท หลัง ครม.ไฟเขียว 1.5 หมื่นล้านบาทต้องอัดฉีดเข้าระบบภายไตรมาส 3 ด้าน สศค. ลุ้นเบิกจ่ายครึ่งปีหลัง

แหล่งข่าวจากกรมบัญชีกลาง เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงความคืบหน้าการเบิกจ่ายงบประมาณ 2 ไตรมาสของปีงบประมาณ 2559 (1ต.ค.58-31มี.ค.59) ว่าสามารถเบิกจ่ายงบประมาณไปได้แล้ว 1.412 ล้านล้านบาท คิดเป็น 51.91% ของวงเงินงบประมาณรวม 2.72 ล้านล้านบาท แยกเป็นการเบิกจ่ายในส่วนของรายจ่ายประจำ ที่กำหนดไว้อยู่ที่ 1.249 ล้านล้านบาท คิดเป็น 27.39% ของวงเงินรวม 2.17 ล้านล้านบาท ส่วนรายจ่ายลงทุน พบสามารถเบิกจ่ายได้แล้ว 1.632 แสนล้านบาท หรือคืบหน้า 29.98% จากวงเงินรวม 5.44 แสนล้านบาท

"จากมาตรการผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐเร่งทำสัญญาพร้อมก่อหนี้ผูกพันให้ทันภายในวันที่ 31 มีนาคม 2559 ส่งผลให้ ณ.สิ้นเดือนมีนาคม 2559 มีการก่อหนี้ผูกพันแล้ว 3.45 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 63.44%ของรายจ่ายลงทุน ทั้งนี้ได้กำหนดในส่วนของเงินกันเบิกเหลื่อมปีวงเงินสูงถึง 3.07 แสนล้านบาทเพื่อรองรับโครงการที่ทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว ซึ่งตามระยะเวลาดังกล่าว ได้ทำการเบิกวงเงินใช้ไปแล้วทั้งสิ้น 1.59 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 51.66%"

ขณะนี้กรมบัญชีกลาง อยู่ระหว่างเตรียมข้อมูลตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(มติครม.5 เม.ย.59) ที่เห็นชอบตามข้อเสนอกระทวงการคลังในโครงการยกระดับศักยภาพของหมู่บ้าน ตามแนวทางการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ โดยที่ประชุม ครม.ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรายงานข้อมูล ตลอดจนความคืบหน้าของโครงการฯ คาดว่าหลังวันที่ 18 เมษายน 2559 เป็นต้นไป จะมีการประชุมร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการ คลังและสำนักงบประมาณเพื่อทำคู่มือและหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการ ตามกรอบเวลาแล้วจะต้องกำหนดเกณฑ์รวมถึงเริ่มโอนเงินงบประมาณภายใน 90 วันหลังจากที่ ครม.เห็นชอบ

"งบประมาณที่ ครม.อนุมัติวงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท ภายใต้งบเงินอุดหนุนประเภทเงินอุดหนุนทั่วไปแก่หมู่บ้าน ถือเป็นการใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในวงเงินไม่เกิน 1.5หมื่นล้านบาท ให้แก่ 94,965 หมู่บ้าน หรือหมู่บ้านละ 2 แสนบาท ซึ่งเบื้องต้นทางกรมบัญชีกลางจะทำหน้าที่โอนงบประมาณโดยตรงถึงกระทรวงมหาดไทยสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการโครงการ รวมถึงใช้เป็นปัจจัยในการซื้อวัตถุดิบในการผลิตสินค้าหรือบริการในหมู่บ้านเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้ตรงจุด

ด้านนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ตามเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2559 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม2558 ถึง 31 กันยายน 2559 ตามที่รัฐบาลโฟกัสคือ รายจ่ายด้านการลงทุนกำหนดการเบิกจ่ายไว้ที่ 69% หรือคิดเป็น 3.756 แสนล้านบาท จากวงเงินรวม 5.443 แสนล้านบาทนั้น จะเห็นว่า ขณะนี้ตัวเลขการเบิกจ่ายรายจ่ายด้านการลงทุนหมุนเข้าสู่ระบบแล้ว 1.632 แสนล้านบาท คิดเป็น 30% ของกรอบวงเงินรวม ถือว่ามีแนวโน้มที่ค่อนข้างดี

ส่วนในครึ่งปีหลังคงต้องคิดตามว่าแต่ละโครงการที่ได้ทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันได้ทันตามระยะเวลาที่กำหนดจะสามารถเดินหน้าก่อสร้างได้ทันตามแผนหรือไม่ ทั้งนี้จะมี 2 หน่วยงานที่ดูแลติดตามการใช้งบประมาณ คือ สำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลาง อย่างไรก็ดีเชื่อว่าครึ่งปีหลัง ตามปีปฎิทิน ตัวเลขการเบิกจ่ายจะสูงขึ้น ซึ่งผูกพันกับงบการลงทุนปีงบประมาณ 2559 โดยมีหลายโครงการตามมติ ครม. ที่กำหนดระยะเวลาก่อสร้างเอาไว้ให้ทันภายในปีนี้แล้วที่สำคัญในช่วง 3-5 ปีจากนี้จะมีเม็ดเงินที่มาจากการการลงทุนของรัฐร่วมกับเอกชนในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานรวมกันหลายล้านล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,149 วันที่ 17 - 20 เมษายน พ.ศ. 2559