อสังหาฯรออานิสงส์เลือกตั้ง AREAชี้ตลอดปี 59 โครงการใหม่ลุ้นมูลค่า 7.8 หมื่นล้าน
AREA สำรวจรอบ 3 เดือน อสังหาฯเปิดตัวโครงการใหม่ไม่มาก คาดการณ์ทั้งปี 59 ตลาดหดในแง่จำนวนหน่วย ประมาณ 11% ด้านมูลค่า 19% เชื่อเมื่อมีการเลือกตั้งในปี 2560 สถานการณ์น่าจะคลี่คลายดีขึ้น
[caption id="attachment_45706" align="aligncenter" width="700"]
ประมาญการณ์เปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ปี 2559[/caption]
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย หรือ AREA เปิดเผยว่าจากการสำรวจข้อมูลภาคสนามอย่างละเอียดและต่อเนื่องที่สุดของศูนย์ฯ การเปิดตัวโครงการใหม่ในรอบ 3 เดือนแรกที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ มีการเปิดตัวไม่มากนัก คือเพียงเดือนละ 2 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามในเดือนมีนาคม มีการเปิดตัวขึ้นมากเป็นพิเศษ เพราะผลของการจัดงานมหกรรมที่อยู่อาศัยในช่วงเดือนดังกล่าว จึงมีผู้นำโครงการมาเปิดตัว"ชิมลาง" มากเป็นพิเศษ
"หากนำผลของการเปิดตัวในไตรมาสแรกนี้มาคูณ 4 รวมเป็น 4 ไตรมาส จะพบว่า จำนวนหน่วยขายเปิดใหม่จะมีเพียง 84,000 หน่วย รวมมูลค่าประมาณ 7.8 หมื่นล้านบาท หรือเท่ากับลดลง 22% ในด้านจำนวนหน่วย และ 28% ในด้านมูลค่า"
ทั้งนี้ราคาขายโดยเฉลี่ยคาดว่าจะมีราคาประมาณ 3.714 ล้านบาท ต่ำกว่าราคาเฉลี่ยในปี 2558 ที่ 4.029 ล้านบาท เป็นเพราะการสร้างบ้านราคาสูงๆ มาขาย คงจะลดลงไปจากเดิมที่เกิดขึ้นจำนวนมหาศาลบ้าง อย่างไรก็ตามที่อยู่อาศัยราคาสูง เช่น เกิน 10 ล้านขึ้นไป ยังสามารถขายได้ดีกว่าที่อยู่อาศัยราคาต่ำที่ภาวะเศรษฐกิจขณะนี้ กระทบต่ออำนาจการซื้อของประชาชนทั่วไป
กรณีการหดตัว 22-28% ข้างต้น อาจถือเป็นการหดตัวที่หนักที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้น แต่เชื่อว่าในไตรมาสที่ 2, 3 และ 4 รัฐบาลอาจสามารถแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้ ในกรณีที่โครงการลงทุนของภาครัฐได้ผลในระดับที่น่าพอใจ ก็อาจทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยกระเตื้องขึ้น คือ อาจทำให้จำนวนหน่วยหดตัวลงเพียง 3% แต่มูลค่าจะหดตัวราว 10% เมื่อเทียบกับปี 2558
ดร.โสภณ กล่าวว่า ในกรณีที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุดที่คาดว่าไตรมาสที่ 2, 3 และ 4 จะดีขึ้นกว่าไตรมาสแรกในระดับหนึ่ง ก็จะทำให้ในปี 2559 ทั้งปี มีโครงการเปิดใหม่ 96,600 หน่วย รวมมูลค่า 358,800 หรือลดลงกว่าปี 2558 ประมาณ 11% ในแง่จำนวนหน่วย และ 18% ในแง่ของมูลค่านั่นเอง โดยสรุปแล้ว ไม่ว่าจะวิเคราะห์ในกรณีใด การเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2559 จะลดลงกว่าปี 2558
หากพิจารณาถึงหน่วยขายในจังหวัดภูมิภาคด้วยแล้ว คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 จะหดตัวมาก เพราะตลาดในต่างจังหวัดหดตัวมากกว่าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเสียอีก อย่างไรก็ตามในกรณีจังหวัดภูมิภาคที่ยังมีอนาคตที่ดีกว่าได้แก่ เมืองชายแดนโดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจพิเศษ เมืองตากอากาศ เช่น พัทยา หัวหิน และเมืองอุตสาหกรรม เช่น มาบตาพุด เป็นต้น
ดังนั้น AREA จึงคาดการณ์สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในปี 2559 จะเกิดการหดตัวลงกว่าปี 2558 ซึ่งเป็นปีที่มีโครงการเปิดตัวใหม่ที่มีมูลค่าสูงสุดในรอบ 22 ปี นับตั้งแต่การสำรวจในปี 2537 ผู้ประกอบการ สถาบันการเงิน ผู้รับเหมา นักลงทุนและประชาชนทั่วไปจึงพึงระมัดระวังในการลงทุนให้จงดีพร้อมกันนี้ ดร.โสภณ ยังได้คาดการณ์ปี 2560 ว่า สถานการณ์น่าจะดีขึ้น เพราะรัฐบาลสัญญาว่าจะมีการเลือกตั้ง จะทำให้บรรยากาศการลงทุนต่าง ๆ ดีขึ้น เช่นที่เกิดขึ้นในกรณีเมียนมา เป็นต้น แต่หากไม่มีการเลือกตั้ง หรือมีเหตุการณ์รุนแรง หรือมีความไม่มั่นคงต่อความมั่นคงของประเทศและความมั่นคงด้านสิทธิพลเมือง ก็อาจทำให้การฟื้นตัวของตลาดล่าช้าออกไป
Photo : Pixabay
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,148 วันที่ 14 - 16 เมษายน พ.ศ. 2559
[caption id="attachment_45706" align="aligncenter" width="700"]
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย หรือ AREA เปิดเผยว่าจากการสำรวจข้อมูลภาคสนามอย่างละเอียดและต่อเนื่องที่สุดของศูนย์ฯ การเปิดตัวโครงการใหม่ในรอบ 3 เดือนแรกที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ มีการเปิดตัวไม่มากนัก คือเพียงเดือนละ 2 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามในเดือนมีนาคม มีการเปิดตัวขึ้นมากเป็นพิเศษ เพราะผลของการจัดงานมหกรรมที่อยู่อาศัยในช่วงเดือนดังกล่าว จึงมีผู้นำโครงการมาเปิดตัว"ชิมลาง" มากเป็นพิเศษ
"หากนำผลของการเปิดตัวในไตรมาสแรกนี้มาคูณ 4 รวมเป็น 4 ไตรมาส จะพบว่า จำนวนหน่วยขายเปิดใหม่จะมีเพียง 84,000 หน่วย รวมมูลค่าประมาณ 7.8 หมื่นล้านบาท หรือเท่ากับลดลง 22% ในด้านจำนวนหน่วย และ 28% ในด้านมูลค่า"
ทั้งนี้ราคาขายโดยเฉลี่ยคาดว่าจะมีราคาประมาณ 3.714 ล้านบาท ต่ำกว่าราคาเฉลี่ยในปี 2558 ที่ 4.029 ล้านบาท เป็นเพราะการสร้างบ้านราคาสูงๆ มาขาย คงจะลดลงไปจากเดิมที่เกิดขึ้นจำนวนมหาศาลบ้าง อย่างไรก็ตามที่อยู่อาศัยราคาสูง เช่น เกิน 10 ล้านขึ้นไป ยังสามารถขายได้ดีกว่าที่อยู่อาศัยราคาต่ำที่ภาวะเศรษฐกิจขณะนี้ กระทบต่ออำนาจการซื้อของประชาชนทั่วไป
กรณีการหดตัว 22-28% ข้างต้น อาจถือเป็นการหดตัวที่หนักที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้น แต่เชื่อว่าในไตรมาสที่ 2, 3 และ 4 รัฐบาลอาจสามารถแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้ ในกรณีที่โครงการลงทุนของภาครัฐได้ผลในระดับที่น่าพอใจ ก็อาจทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยกระเตื้องขึ้น คือ อาจทำให้จำนวนหน่วยหดตัวลงเพียง 3% แต่มูลค่าจะหดตัวราว 10% เมื่อเทียบกับปี 2558
ดร.โสภณ กล่าวว่า ในกรณีที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุดที่คาดว่าไตรมาสที่ 2, 3 และ 4 จะดีขึ้นกว่าไตรมาสแรกในระดับหนึ่ง ก็จะทำให้ในปี 2559 ทั้งปี มีโครงการเปิดใหม่ 96,600 หน่วย รวมมูลค่า 358,800 หรือลดลงกว่าปี 2558 ประมาณ 11% ในแง่จำนวนหน่วย และ 18% ในแง่ของมูลค่านั่นเอง โดยสรุปแล้ว ไม่ว่าจะวิเคราะห์ในกรณีใด การเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2559 จะลดลงกว่าปี 2558
หากพิจารณาถึงหน่วยขายในจังหวัดภูมิภาคด้วยแล้ว คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 จะหดตัวมาก เพราะตลาดในต่างจังหวัดหดตัวมากกว่าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเสียอีก อย่างไรก็ตามในกรณีจังหวัดภูมิภาคที่ยังมีอนาคตที่ดีกว่าได้แก่ เมืองชายแดนโดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจพิเศษ เมืองตากอากาศ เช่น พัทยา หัวหิน และเมืองอุตสาหกรรม เช่น มาบตาพุด เป็นต้น
ดังนั้น AREA จึงคาดการณ์สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในปี 2559 จะเกิดการหดตัวลงกว่าปี 2558 ซึ่งเป็นปีที่มีโครงการเปิดตัวใหม่ที่มีมูลค่าสูงสุดในรอบ 22 ปี นับตั้งแต่การสำรวจในปี 2537 ผู้ประกอบการ สถาบันการเงิน ผู้รับเหมา นักลงทุนและประชาชนทั่วไปจึงพึงระมัดระวังในการลงทุนให้จงดีพร้อมกันนี้ ดร.โสภณ ยังได้คาดการณ์ปี 2560 ว่า สถานการณ์น่าจะดีขึ้น เพราะรัฐบาลสัญญาว่าจะมีการเลือกตั้ง จะทำให้บรรยากาศการลงทุนต่าง ๆ ดีขึ้น เช่นที่เกิดขึ้นในกรณีเมียนมา เป็นต้น แต่หากไม่มีการเลือกตั้ง หรือมีเหตุการณ์รุนแรง หรือมีความไม่มั่นคงต่อความมั่นคงของประเทศและความมั่นคงด้านสิทธิพลเมือง ก็อาจทำให้การฟื้นตัวของตลาดล่าช้าออกไป
Photo : Pixabay
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,148 วันที่ 14 - 16 เมษายน พ.ศ. 2559