เปิดพรีเมี่ยมเอาท์เล็ทเชียงใหม่ เจาะลูกค้าจีนคลั่งแบรนด์เนมตั้งเป้าโกยยอด 500 ล้าน

11 เม.ย. 2559 | 06:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

เปิด พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท เชียงใหม่ หวังจับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนที่ชื่นชอบสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม ตั้งเป้ายอดขาย 500 ล้าน กางแผนเบรกขยายสาขาเพิ่มทั้งในประเทศและตปท. หันเล็งพัฒนาที่ดินเหลือในสาขาเดิมแทน ชี้มีกลุ่มทุนทาบลงทุนที่เวียงจันทน์แม้สนใจแต่ติดอุปสรรคเรื่องวัฒนธรรมและขั้นตอนการลงทุน

[caption id="attachment_43749" align="aligncenter" width="324"] พิเชฐ พงพิทักษ์เมธา  กรรมการผู้จัดการ  บริษัท เอาท์เล็ทมอลล์จำกัด พิเชฐ พงพิทักษ์เมธา
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท เอาท์เล็ทมอลล์จำกัด[/caption]

นายพิเชฐ พงพิทักษ์เมธา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอาท์เล็ทมอลล์จำกัด กล่าวว่า โครงการพรีเมี่ยมเอาท์เล็ท เชียงใหม่ เป็นสาขาที่ 10 นี้ ถือเป็นแฟชั่นเอาต์เล็ตสาขาแรกในภาคเหนือ ตั้งอยู่บนถนนเชียงใหม่-หางดง พื้นที่ 57 ไร่ โดยพัฒนาที่ดิน 30 ไร่ สำหรับโครงการเฟส 1 ใช้งบลงทุนกว่า 500 ล้านบาท เป็นพื้นที่ร้านค้ากว่า 12,800 ตร.ม. ภายในประกอบด้วยกลุ่มอาคารร้านค้า 7 หลัง ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างกลิ่นอายตะวันออก ผสมผสานกับวัฒนธรรมแบบล้านนา ส่วนของพื้นที่ที่เหลือ 27ไร่ มีแนวคิดว่าอาจจะพัฒนาเป็นรีเทล เพราะนอกจากเครื่องแต่งกายที่มีแล้ว อาจจะต้องมีเรื่องอาหาร ต้องการเป็นเอาต์เล็ต ที่รวบรวมขายโปรดักต์ที่เป็นของคนเชียงใหม่อาจจะรวบรวมไว้ที่นี่ อยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะดำเนินการเมื่อใด คาดว่าใช้ระยะเวลาดูสถานการณ์อีก 2-3 ปี และส่วนเงินลงทุนหากขยายพื้นที่อีก 5 พัน ตร.ม. คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 150 ล้านบาท

เหตุผลที่เปิดสาขาที่เชียงใหม่ เพราะเล็งเห็นถึงศักยภาพทางการตลาดของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามมีประวัติศาสตร์ยาวนาน และมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีความต้องการจากผู้บริโภคและกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างถิ่นและต่างชาติที่เดินทางมาพักผ่อน โดยเฉพาะกลุ่มหลักอีกกลุ่มหนึ่งคือนักท่องเที่ยวชาวจีนทั้งระดับกลาง-บน ซึ่งเป็นกลุ่มที่นิยมสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม

ปัจจุบันมีแบรนด์ที่พรีเมี่ยมเอาท์เล็ทเชียงใหม่ เกินกว่า 300 แบรนด์ ประมาณ 90% ได้ทยอยเปิดบางแบรนด์อาจต้องขออนุมัติจากต่างประเทศ เพราะเป็นไลเซนส์ลิขสิทธิ์อาจจะต้องใช้เวลา ที่ผ่านมาการตอบรับ ถือว่าคนเชียงใหม่ตอบรับดีกว่าที่คาดไว้ เท่าที่ทราบคนเชียงใหม่ก็เป็นลูกค้าพรีเมี่ยมเอาท์เล็ทและรู้จักดีอยู่แล้ว

ส่วนแผนการขยายสาขาไปจังหวัดอื่นนั้น ช่วงนี้ยังไม่มีแผนเพราะจังหวัดท่องเที่ยวเปิดสาขาครอบคลุมแล้ว แผนต่อไปคือกลับไปดูแต่ละสาขาที่มีที่ดินเหลือ อาจจะพัฒนาต่อยอด เช่น ภูเก็ต เขาใหญ่ ส่วนการขยายสาขาไปในกลุ่มประเทศอาเซียน นั้นมีนักธุรกิจในเวียงจันทน์ มาทาบทาม 2-3 ราย ได้เข้าไปสำรวจเช่นกัน แต่ยังไม่ตัดสินใจที่จะลงทุนเพราะมีหลายประเด็นที่จะต้องศึกษาทั้งเรื่องของเงินทุน และโดยเฉพาะสปป.ลาวจะมีกฎหมายคุ้มครองเรื่องธุรกิจค้าปลีก ซึ่งเป็นข้อกำหนดใหญ่ หากจะไปลงทุนก็จะต้องเป็นการร่วมทุนอย่างเดียวและถือได้แค่ 49% แต่นโยบายบริษัทต้องการลงทุนเอง 100% นอกจากนี้วัฒนธรรมยังมีส่วน อย่างที่สปป.ลาวยังจะต้องใส่ชุดประจำชาติยังอนุรักษ์ความเป็นวัฒนธรรมอยู่ จนกว่าวัฒนธรรมหรือแฟชั่นจะเริ่มเปิดเป็นสากล หรือหลายๆอย่างเริ่มรับวัฒนธรรมทั่วไป จึงเป็นอุปสรรคที่จะเดินทางไป ดังนั้นคาดว่าการลงทุนในต่างประเทศตอนนี้แผนในระยะ 3 ปีนี้ จึงยังไม่มีแผนลงทุน

สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาด จะเน้นการใช้โซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ก กลยุทธ์ในเรื่องราคาสินค้า ปกติแล้วร้านค้าทุกร้านส่วนใหญ่ลด 30-70% อยู่แล้ว ร้านค้าแต่ละร้านก็จะมีโปรโมชันพิเศษอยู่ สิ่งนี้ทำเป็นประจำ ส่วนตัวของเอาต์เล็ตเอง ถ้าซื้อครบ 6 พันบาท ครบ 1.2 หมื่นบาท นอกจากได้ของดีราคาถูกแล้วก็ยังได้รับของพรีเมียม อาทิ ร่มกันแดด กระเป๋า ฯลฯ ซึ่งเป็นโปรโมชันต่อเนื่องตลอด

นายพิเชฐ กล่าวต่อว่าในอนาคตจะมีนักท่องเที่ยวจาก 10 ประเทศในกลุ่มนี้เดินทางเข้ามาเมืองเชียงใหม่ปัจจัยดังกล่าวจึงก่อให้เกิดโครงการพรีเมี่ยมเอาท์เล็ทหางดง ธุรกิจแฟกตอรีเอาต์เล็ต ที่มีความแตกต่างจากห้างสรรพสินค้า และช็อปปิ้ง ซึ่งเป็นแนวทางที่มอบส่วนลดให้กับลูกค้าตลอด 365 วันด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 70% ทำให้สาขาเชียงใหม่ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ประมาณ 500 ล้านบาท

Photo : Fb/premium outlet cm

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,147 วันที่ 10 - 13 เมษายน พ.ศ. 2559