หั่นส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์ เหลือโต1%รุกหนักอาเซียน
เอกชนหั่นเป้าส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์ลงจากโต3% เหลือ1% เหตุหลายตลาดยังไม่ฟื้น ปีนี้เน้นลุยตลาดอาเซียน ใช้ความได้เปรียบไทยศูนย์กลางขนช่วยลดต้นทุน คาดครึ่งปีหลังแนวโน้มขึ้น เชื่อเศรษฐกิจโลกถึงจุดต่ำสุดแล้ว แนะผู้ประกอบการปรับตัวเน้นสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง ด้านพาณิชย์สั่งจัดงาน BIG&BIH ช่วยกระตุ้น เล็งยอดขายงานนี้ 1.6 พันล้าน
[caption id="attachment_43268" align="aligncenter" width="362"]
สุพัฒน์ ศรีวรรณวิทย์
นายกสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย[/caption]
นายสุพัฒน์ ศรีวรรณวิทย์ นายกสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงแนวโน้มการส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์ในปี 2559 ว่า น่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยปี 2558 ขยายตัว 0% ส่วนปีนี้ตั้งเป้าว่าจะขยายตัว 1% ซึ่งเป็นการปรับลดลงจากคาดการณ์เดิมเมื่อปลายปีก่อนที่ตั้งเป้าว่าจะขยายตัวได้ 3% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกในปีนี้ไม่ดีอย่างที่เอกชนเคยคาดการณ์ไว้ โดยตลาดหลักที่ยังมีปัญหา เช่น สหภาพยุโรป(อียู) ญี่ปุ่น ที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก
ส่วนตลาดสหรัฐฯ เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น ขณะที่ตลาดตะวันออกกลางยังมีความเสี่ยงในเรื่องการก่อการร้าย และราคาน้ำมันที่ยังลดลง ทำให้กำลังซื้อลดลงขณะที่ตลาดส่งออกที่มีแนวโน้มดีในปีนี้ คืออาเซียน ซึ่งปีนี้จะเน้นไปที่ตลาดอาเซียนเป็นหลักโดยอาศัยความได้เปรียบต้นทุนการขนส่งและโลจิสติกส์ที่ถูก
"ที่ผ่านมาการส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์ มีตลาดส่งออกที่สหรัฐอเมริกา สัดส่วน 20% จีนและอาเซียน สัดส่วน 20% อียู 12% ที่เหลือเป็นตลาดอื่นๆ ทั้ง ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง คาดในครึ่งหลังของปีนี้การส่งออกจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก เพราะราคาน้ำมันน่าจะปรับตัวดีขึ้น เงินบาทน่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้น สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว"
อย่างไรก็ดียังมีปัจจัยเสี่ยง เรื่องภัยจากการก่อการร้าย และสงครามในหลายประเทศ แต่ภาครัฐโดยกระทรวงพาณิชย์ก็ได้พยายามกระตุ้นการส่งออกอย่างเต็มที่ทั้งการจัดงานแสดงสินค้าต่างๆ การส่งเสริมผู้ประกอบการในการสร้างแบรนด์ เป็นต้น
ด้านนางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกสินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์ในปี 2559 จะขยายตัว 1% หรือมีมูลค่าประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาการส่งออกสินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์มีมูลค่าประมาณ 413.10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นการส่งออกระหว่างวันที่ 19-23 เมษายนนี้ กรมจะจัดงานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน ครั้งที่ 41 หรือ BIG+BIH April 2016 ณ ไบเทค บางนา
ไฮไลต์ของงานนั้นเพื่อเป็นเวทีสำหรับนักออกแบบ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการค้าสินค้าไลฟ์สไตล์ที่มีคุณภาพระดับแนวหน้า ในการนำเสนองานดีไซน์เปี่ยมนวัตกรรมและสินค้าคอลเลกชันใหม่สำหรับฤดูกาลหน้า เป็นการตอกย้ำจุดเด่นและความสำคัญของประเทศไทยในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการค้าและแหล่งรวมสินค้าไลฟ์สไตล์ที่มีคุณภาพของอาเซียนและของโลก ตั้งเป้ามูลค่าการซื้อภายในงาน ไม่น้อยกว่า 1.6 พันล้านบาท
สำหรับการส่งออกของไทยในภาพรวมปี 2559 ทางกระทรวงพาณิชย์ยังคงเป้าหมายการทำงานไว้ขยายตัวที่ 5% โดยในอัตราการขยายตัวนี้จะมีมูลค่าการส่งออกในกลุ่มสินค้าบริการรวมอยู่ด้วย โดยในไตรมาสที่ 2 ของปี มองว่าปัจจัยที่มีผลต่อการส่งออกจะยังเป็นเรื่องของเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีทิศทางผ่อนคลายไปในทางที่ดี สถานการณ์ราคานํ้ามันอัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนน้อยลงและผู้ประกอบการได้ปรับการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดมากขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,146 วันที่ 7 - 9 เมษายน พ.ศ. 2559
[caption id="attachment_43268" align="aligncenter" width="362"]
นายกสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย[/caption]
นายสุพัฒน์ ศรีวรรณวิทย์ นายกสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงแนวโน้มการส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์ในปี 2559 ว่า น่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยปี 2558 ขยายตัว 0% ส่วนปีนี้ตั้งเป้าว่าจะขยายตัว 1% ซึ่งเป็นการปรับลดลงจากคาดการณ์เดิมเมื่อปลายปีก่อนที่ตั้งเป้าว่าจะขยายตัวได้ 3% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกในปีนี้ไม่ดีอย่างที่เอกชนเคยคาดการณ์ไว้ โดยตลาดหลักที่ยังมีปัญหา เช่น สหภาพยุโรป(อียู) ญี่ปุ่น ที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก
ส่วนตลาดสหรัฐฯ เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น ขณะที่ตลาดตะวันออกกลางยังมีความเสี่ยงในเรื่องการก่อการร้าย และราคาน้ำมันที่ยังลดลง ทำให้กำลังซื้อลดลงขณะที่ตลาดส่งออกที่มีแนวโน้มดีในปีนี้ คืออาเซียน ซึ่งปีนี้จะเน้นไปที่ตลาดอาเซียนเป็นหลักโดยอาศัยความได้เปรียบต้นทุนการขนส่งและโลจิสติกส์ที่ถูก
"ที่ผ่านมาการส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์ มีตลาดส่งออกที่สหรัฐอเมริกา สัดส่วน 20% จีนและอาเซียน สัดส่วน 20% อียู 12% ที่เหลือเป็นตลาดอื่นๆ ทั้ง ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง คาดในครึ่งหลังของปีนี้การส่งออกจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก เพราะราคาน้ำมันน่าจะปรับตัวดีขึ้น เงินบาทน่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้น สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว"
อย่างไรก็ดียังมีปัจจัยเสี่ยง เรื่องภัยจากการก่อการร้าย และสงครามในหลายประเทศ แต่ภาครัฐโดยกระทรวงพาณิชย์ก็ได้พยายามกระตุ้นการส่งออกอย่างเต็มที่ทั้งการจัดงานแสดงสินค้าต่างๆ การส่งเสริมผู้ประกอบการในการสร้างแบรนด์ เป็นต้น
ด้านนางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกสินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์ในปี 2559 จะขยายตัว 1% หรือมีมูลค่าประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาการส่งออกสินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์มีมูลค่าประมาณ 413.10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นการส่งออกระหว่างวันที่ 19-23 เมษายนนี้ กรมจะจัดงานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน ครั้งที่ 41 หรือ BIG+BIH April 2016 ณ ไบเทค บางนา
ไฮไลต์ของงานนั้นเพื่อเป็นเวทีสำหรับนักออกแบบ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการค้าสินค้าไลฟ์สไตล์ที่มีคุณภาพระดับแนวหน้า ในการนำเสนองานดีไซน์เปี่ยมนวัตกรรมและสินค้าคอลเลกชันใหม่สำหรับฤดูกาลหน้า เป็นการตอกย้ำจุดเด่นและความสำคัญของประเทศไทยในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการค้าและแหล่งรวมสินค้าไลฟ์สไตล์ที่มีคุณภาพของอาเซียนและของโลก ตั้งเป้ามูลค่าการซื้อภายในงาน ไม่น้อยกว่า 1.6 พันล้านบาท
สำหรับการส่งออกของไทยในภาพรวมปี 2559 ทางกระทรวงพาณิชย์ยังคงเป้าหมายการทำงานไว้ขยายตัวที่ 5% โดยในอัตราการขยายตัวนี้จะมีมูลค่าการส่งออกในกลุ่มสินค้าบริการรวมอยู่ด้วย โดยในไตรมาสที่ 2 ของปี มองว่าปัจจัยที่มีผลต่อการส่งออกจะยังเป็นเรื่องของเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีทิศทางผ่อนคลายไปในทางที่ดี สถานการณ์ราคานํ้ามันอัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนน้อยลงและผู้ประกอบการได้ปรับการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดมากขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,146 วันที่ 7 - 9 เมษายน พ.ศ. 2559