หุ้นไทยโค้ง2‘ฟันด์โฟลว์’หนุนลุ้นจบครึ่งปี 1,450-1,480 จุด

08 เม.ย. 2559 | 09:00 น.
ผ่านไปแบบหืดจับสำหรับไตรมาสแรกของปี 2559 ตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนสำคัญจากกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย หรือฟันด์โฟลว์ที่ไหลเข้าเช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก

โดยเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สภาพคล่องโลกเพิ่มขึ้นจากนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางหลักของโลก ส่งผลให้ฟันด์โฟลว์ปริมาณมากไหลเข้ามาในตลาดหุ้นเอเชีย โดยมีมูลค่าสูงถึง 9.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จนทำให้ยอดซื้อสุทธิสะสมตั้งแต่ต้นปี 2559 จนถึงปัจจุบัน ของทั้ง 5 ประเทศ คือ ไต้หวัน ,เกาหลีใต้, ไทย, ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย

ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2 โดยเฉพาะเดือนเมษายน นักวิเคราะห์คาดว่าฟันด์โฟลว์ จะไหลเข้ามาในตลาดหุ้นเอเชียอย่างต่อเนื่องได้ในระยะสั้น

บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เอเซีย พลัส จำกัด(มหาชน)(บมจ.) เปิดสถิติย้อนหลัง 10 ปี ที่ต่างชาติซื้อหุ้นไทยถึง 7 ใน 10 ปี นอกจากนี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึงราว 3.49% โดยมีโอกาสที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกสูงถึง 90% ในเดือนเมษายน

ความเห็นของ"สุพงศ์วร เมี้ยนโภคา "หัวหน้าฝ่ายจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นยังเป็นการลงทุนที่น่าสนใจในปีนี้ เพราะภาวะ Oversold หรือภาวะที่มีการขายหุ้นออกไปมากช่วงต้นปีทำให้ตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมา ประกอบกับมูลค่าของตลาดยังอยู่ในช่วงต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี อีกทั้งยังไม่มีภาพว่าเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย จึงนับเป็นโอกาสการลงทุนในตลาดหุ้น

"การลงทุนต่างประเทศ แนะนำให้ลงทุนในตลาดหุ้นกลุ่มพัฒนาแล้ว เช่น ตลาดหุ้นยุโรปหรือญี่ปุ่น ที่จะได้รับปัจจัยบวกจากการใช้มาตรการคิวอี อีกทั้งมูลค่าหุ้นของทั้ง 2 ตลาดปรับลดลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ"

สำหรับตลาดเกิดใหม่ "สุพงศ์วร " มองว่ายังคงมีความเสี่ยงต่อภาวะเงินทุนไหลออกอีกครั้ง จากการปรับพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนทั่วโลกหลังจากตลาดหุ้นและสกุลเงินของกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ปรับตัวขึ้นในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดีตลาดหุ้นไทยนั้นมีโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดกลุ่มประเทศเกิดใหม่อื่นๆ เนื่องจากสัดส่วนการถือครองของนักลงทุนต่างชาติในหุ้นไทยถือเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 5 ปีที่ผ่าน ทำให้ความเสี่ยงจากเงินทุนไหลออกอยู่ในระดับต่ำ

ด้าน"วิวัฒน์ เตชะพูลผล" รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บล. ทิสโก้ฯ มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยไตรมาส 2 ว่า จะอยู่ในภาวะ Over Bought หรือภาวะเข้าเขต "ซื้อมากเกิน"ก่อนจะขึ้นไปทรงตัวที่ระดับ 1,430-1,450 จุด

มาที่คำแนะนำการลงทุน ให้เล่นหุ้น "กลุ่มก่อสร้าง รับเหมา และอสังหาริมทรัพย์" ก่อนจะจบรอบ หลังจากที่ข่าวดีจากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ)และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในเดือนมีนาคม หมดลง และพ้นช่วงข่าวปันผล แม้ต่างชาติจะเข้าซื้อสุทธิเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายน ราว 3 หมื่นล้านบาท แต่ก็จะเป็นการซื้อที่ราคาสูงก่อนที่คาดว่าดัชนีจะปรับลงมาสู่แนวรับ 1,350 จุดช่วงเดือนมิถุนายน

" แนะนำให้นักลงทุนทยอยซื้อสะสมที่ 1,350 จุด เพื่อรอรับเงินทุนไหลเข้าช่วงครึ่งปี มองว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯจะวิ่งขึ้นไปที่ 1,480 จุด" วิวัฒน์ กล่าว

ความเห็นของ"วิลาสินี บุญมาสูงทรง" ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็กฯ มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ

รวมทั้งยังรับอานิสงส์จากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)ที่ได้อนุมัติมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 9-17 เมษายน 2559 ในการรับประทานอาหารนอกบ้าน วงเงินไม่เกิน 15,000 บาท รวมทั้งต่ออายุมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศที่สามารถหักลดหย่อนได้ไม่เกิน 15,000 บาทต่อไปอีก 1 ปี จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลือง ซึ่งพร้อมจะเปิดประมูลภายใน 3 เดือน

บล.โกลเบล็กฯ คาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,420-1,430 จุด แนะนำเลือกหุ้นรายตัว โดยเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยรองรับ เช่น กลุ่มอาหาร และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่ได้อานิสงส์จากเงินบาทที่อ่อนค่า กลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม ค้าปลีก เป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการที่ ครม.อนุมัติหักภาษีกินเที่ยวช่วงสงกรานต์สูงสุด 15,000 บาท กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ได้รับประโยชน์จากการมติ ครม.อนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-สีชมพู

ส่วนปัจจัยลบ คือ ที่มีแนวโน้มกดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่พอสมควร เช่น การปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพี

บทสรุปของทิศทางตลาดหุ้นโค้ง 2 โดยเฉพาะช่วงสั้น หรือเดือนเมษายน นักวิเคราะห์ มองตรงกันว่า ยังได้แรงหนุนจากฟันด์โฟลว์ ไหลเข้า อีกทั้งได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลช่วงเทศกาลสงกรานต์ และครม.อนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลือง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,146 วันที่ 7 - 9 เมษายน พ.ศ. 2559