ซูซูกิเดินเครื่องรุก 2 ล้อเครื่อง แง้มแผนรถใหม่อีก 3 รุ่นภายในสิ้นปี มั่นใจดันยอดขายเข้าเป้า 3.5 หมื่นคัน ชี้ตลาดรวมแตะ 1.7 ล้านคัน พร้อมยืนยันไทยเป็นฐานการประกอบรถขนาดกลาง และเตรียมเปิดโรงเรียนสอนขับขี่ปลอดภัยเดือนพ.ค.นี้หวังตอบแทนสังคมและให้ลูกค้าเรียนรู้การขับขี่ที่ถูกต้อง
นายเลิศศักดิ์ นววิมาน กรรมการบริหาร บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ซูซูกิ เปิดเผยว่า ในปี 2558 ตลาดรวมจักรยานยนต์มียอดจดทะเบียน 1.68 ล้านคัน และซูซูกิมียอดจดทะเบียนประมาณ 3 หมื่นกว่าคัน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 1.8% ขณะที่ทิศทางของปี 2559 คาดว่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อย โดยประเมินว่าจะมียอดจดทะเบียนประมาณ 1.7 ล้านคัน และซูซูกิมีเป้าหมายอยู่ที่ 3.5 หมื่นคัน หรือคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 2%
สำหรับปัจจัยที่จะสนับสนุนการเติบโตของตลาดรถจักรยานยนต์ในปีนี้ ประกอบไปด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินจากภาครัฐเข้ามาในระบบเพื่อเดินหน้าในโครงการสาธารณูปโภคโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงาน และมีเม็ดเงินเพื่อจับจ่ายใช้สอย อย่างไรก็ดีมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามองก็คือราคาสินค้าทางการเกษตรไม่ว่าจะเป็น ข้าว, ยาง รวมไปถึงภัยแล้ง
"ส่วนแบ่งการตลาดของเราน้อย แม้ว่าผลการดำเนินงานของเราดี ทั้งนี้เพราะภาพรวมของทั้งตลาดมีการปรับตัว มีปัจจัยเสี่ยงเข้ามากระทบหลายประการ อย่างไรก็ดีรถจักรยานยนต์ในกลุ่มสปอร์ตบิ๊กไบค์มีความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างมากและในปีนี้ทิศทางดังกล่าวก็ยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อเนื่อง"
นายเลิศศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนงานของซูซูกิที่จะผลักดันยอดขายให้เข้าเป้านั้น จะประกอบไปด้วย การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ล่าสุดในงานมอเตอร์โชว์ได้ส่งรุ่น SV650 จักรยานยนต์สไตล์สตรีตไบค์ เครื่องยนต์ V-Twin สนนราคา 2.79 แสนบาทสำหรับ 50 คันแรก นอกจากนั้นแล้วจะมีรถใหม่อีก 3 รุ่นที่จะเปิดภายในสิ้นปีนี้
"เราเสริมทัพรถในกลุ่มสตรีตไบค์ด้วยรุ่น SV650 ส่วนบิ๊กไบค์รุ่นอื่นๆ ก็ถือว่าครบครันและได้รับความนิยมไม่แพ้กันไม่ว่าจะเป็น V-Strom 650,1000, GSX-S1000, GSX-S1000F, Hayabusa, GSX-R 1000, Boulevard, RM-Z250 ส่วนในรุ่น Burgman สกูตเตอร์ขนาดกลางซึ่งใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกกว่า 90% ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ขณะที่กลุ่มรถเล็กเรายังคงทำตลาด เพราะเรามั่นใจว่าลูกค้าแฟนพันธุ์แท้ของซูซูกิยังคงมี ยกตัวอย่างในปีที่ผ่านมาที่ทำการส่ง GD110 HU สไตล์เรโทร ที่ได้ผลตอบรับดีมาก "
ด้านเครือข่ายผู้แทนจำหน่าย สำหรับรถบิ๊กไบค์มีจำนวน 9 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่, หาดใหญ่, ภูเก็ต,นครราชสีมา, อุบลราชธานี, ขอนแก่น, พัทยา, หัวหิน และกรุงเทพฯ ซึ่งในปีนี้มีการปรับโฉมใหม่ของโชว์รูมกรุงเทพฯสาขาพระราม 3 ส่วนเครือข่ายดีลเลอร์ซูซูกิทั่วไปมีจำนวน 200 แห่งทั่วประเทศและยังไม่มีแผนงานที่จะขยายเพิ่ม
ขณะที่แผนการลงทุนในส่วนของโรงงานนั้น คาดว่าจะมีให้เห็นภายในช่วง 3 ปีนี้ เพราะบริษัทแม่ยังมีความเชื่อมั่นในฐานการผลิตที่ไทย โดยปัจจุบันโรงงานไทยซูซูกิ มีกำลังการผลิตสูงสุด 3 แสนคัน แต่ปัจจุบัน ผลิตเพื่อส่งออก 9.4 หมื่นคัน และผลิตเพื่อป้อนตลาดในประเทศ 3.5 หมื่นคัน นอกจากนั้นแล้วจะมีการผลิตเครื่องยนต์เรือ 7 หมื่นเครื่อง
"ปีนี้ยอดส่งออกจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทั้งในส่วนของจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์เรือ โดยในปีที่ผ่านมาเครื่องยนต์เรือผลิตจำนวน 6.4 หมื่นเครื่อง และในปีนี้จะเพิ่มเป็น 7 หมื่นเครื่อง เช่นเดียวกับยอดขายในประเทศที่คาดว่าจะเพิ่มอีกประมาณ 5 พันคัน และในปีหน้าจะมีการผลิตรถขนาดกลางเข้าสู่ตลาดอีก 1 รุ่น "
นายเลิศศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากกลยุทธ์เชิงรุกแล้ว ในปีนี้บริษัทจะเปิดโรงเรียนสอนขับขี่จักรยานยนต์ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเดือนพฤษภาคมนี้ โดยมีวัตถุประสงค์คือให้ลูกค้ามีทักษะในการขับขี่รถที่ถูกต้อง, ปลอดภัย และต้องการบริการสังคม ซึ่งจะเปิดให้บริการทั้งลูกค้าของซูซูกิ, ดีลเลอร์ และผู้สนใจทั่วไปให้เข้ามาใช้บริการได้ โดยโรงเรียนดังกล่าวจะตั้งอยู่บริเวณเดียวกับโรงงานที่คลอง 3 จ.ปทุมธานี
"เรามีเทคโนโลยีต่างๆ ที่ใส่เข้าไว้ในตัวรถ ดังนั้นเราต้องการให้ลูกค้าได้เรียนรู้ว่ามีการใช้งานอย่างไร และมีการสอนทักษะการขับขี่ที่ปลอดภัยว่าเป็นอย่างไร ตรงจุดนี้ถือเป็นสิ่งที่เราตระหนักและจะให้ความสำคัญ"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,146 วันที่ 7 - 9 เมษายน พ.ศ. 2559