มหาเศรษฐีหญิงคนแรกของเวียดนาม

15 เม.ย. 2559 | 04:00 น.
มาดาม “เหงียน ที เฟือง เถา” (Nguyen Thi Phuong Thao) กำลังกลายเป็นนักธุรกิจหญิงมหาเศรษฐีหมื่นล้านคนแรกของเวียดนาม และอาจจะเป็นคนแรกของอาเซียนที่สร้างธุรกิจจนเป็นมหาเศรษฐีด้วยหนึ่งสมองสองมือของตัวเอง

มาดามเถา เริ่มทำเงินล้านได้ตอนอายุ 21 ปีขายเครื่องแฟกซ์และน้ำยางพาราและใช้เวลาอีก 25 ปีต่อมารุกเข้าสู่ธุรกิจสายการบินและอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบันเป็นเจ้าของหุ้น 95 % ของสายการบินเวียดเจ็ทและขณะนี้สายการบินของเวียดนามที่สร้างความฮือฮาโดย ให้แอร์โฮสเตสแต่งบิกินีต้อนรับผู้โดยสารในเที่ยวบินปฐมฤกษ์กำลังจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ที่เวียดนามและมีการประเมินกันว่าสายการบินเวียดเจ็ทมีราคาตลาดประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 36,000 ล้านบาท)

นอกจากหุ้นใหญ่ในเวียดเจ็ท แล้ว มาดามเถายังเป็นเจ้าของโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เมืองมังกร (Dragon City) ในกรุงโฮจิมินห์ ซึ่งมีพื้นที่รวม 65 เฮกตาร์ (ประมาณ 406 ไร่กับอีก 100 ตารางวา) ซึ่งเมื่อรวมสินทรัพย์แล้วจะทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์กลายเป็นมหาเศรษฐีหญิงคนแรกของเวียดนามที่ขึ้นกลุ่มมหาเศรษฐีพันล้านดอลลาร์ของดัชนีมหาเศรษฐีของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg Billionaires Index)

สินทรัพย์ที่สร้างความร่ำรวยให้กับ มาดามเถา อย่างรวดเร็วคือสายการบินเวียดเจ็ท ซึ่งเป็นสายการบินเอกชนที่ประสบความสำเร็จและขยายตัวอย่างรวดเร็วใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีที่เปิดกิจการมา สามารถครองตลาดการบินในประเทศได้มากกว่า 30 % ขณะนี้เวียดเจ็ทมีเที่ยวไป 47 สนามบินในประเทศและต่างประเทศรวมทั้ง กรุงโซล กรุงเทพฯและสิงคโปร์โดยคาดว่าภายในปีนี้ เวียดเจ็ทจะสามารถเอาชนะเวียดนามแอร์ไลน์ส สายการบินแห่งชาติที่ก่อตั้งมาเป็นเวลานานได้สำเร็จ

สินทรัพย์อีกตัวหนึ่งคือโครงการเมืองมังกรหรือดรากอนซิตี ตอนที่เธอซื้อที่ดินผืนนี้มาเมื่อ 10 ปีก่อนเป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่าที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจของโฮจิมินห์ เมื่อคอมเพล็กซ์ดรากอนซิตีซึ่งมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สร้างเสร็จ ที่ดินผืนนี้จะมีมูลค่าเพิ่มมหาศาล

นอกจากดรากอนซิตีแล้ว มาดามเถา ยังมีหุ้นอยู่ในรีสอร์ตอีกหลายแห่งอาทิ ฟูรามารีสอร์ทที่ดานัง อีวาสัน อนา มันดาราญาจาง และแอนแลมนิงห์แวนเบย์วิลลาส์และมีหุ้น 20 % ในธนาคารเอชดีแบงก์ ซึ่งเธอมีตำแหน่งเป็นรองประธานของธนาคารเอกชนแห่งนี้

มาดามเถา ซึ่งปัจจุบันอายุ 45 ปีให้สัมภาษณ์บลูมเบิร์กว่า “ฉันไม่เคยมานั่งนับว่าตัวเองมีสินทรัพย์อยู่เท่าไหร่ ฉันคิดว่าจะทำให้อย่างไรให้บริษัทเติบโตขึ้น ทำอย่างไรถึงให้พนักงานมีรายได้ที่มากขึ้นและทำให้สายการบินขึ้นเป็นผู้นำในตลาดได้”

นายโว ฟุค เหงียน นักวิเคราะห์หลักทรัพย์จากบริษัท ซีไอเอ็มบีกรุ๊ปฯ กล่าวว่า มาดามเถาไม่เหมือนคนรวย โดยทั่ว ๆ ไป เธอไม่ชอบแสดงตัวและอยู่อย่างเงียบ ๆ ในเวียดนามขณะที่สายการบินของเธอประสบความสำเร็จอย่างสูง

มาดามเถา เริ่มทำธุรกิจตั้งแต่ปี 2531 ขณะนั้นยังเป็นนักเรียนปี 2 อยู่ในมหาวิทยาลัยที่กรุงมอสโก เธอเรียนการเงินและเศรษฐศาสตร์ เริ่มค้าขายด้วยเงินทุนเพียงเล็กน้อยซื้อสินค้าเสื้อผ้า เครื่องใช้ในสำนักงานและสินค้าอุปโภคบริโภคจากญี่ปุ่น ฮ่องกงและเกาหลีใต้ไปขายในรัสเซีย

มาดามเถา มีประสบการณ์ทางด้านการค้าไม่มาก แม่เป็นครูส่วนพ่อขายยา แต่เธอทำงานหนัก เธอให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันมีเงินทุนไม่มากนักดังนั้นจึงต้องทำงานหนักและซื่อสัตย์ ทำให้คู่ค้าให้เครดิตในการซื้อสินค้าที่ยาวกว่าปกติ ทำให้มีเงินหมุนมากขึ้น ทำได้ 3 ปีเริ่มมีรายได้ถึงล้าน จึงหันไปขายเหล็ก เครื่องจักร ปุ๋ย สินค้าที่ใช้ทุนมากขึ้น”

เจ้าของสายการบินเวียดเจ็ท เดินทางกลับประเทศและลงทุนตั้งบริษัท เทคคอมแบงก์ฯ (Techcombank) และบริษัท เวียดนามอินเตอร์เนชั่นแลนคอมเมอร์เชียลจ้อยท์สต็อคแบงก์ฯ ทำธุรกิจค้าขายและปล่อยกู้ ตามด้วยคำขอจัดตั้งสายการบินเมื่อเห็นว่า ประเทศเวียดนามมีนโยบายเปิดประเทศเดินหน้าสู่เศรษฐกิจการค้าแบบตลาดในปี 2529

หลังจากที่เวียดนามเปิดประเทศแล้วมาดามเถา ก็ได้ใบอนุญาตทำธุรกิจสายการบินเอกชนสายแรก ของประเทศซึ่งนับเป็นการมองธุรกิจที่ถูกทาง มากเนื่องจากธุรกิจการบินมีอนาคตอย่างมากเพราะเมืองแต่ละเมืองของเวียดนามอยู่ห่างกันตามลักษณะภูมิประเทศที่ยาวเหนือจดใต้ ขณะที่ระบบคมนาคมโดยถนนและรางเก่าแก่ล้าสมัย ทำให้การคมนาคมทางอากาศเป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่สุดสำหรับชาวเวียดนาม

มาดาม เถา ให้สัมภาษณ์ถึงภาพลักษณ์ของสายการบินเวียดเจ็ทที่ให้แอร์โฮสเตส นุ่งบิกินี ซึ่งขัดแย้งกับวัฒนธรรมของเวียดนามมาก ว่าพนักงานมีสิทธิ์ที่จะนุ่งชุดอะไรจะเป็นบิกินีหรือชุดประจำชาติก็ได้ “ฉันไม่รู้สึกอะไรถ้าจะมีคนนึกถึงสายการบินในภาพลักษณ์พนักงานสาวนุ่งบิกินีให้บริการ ถ้าทำให้ลูกค้ามีความสุขเราก็มีความสุขด้วย”

บลูมเบิร์ก ระบุว่า สายการบินเวียดเจ็ทไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม กำลังเอาชนะสายการบินแห่งชาติของเวียดนามและไออาต้า ทำนายว่า จะเป็นสายการบิน 1 ใน 10 ของโลกที่มีอัตราขยายตัวเร็วที่สุดในช่วง 20 ปีข้างหน้า

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,146 วันที่ 7 - 9 เมษายน พ.ศ. 2559