ผ่าตัด “เจ้าจำปี” สละอวัยวะ เพื่อรักษาชีวิต

02 เม.ย. 2563 | 02:00 น.

คอลัมน์ฐานโซไซตี้ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3562 ระหว่างวันที่ 2-4 เม.ย.2563 โดย... พริกกะเหรี่ยง

....จากแอร์ไลน์ที่จอดสนิทตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน น่านฟ้าไร้เงานกเหล็ก ดูเงียบพิลึก! แต่คนทำงานแอร์ไลน์ก็อกสั่นขวัญแขวนกันอีกหลายยก ชีวิตเหมือนอยู่บนเส้นด้าย เพราะไม่รู้ทิศทางว่าสถานการณ์จะลากยาวถึงไหน ช่วงนี้ต้องพักก็ต้องพักกันยาว “ป้าม่วง” นอกจากจะจอดเครื่อง 69 ลำเรียงรายเต็มสนามบินอย่างเป็นระเบียบ จนโลกโซเชียลเอาไปโพสต์ ว่า“Social Distancing” ท่ามกลางความหวาดผวาของคนทำงานที่มีเงื่อนไขต่างๆ ยังไม่เคลียร์คัต

....เพราะแม้ว่ากระทรวงการคลังจะออกมา “แอ่นอก” รับว่าอุ้มแน่ไม่ปล่อยให้ “ล้ม” แต่นั่นก็ต้องมีเงื่อนไขแลกเปลี่ยนเช่นกันว่าใส่เงินไปอีก 5 หมื่นล้านบาทแล้วจะไปรอดตลอดรอดฝั่งหรือไม่ประการใด เพื่อสร้างความมั่นใจให้ “เจ้าหนี้” เพราะอาการของ “เจ้าจำปี” ไม่ใช่แค่ “โควิด-19” ที่ผ่านมาขาดทุนติดต่อกันหนัก 2 ปีให้หลังมานี่ก็ราวกว่า 2 หมื่นล้านบาท โควิดแค่เป็นตัวเร่งให้เข้า “ไอซียู” เร็วขึ้นเท่านั้น ผ่าตัดครั้งนี้หากไม่ “ตัดอวัยวะ” เพื่อรักษาชีวิต รอดยาก พูดตามตรง แม้จะเป็นรัฐวิสาหกิจก็เถอะ

 

ผ่าตัด “เจ้าจำปี” สละอวัยวะ เพื่อรักษาชีวิต

....หรือถึงแม้รัฐบาลเข้ามาอุ้ม ตัวแปรสำคัญก็อยู่ที่แผนฟื้นฟูที่จะส่งให้กระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม นั้นทำได้จริงและทำแล้วจะรอดได้จริงหรือไม่ เป็นเรื่องใหญ่ หากไม่ยอมเจ็บปวดเพื่อจะไปต่อ จนมีข่าวลือสารพัด โดยเฉพาะประเด็นการ “ดาวน์ไซซิ่ง” องค์กร นั่นคือลดทุกอย่างลงครึ่งหนึ่ง คนจากกว่า 2 หมื่นคนก็เหลือแค่กว่าหมื่นคนและเอาต์ซอร์ซหมื่นคนต้องตัดทันที

 

....ฝูงบินเครื่องบิน 80 ลำ หั่นเหลือครึ่งหนึ่ง หรือเหลือไว้เฉพาะบินเจ้าของในราว 39 ลำ “โอที” ต้องเป็นศูนย์คือไม่มี เส้นทางบิน สำนักงานในต่างประเทศ หั่นเหี้ยนเอาไว้เฉพาะแต่ที่คิดว่าจะทำกำไร ไม่เปิดๆ ปิดๆ เหมือนที่ผ่านมา ส่วนยูนิตที่คิดว่าจะไปรอด ก็ต้องแยกตัวเองออกมาเป็น “บิสิเนสยูนิต” แยกการบริหารออกมาให้ชัดเจน ทั้งตัวเลขกำไร -ขาดทุน -ต้นทุนที่แท้จริง โดยธุรกิจที่ยังไปได้ไม่ว่าจะเป็น ครัวการบิน-ฝ่ายช่าง-คาร์โก-บริการภาคพื้น เป็นต้น เพื่อให้ “เจ็บ” ครั้งเดียวแล้วจบ แต่นั่นย่อมหมายถึง พนักงานทั้งหมดต้องให้ความร่วมมือ เคสนี้ถึงจะไปรอด


ผ่าตัด “เจ้าจำปี” สละอวัยวะ เพื่อรักษาชีวิต


....ส่วนระยะสั้น ก็ว่ากันไปตามขั้นตอน ลดเงินเดือน ไล่กันเป็นสเต็ปสูงสุด สำหรับฝ่ายบริหาร และอีวีพี กัปตัน 50%ะต่ำสุด 25% การบินไทยมีรายจ่ายเงินเดือนพนักงานเดือนละ 1,176 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งทำได้จะลดรายจ่ายส่วนนี้ไปถึง 372 ล้านบาทต่อเดือน ไม่รวมการลดค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก

....แต่สหภาพเองต้องการให้การลดเงินเดือนให้นึกถึงพนักงานระดับล่าง ที่รายได้ไม่มากเพื่อให้มีเงินใช้จ่ายประจำวัน จึงเสนอลดเป็นขั้นบันไดจากน้อยไปหามากตามรายได้ แบ่งเป็น 8 ขั้น เช่น ระดับเงินเดือน 1-2 หมื่นบาท ตัดแค่ 10% 2-4 หมื่นบาทหั่น 20% ระดับ 4-6 หมื่นบาทลด 25% ตั้งแต่ 6-8 หมื่นบาทปรับลด 30% ตั้งแต่ 8 หมื่น-1 แสนบาท ลด 35% ส่วนเกิน 1 แสนบาทหั่นไป 40%

 

....ส่วนของฝ่ายบริหารแบ่งเป็น 6 ขั้น เริ่มตั้งแต่เงินเดือนไม่เกิน 4 หมื่นบาท ปรับลด 25% ไล่ระดับ 4-6 หมื่นบาทลด 30% ตั้งแต่ 6 หมื่น-1 แสนบาทปรับลด 35% แสนบาทขึ้นไปปรับลด 40% VP/MD โคไพรอตปรับลด 40% และ EVP กัปตันปรับลด 50% ซึ่งสุดท้ายบอร์ดยังไม่ฟันธงว่าจะใช้โมเดลไหน แต่ต้องมีคำตอบก่อนสิ้นเดือนเมษายนในเรื่องนี้

....จากแอร์ไลน์ก็มาถึงคิวโรงแรมที่เริ่มเอาไม่อยู่ ทยอยปิดกันเป็นแถว หลังบริษัททัวร์นำหน้าไปก่อน จากอัตราเข้าพักหลักสิเปอร์เซ็นต์ เจอพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เหลือ 1% และขณะนี้ไม่เหลือ 100 % คือเป็น 0 โรงแรมห้าดาวกลางกรุงทยอยปิดระนาว จะใหม่จะเก่าโดนหมด สะเทือนเหมือนกันหมด ส่วนพนักงานก็แล้วแต่ข้อตกลง ช่วยๆ กันไป บางโรงแรมเปิดโรงแรมให้พักแถมอาหาร 3 มื้อ ลดเงินเดือนไปบ้าง บางโรงแรมให้สลับกันหยุดบางโรงแรมจ่ายเงินเดือน ให้อยู่บ้านถ้าไม่ปฏิบัติตามถึงขั้นไล่ออก บางโรงแรมก็จ่ายให้ 75% ค่าจ้างตามก.ม.รอวันที่กลับมาเปิดใหม่อีกครั้ง สู้ๆๆๆ


....เพราะรู้ว่าลูกค้ายังต้องใช้สิ่งของจำเป็น “ณัฐธีรา จิราธิวัฒน์ บุญศรี” จึงเปิดบริการ “CENTRAL at Your Home” ให้ลูกค้าช็อปสินค้าทุกประเภทได้ง่ายๆ เหมือนยกห้างเซ็นทรัลไปไว้ที่บ้านผ่าน www.central.co.th ตลอด 24 ชม.ส่งฟรีถึงบ้านถึงสิ้นเดือนเมษายนและยังมีบริการรับสินค้าแบบ Drive Thru ที่ห้างเซ็นทรัลโดยไม่ต้องลงรถ