ผลตรวจโควิด ทำหมอฟันช็อก โชเฟอร์แท็กซี่ไปสนามมวย

31 มี.ค. 2563 | 03:30 น.

หมอฟันถูกกักตัว หลังแท็กซี่ติดโควิดโกหกไม่ไปสนามมวย แถมวิ่งรับผู้โดยสารอีกเพียบ

 

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ในประเทศไทย เพิ่มยอดติดเชื้อรายวัน หลายภาคส่วน  โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ ทำให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ออกมาเน้นย้ำขอให้ทุกคนคำนึงถึงความปลอดภัยของแพทย์ อย่าปกปิดข้อมูลประวัติเสี่ยง  แต่ล่าสุดก็ยังเกิดขึ้นเหตุจนได้ จากที่โซเชียลมีเดียได้มีการแชร์โพสต์เฟซบุ๊กของทันตแพทย์รายหนึ่ง ที่โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า "งานทันตกรรมก็โดนทำร้าย จากคนโกหก เช่นกัน ขอเล่าเป็นอุทาหรณ์ และเตือนสติทันตแพทย์ทุกท่าน

มีคนไข้ เพศชาย มาด้วยอาการปวดศรีษะ ปวดเมื่อยตามตัว ไปพบแพทย์ ผ่านการคัดกรองวัดอุณภูมิ ได้ 36.6 C ปฏิเสธภาวะเสี่ยงทุกอย่าง แพทย์ตรวจร่างกาย จ่ายยา และส่งให้พบทันตแพทย์เพื่อจะถอนฟัน เพราะฟันโยกเป็นหนอง อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่สบาย ปวดศีรษะ

ทันตแพทย์ที่ถอนฟัน ซักประวัติอีกครั้งเรื่องความเสี่ยง คนไข้ก็ปฏิเสธ และแอบเห็นคนไข้แต่งตัวเหมือนคนขับ taxi เลยถามว่า มีรับส่งผู้โดยสารไปกลับสนามมวยบ้างมั้ย คนไข้บอกเคยไปสนามมวยมาเมื่อ 2-3 เดือนก่อน ถามย้ำอีกครั้ง ว่าไปมาเมื่อไหร่ คนไข้บอกก็ตอบแบบเดิม ทันตแพทย์ตัดสินใจถอนฟันให้ เพราะฉุกเฉินและถอนไม่ยาก

“พอถอนเสร็จให้กัดก๊อซ คนไข้บอกว่า จริง ๆ เพิ่งไปมาสนามมวยลุมพินี เมื่อ 6 มี.ค. เพื่อนที่ไปด้วยกัน ถูกตำรวจตามมากักตัวหมดแล้ว แต่เค้าไม่โดน เลยขับ taxi รับส่งผู้โดยสารเรื่อย ๆ 2-3 วันที่แล้ว มีไข้ไม่หาย กินยาพาราไข้ลด แล้วมาหาหมอ”

ผลตรวจโควิด ทำหมอฟันช็อก โชเฟอร์แท็กซี่ไปสนามมวย

 

ทันตแพทย์ตั้งสติขั้นสูงสุด ติดต่อเจ้าหน้าที่ให้นำตัวไปตรวจเชื้อ โควิด รอผลวันรุ่งขึ้น วันต่อมา ผลเพาะเชื้อเป็น positve ทันตแพทย์กลายเป็นเคส PUI เพราะสัมผัสผู้ติดเชื้อโดยตรง พักงาน กักตัวอยู่บ้าน นี่คือ เรื่องที่เกิดจริง ขนาดเคสที่เร่งด่วน ยังกลายเป็นคนไข้ Covid-19 ที่ปกปิดข้อมูล, เคสที่ไม่เร่งด่วน ยิ่งไม่ควรทำ, เคส PUI ที่ปกปิดข้อมูล มีอยู่จริงในทุกพื้นที่ อย่าคิดว่าการคัดกรองจะได้ผล 100 เปอร์เซ็นต์