กรมเจ้าท่าแนะปรับกฎระเบียบนำไทยสู่ฮับมารีน่า

05 เม.ย. 2559 | 13:00 น.
พ.ต.ท.อนุชาติ ทองอาภา รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานแผนงาน กรมเจ้าท่า(กท.) เปิดเผยในงานสัมมนาของหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ หัวข้อ “ ภูเก็ตโมเดล...กับแผนปั้นไทยให้เป็นมารีน่าฮับ” เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมาว่า ตามนโยบายหลักของรัฐบาล ที่ต้องการสร้างให้ไทยเป็นศูนย์รวมการท่องเที่ยวทางทะเล โดยวางเป้าหมายรองด้วยการผลักดันให้ไทย เป็นจุดหมายหลักของการเดินทางท่องเที่ยวด้วยเรือยอชต์ และเป็นศูนย์กลางมารีน่าของอาเซียน และเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย กท.จะผลักดันผ่าน 4 กิจกรรมใหญ่ คือ

1 Super Yacht Charter Licence ซึ่งไทยจะพัฒนาทั้งมารีน่าสำหรับจอดเรือยอชต์ และเป็นแหล่งที่เจ้าของเรือยอชต์ และผู้เช่า สามารถเช่าเรือยอชต์สำหรับการพักผ่อนได้ ซึ่งการเข้ามาของเรือยอชต์ จะสามารถกระตุ้นรายได้และเศรษฐกิจ เพราะจากการเข้ามาของเรือยอชต์จะทำให้เกิดการใช้จ่ายต่อเนื่อง ทั้งจากเจ้าของเรือและผู้ติดตามในเรืออีกไม่ต่ำกว่า 6-8 คนที่จะขึ้นมาใช้บริการและจับจ่ายซื้อสินค้า

2.เรือซูเปอร์ยอชต์ ต้องเปิดให้เช่าได้ ในกฎหมายของกท. ซึ่งติด พ.ร.บ.ฉบับหนึ่ง ซึ่งล่าสุดได้มีการแก้ไขแล้ว และประกาศในราชกิจจานุเบกษา ไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

3. New Marina Location กท.ทำการสำรวจพื้นที่ทั้งอ่าวไทยและอันดามัน จังหวัดที่มีศักยภาพในการสร้างมารีน่า มีทั้ง กระบี่ พังงา สตูล ภูเก็ต ชลบุรี ตราด รวม 33 จุด และจะนำสถานที่เหล่านี้มาศึกษาวิจัยเพิ่ม เพื่อพัฒนาเป็นมารีน่าสำหรับการท่องเที่ยวต่อไป

4. การอำนวยความสะดวกในการจัดทำมารีน่า ไม่ว่าจะเป็นกฎระเบียบ หรือการอนุมัติ อนุญาตให้ลูกเรือ และเรือยอชต์ สามารถจอดและอยู่ในไทยได้ เรื่องนี้กรมเจ้าท่ากำลังดำเนินการ โดยมีการพูดคุยระหว่างกรมเจ้าท่า กรมศุลกากร กรมสรรพากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวทางเรือยอชต์และซูเปอร์ยอชต์

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ภูเก็ตถือเป็นประตูหน้าด่านสำคัญ เป็นไข่มุกของอันดามัน สำหรับนักท่องเที่ยวทางน้ำที่หน่วยงานเล็งเห็น โดยรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 10% มาจากแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าว ซึ่งขณะนี้มีการพัฒนาสาธารณูปโภคมากมาย เพื่อรองรับการขยายตัวที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งสนามบินแห่งใหม่ ถนน กระเช้าลอยฟ้า รถไฟรางเบา อุโมงค์เชื่อมต่อทางลอด

ด้านนายสันติ ป่าหวาย ท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ตมีรายได้หลักด้านการท่องเที่ยวมาจากการประชุมไมซ์ กลุ่มผู้สูงอายุ การรักษาสุขภาพและศัลยกรรม กีฬาและมารีน่า ซึ่งขณะนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กำหนดเขตการท่องเที่ยวเพิ่มเติม โดยให้ภูเก็ตอยู่ในเขตการท่องเที่ยวอันดามัน ร่วมกับจังหวัดสตูล ตรัง กระบี่ พังงา การทำแผนให้ภูเก็ตเป็นมารีน่าฮับ อยู่ในแผนนี้ ปี 2559-2560 ซึ่งได้ดำเนินการของบประมาณไปเป็นหมื่นล้านบาท กับการพัฒนาท่าเทียบเรือต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต

ด้านเรือเอกสุทธินันธ์ หัตถวงษ์ ผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) กล่าวแนะนำว่า การเกิดขึ้นของมารีน่าฮับ จะช่วยกระตุ้นรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างมาก เพราะสิ่งที่นักท่องเที่ยวทางน้ำที่เดินทางโดยเรือยอชต์และซูเปอร์ยอชต์มีกำลังจ่ายและพร้อมจ่าย โดยเน้นการจับจ่ายกับสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ รวมทั้งสถานที่พักผ่อนที่สงบไม่พลุกพล่าน สิ่งที่ภูเก็ตควรเร่งดำเนินการคือ การทำโซนนิ่งแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อน โฟกัสให้ชัด เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ต้องการความเป็นส่วนตัว ยินดีจับจ่ายเพื่อของคุณภาพ ไม่ชอบปะปนกับใคร เน้นคุณภาพ ยอมจ่ายแพง ด้านกทท.ดูแลและมีแผนพัฒนาท่าเรือเพื่อนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่ไม่รวมมารีน่า กทท.จึงมีแผนทั้งที่ภูเก็ต และฝั่งอ่าวไทย เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวทางน้ำตามนโยบายรัฐบาล

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,145 วันที่ 3 - 6 เมษายน พ.ศ. 2559