คดีเงินกู้
จุดจบอนาคตใหม่?
จบลงด้วยเสียงเฮลั่น! ของเหล่าสาวกและกลุ่มแฟนคลับ “พรรคอนาคตใหม่” ที่เฝ้าหน้าจอเกาะติดผลของ “คดีล้มล้างการปกครอง” เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 9 ต่อ 0 เสียง ยกคำร้องของ ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ขอให้ศาลวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ไป เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563
ศาลวินิจฉัยว่า การกระทำของผู้ถูกร้องทั้ง 4 ไม่เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง
เรียกได้ว่า “อนาคตใหม่” หลุดรอดจากคดีนี้ไปได้แบบไม่บอบช้ำใดๆ...
แต่ที่เหล่าพลพรรคน่าจะหนักอกหนักใจและลุ้นยิ่งกว่า น่าจะเป็น “คดีเงินกู้ 191 ล้านบาท” ที่ “ผู้รู้” ทั้งหลายฟันธงตรงกันว่า งานนี้ “รอดยาก”
คดีนี้หากศาลวินิจฉัยให้ “ยุบพรรค” ก็จะส่งผลถึง ตัว ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคทั้งหมดจะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี
จึงไม่น่าแปลกใจที่จะได้เห็น แกนนำของอนาคตใหม่ พยายามซื้อเวลาเรื่องนี้ นับตั้งแต่ป่าวร้องบอกกับสังคมมาตลอดว่า กกต.เร่งรีบในการดำเนินกระบวนการพิจารณาคดี ทั้งยังยื่นฟ้องกกต.ทั้ง 7 คนต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ขณะเดียวกันก็ขอขยายเวลากับกกต.ในการนำส่งเอกสารบางส่วนมาเป็นระยะ
กระทั่ง เมื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ก็ขอขยายเวลาการยื่นเอกสารประกอบแก้ข้อกล่าวหา จากกำหนดเดิมต้องส่งภายในวันที่ 9-10 มกราคม 2563 ก่อนครบกำหนดได้ขอขยายเวลาต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลอนุญาตขยายเวลาให้ไปถึงวันที่ 27 มกราคมนี้
เป็นไปได้ว่า เมื่อถึงกำหนด “อนาคตใหม่” ก็อาจเดินเกมยื้อ ขอขยายเวลาการยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาออกไปอีกหรือไม่
สุดท้ายแล้วผลของคดีนี้จะลงเอย “จบสวย” เหมือนกับคดีล้มล้างการปกครองหรือไม่ 9 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้นจะเป็นผู้ให้คำตอบ...