หุ้นกลุ่มโรงแรม โอกาสทองจากความรุนแรงในฮ่องกง  

23 พ.ย. 2562 | 06:45 น.

บริษัทหลักทรัพย์ บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์  "โอกาสทองจากสถานการณ์ความรุนแรงในฮ่องกง  " ว่าผลกระทบจากยักษ์ใหญ่กําลังล้ม ฮ่องกง ซึ่งเป็นจุดหมายด้านการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเมื่อปี 2561 มีจํานวน นักท่องเที่ยวชาวจีนไปเที่ยวฮ่องกงมากถึง 51 ล้านคน (คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 31%) ด้วยตลาดที่มี ขนาดใหญ่ คาดว่าเหตุประท้วงที่ยืดเยื้อในฮ่องกงจะเป็นโอกาสทองสําหรับจุดหมายการท่องเที่ยว ประเทศอื่นของคนจีน เช่น มาเก๊า ประเทศไทย และญี่ปุ่น 

นักท่องเที่ยวจีนมีโอกาสไหลเข้ามาที่ประเทศไทยเพิ่มถึงเดือนละถึง 137,000 คน  โดยประเมินว่าจํานวนนักท่องเที่ยวจีนจะไหลเข้ามาที่ประเทศไทยเพิ่มอีกเดือนละ 137,000 คน  ในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปีนี้จากสถานการณ์การประท้วงที่ฮ่องกง ซึ่งจะทําให้เป้าอัตราการเติบโตของ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทยในปีนี้ขยับเพิ่มขึ้นเป็น 4.7% YoY (จากเดิมที่ 4.0% YoY) ทั้งนี้หากสถานการณ์ยืดเยื้อไปจนถึง ไตรมาส 1/63 เป้านักท่องเที่ยวปีหน้า  เราก็จะขยับเพิ่มเป็น 5.8% YoY (จากเดิมที่ 5.5% YoY) ในขณะเดียวกัน  คาดว่าราคาหุ้นในกลุ่มโรงแรมจะตอบรับในเชิงบวกจากแนวโน้มจํานวนนักท่องเที่ยวจีนที่คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งน่าจะทําให้มีการ re-rate valuation ของหุ้น ในกลุ่มขึ้น 

หุ้นบบมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW )จะได้อานิสงส์เต็มๆ ปรับเพิ่มคําแนะนําเป็นซื้อ ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมเพียงอย่างเดียว  ( ให้ราคาเป้าหมาย 7.50 บาท ) อยู่ในสถานะที่ดีที่จะได้อานิสงส์จากกรณีเหตุประท้วงที่ฮ่องกงในปีนี้ ในขณะที่  บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์ (MINT ). (ให้ราคาเป้าหมายที่ 49.00) และ บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL ) ( ให้ราคาเป้าหมาย 28.00 บาท ) อาจะได้รับอานิสงส์น้อยกว่า ERW เนื่องจากรายได้โรงแรมของบริษัทมีการกระจายออกไปยังตลาดต่างประเทศ ในขณะที่ธุรกิจร้านอาหาร ก็จะเป็นอีกจุดหนึ่งที่ฉุดผลประกอบการ 

ทั้งนี้เราได้ re-rate EV/EBITDA ของ ERW ขึ้นมาให้เท่ากับ ชค่าเฉลี่ยห้าปีย้อนหลัง จากเดิมที่ -0.5S.D. เพื่อสะท้อนถึงปัจจัยบวกในระยะสั้นถึงระยะกลางจากกรณี เหตุประท้วงที่ฮ่องกง  เราปรับเพิ่มคําแนะนําหุ้น ERW เป็นซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 7.50 บาท อิงจาก EV/EBITDA ที่ 14.2x 

Valuation ยังคงให้นํ้าหนักหุ้นกลุ่มโรงแรมที่ Neutral เนื่องจากเรายังไม่ได้มีมุมมองเชิงบวกในทุกปัจจัยที่ส่งผล กระทบต่อกลุ่ม อย่างไรก็ตามการประท้วงที่ยืดเยื้อที่ฮ่องกง และ spillover effect ทําให้เรามองว่าเป็นโอกาสให้เข้าเก็งกําไรใน ERW