อนาคต SMEs ไทยสดใสหลังรัฐบาลและเอกชนเยอรมนีเร่งปรับกลยุทธ์ก้าวสู่ Industry 4.0

03 เม.ย. 2559 | 07:00 น.
จากกระแส Industry 4.0 ที่หลายประเทศกำลังให้ความสำคัญเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมภายในประเทศให้กลายเป็น "Smart Factory" คือ การมีเครื่องจักรสมัยใหม่ที่มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงในประเทศ สามารถรับส่งข้อมูล สื่อสารทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพโดยที่ใช้แรงงานน้อยลง ทำให้กระแสอุตสาหกรรม 4.0 ทำให้รัฐบาลและเอกชน ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) หรือที่เรียกว่า Mittelstand ของเยอรมนีตื่นตัวกับกระแส Industry 4.0 เป็นอย่างมาก ซึ่งการปรับตัวของ SMEs เยอรมนีเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 จะนำโอกาสการค้าการลงทุนมาสู่ SMEs ไทยเช่นกัน

เยอรมนี ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีหญิงเหล็ก นางอังเกลา แมร์เคล ไม่รอช้าในการเสริมทัพและตอกย้ำความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมโลก โดยการพลักดันนโยบายต่างๆ เพื่อก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ไม่ว่าจะเป็นการเร่งผลิตพัฒนาเครื่องจักรอุตสาหกรรมให้มีความทันสมัยเพื่อมุ่งไปสู่การเป็น "smart factory" บริการการเงินเพื่อลดการใช้เงินสดและเพิ่มการทำธุรกรรมออนไลน์ การแพทย์เพื่อมุ่งไปสู่การให้บริการทางการแพทย์ออนไลน์ หรือ "Telemedicine" ด้านการเกษตรรัฐบาลเยอรมนีผลักดันให้อุตสาหกรรมการเกษตรก้าวเข้าสู่ "smart farming" ที่เชื่อมโยงการผลิตการตัดสินใจทำการเกษตร การเก็บเกี่ยว แปรรูป บรรจุภัณฑ์ และเก็บรักษาผลผลิตทางการเกษตร

ภายในที่ประชุมสมาพันธ์ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (Bundesverband Für Mittelständische Wirtschaft – BVMW) ประจำปี 2559 ที่ผ่านมา โดยมีสมาชิก SMEs กว่า 270,000 บริษัท เข้าร่วมฟังบรรยายในหัวข้อ Industry 4.0 และการปรับตัวเข้าสู่ดิจิตอล การเคลื่อนไหวของภาครัฐและเอกชนเยอรมนีในเรื่องนี้ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้มีความร่วมมือกับนานาชาติรวมทั้งผู้ประกอบการไทยมากขึ้น โดยเฉพาะโอกาสการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจของนักธุรกิจไทยกับเยอรมนีในการร่วมลงทุน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0

โอกาสได้มาถึงผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพในหลาย Cluster อุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมอาหารและเกษตร Information Technology พลังงานทดแทน การแพทย์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องปรับอากาศ อัญมณีและเครื่องประดับ ในการขยายตลาด ร่วมพัฒนาและเรียนรู้เพื่อปรับตัวเข้าสู่ Industry 4.0 ตามกระแสอุตสาหกรรมโลกและสอดรับกับนโยบายรัฐบาลไทย ที่ต้องการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมในปัจจุบัน เพื่อก้าวสู่ Industry 4.0

แม้หลายชาติในสหภาพยุโรปได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงินและการคลัง "เยอรมนี" เป็นหนึ่งประเทศในสหภาพยุโรปที่มีความแข็งแกร่งทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองของสหภาพยุโรปและของโลก จากการเป็นฐานด้านอุตสาหกรรมของโลก อาทิ ยานยนต์ เครื่องจักร และเคมีภัณฑ์ และเป็นประเทศผู้ส่งออกอันดับ 3 ของโลก รองจากจีนและสหรัฐอเมริกา เยอรมนีจึงเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีความมั่นคงและมั่งคั่งที่น่าเข้าไปลงทุนเป็นอย่างมาก

พบกับอัพเดตความเคลื่อนไหวและโอกาสในตลาดต่างประเทศที่สถานทูตไทยทั่วโลกตั้งใจติดตามมาให้ภาคเอกชนไทยได้ที่เว็บไซต์ www.ThaiBiz.net หากมีข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติม สามารถเขียนมาคุยกันได้ที่ [email protected]

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,144
วันที่ 31 มีนาคม - 2 เมษายน พ.ศ. 2559