อาเบะยันขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามแผน ยังไม่เพิ่มงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ

02 เม.ย. 2559 | 13:00 น.
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยืนยันไม่มีแผนเลื่อนกำหนดขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มในปีหน้าถ้าเศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่เผชิญกับปัจจัยเสี่ยงรุนแรง ขณะที่รัฐสภาญี่ปุ่นผ่านกฎหมายงบประมาณประจำปี 2559 ซึ่งเป็นงบประมาณมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานโดยอ้างคำกล่าวของแหล่งข่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้มีการพิจารณาชะลอการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มและงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะเป็นมูลค่าประมาณ 5-10 ล้านล้านเยนเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ โดยเป็นที่คาดหมายว่านายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะตัดสินใจเกี่ยวกับการขึ้นภาษีในช่วงระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 7 ที่ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพในวันที่ 26-27 พฤษภาคม หลังได้มีการวิเคราะห์ข้อมูลการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสแรกซึ่งจะมีการเปิดเผยออกมาในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม

อย่างไรก็ดี นายอาเบะกล่าวยืนยันภายหลังร่างงบประมาณฉบับล่าสุดผ่านรัฐสภาในวันที่ 29 มีนาคมว่า จะเดินหน้าปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 8% เป็น 10% ตามกำหนดในเดือนเมษายนปีหน้า นอกเสียจากว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะเผชิญกับเหตุการณ์รุนแรงในระดับเดียวกับการล้มของสถาบันการเงินเลห์แมน บราเธอร์ส ในปี 2551 หรือแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 ขณะเดียวกันยังไม่มีการประกาศงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆ เพิ่มเติม

การปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อเดือนเมษายน 2557 จาก 5% เป็น 8% ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นอย่างหนัก จนทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยตามมา แม้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะเสริมงบประมาณเป็นมูลค่า 5.5 ล้านล้านเยนเพื่อลดทอนผลกระทบจากการขึ้นภาษี เศรษฐกิจที่ถูกกระทบอย่างรุนแรงเกินกว่าความคาดหมายส่งผลให้นายอาเบะจำเป็นต้องเลื่อนการขึ้นภาษีครั้งที่ 2 ออกไปจากกำหนดเดิมเดือนตุลาคมปีก่อนเป็นเดือนเมษายน 2560

วุฒิสภาของญี่ปุ่นได้ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณประจำปี 2559 มูลค่า 96.72 ล้านล้านเยนในวันอังคาร (29 มีนาคม) หลังจากสภาผู้แทนราษฎรรับร่างงบประมาณฉบับดังกล่าวเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ โดยร่างงบประมาณฉบับล่าสุดนายอาเบะใช้ประโยชน์จากรายได้จากภาษีที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับต้นทุนกู้ยืมที่ลดลงจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างหนักของธนาคารกลางญี่ปุ่น ช่วยให้สามารถเพิ่มการใช้จ่ายของภาครัฐได้

ทั้งนี้ งบประมาณประจำปี 2559 ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนเมษายนนี้ เน้นไปที่มาตรการสวัสดิการเพื่อดูแลประชากรสูงอายุที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งเพิ่มการใช้จ่ายในด้านการป้องกันประเทศและความช่วยเหลือด้านการพัฒนา ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจของนายอาเบะที่จะขยายบทบาทด้านการทหารและการทูตของญี่ปุ่น นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังเตรียมเพิ่มงบประมาณให้กับการท่องเที่ยวญี่ปุ่นอีกเท่าตัวเป็น 2 หมื่นล้านเยนเพื่อผลักดันการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศให้ได้ตามเป้าหมาย 30 ล้านคนต่อปี

ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจญี่ปุ่นลดลงไปพร้อมๆ กับเศรษฐกิจของประเทศที่หดตัวในช่วง 2 จาก 3 ไตรมาสที่ผ่านมา โดยการสำรวจของหนังสือพิมพ์นิคเคอิที่จัดทำขึ้นในเดือนมีนาคม พบว่า 26% ของผู้บริหารบริษัทเอกชนกล่าวว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นอ่อนแอลงหรือส่งสัญญาณของความอ่อนแอ เพิ่มขึ้นจากเพียง 6.9% ในช่วงปลายปี 2558

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,144
วันที่ 31 มีนาคม - 2 เมษายน พ.ศ. 2559