‘ไทยเบฟ’ชูวิชัน ยืนแชมป์อาเซียน

        “ไทยเบฟ” เดินหน้าวิชัน 2020 สยายปีก 4 กลุ่มธุรกิจ “สุรา-เบียร์-อาหาร-เครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์” ปูพรมรุกต่างประเทศ ชูกลยุทธ์ “ซินเนอร์ยี” จ่อซื้อกิจการ-ร่วมทุน-สร้างธุรกิจใหม่ ตอกยํ้าเบอร์ 1 ตลาดเครื่องดื่มครบวงจรในอาเซียน

        การเดินหน้า Vision 2020 นับจากปี 2558 เหลือระยะเวลาอีกแค่ 1 ปีก็บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ แต่วันนี้ “ไทยเบฟ” สามารถก้าวขึ้นสู่ผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มครบวงจรในภูมิภาคอาเซียนได้อย่างภาคภูมิใจ แต่ความท้าทายที่รออยู่ ภายใต้
การนำของ “ฐาปน สิริวัฒนภักดี” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) คือการรักษาความเป็นเบอร์ 1 ให้ยั่งยืน ท่ามกลางสมรภูมิรบอันดุเดือด

          แม้ในปีที่ผ่านมา “ไทยเบฟ” จะปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็ยังคงขยับปรับเปลี่ยนพร้อมเสริมทัพขุนพลต่อเนื่อง โดยนายฐาปน กล่าวว่า ไทยเบฟยังคงยํ้าแผนงานเดิมตามวิชัน 2020 ช่วงที่เหลือเพียงปีนับจากนี้ (ตุลาคม 2562- กันยายน 2563) โดยจะยังคงโฟกัสการทำตลาดไปในประเทศกลุ่มอาเซียนเป็นหลักเพื่อให้บรรลุเป้าหมายบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มที่ครบวงจร และยั่งยืนในอาเซียน

                                           ฐาปน สิริวัฒนภักดี

ปรับทัพเสริมขุนพล

          การเสริมทัพผู้บริหารในแต่ละกลุ่มธุรกิจ เพื่อสร้างพอร์ตที่แข็งแรงจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งในกลุ่มแอลกอฮอล์และนอนแอลกอฮอล์ โดย 4 กลุ่มธุรกิจ วันนี้มีทีมบริหารที่แข็งแรง นำโดย นายประภากร ทองเทพไพโรจน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่, ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มธุรกิจสุราและผู้บริหารสูงสุด กลุ่มบริหารช่องทางการจำหน่าย, นายโฆษิต สุขสิงห์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่, ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจเบียร์ ประเทศไทย และผู้บริหารสูงสุด กลุ่มธุรกิจต่อเนื่อง มีนายเบนเนท เนียว เป็นกรรมการผู้อำนวยการ ซาเบโก้ เบียร์ เบฟเวอเรจ คอเปอเรชั่น ดูแลกลุ่มเบียร์ในต่างประเทศ และนายเอ็ดมอนด์ เนียว คิมซูน เป็นรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่, ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มบริหารการลงทุนตราสินค้า

           ขณะที่กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ มีนายลี เม็ง ตัท เป็นแม่ทัพใหญ่ ในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการ พร้อมกับ 2 ผู้ช่วยคือนายเลสเตอร์ เต็ก ชวน ตัน เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ และผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ประเทศไทย และนางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจอาหาร ประเทศไทย

ปูพรมรุกอาเซียน

       เป้าหมายของไทยเบฟในวันนี้ คือการปูพรมรุกตลาดในอาเซียน พร้อมกับขยายต่อเนื่องไปในเอเชีย โดยอาศัยเครือข่ายที่มีอยู่ในปัจจุบัน ถือเป็นการซินเนอร์ยี เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ และอาศัยความแข็งแกร่งของแต่ละพาร์ตเนอร์ ต่อยอดธุรกิจในการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยวันนี้กลุ่มสุราขาวและเบียร์ ยังคงเน้นปูพรมต่างประเทศ ด้วยการขยายตลาดทั้งในประเทศเพื่อนบ้าน CLMV รวมถึงประเทศที่มีศักยภาพ ผ่านร้านอาหารไทย ร้านค้าปลีก ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งไม่ว่าจะเป็นที่เวียดนาม สิงคโปร์ ฯลฯ

       ด้านธุรกิจเบียร์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่บริษัทมีความพร้อมและมีศักยภาพ ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจทั้งในรูปแบบของการเข้าไปลงทุนเอง การเข้าซื้อกิจการ และการร่วมทุนในประเทศต่างๆ อาทิ เมียนมา ที่ใช้เงินลงทุนกว่า 700 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตเบียร์ช้าง, แทปเปอร์ และเฟเดอร์บรอย ไวส์เบียร์ เพื่อวางจำหน่าย หรือจะเป็นประเทศจีน ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เบฟเวอเรจ โฮลดิ้ง (ไชน่า) จำกัด เข้าไปร่วมทุนกับบริษัท เอเชียยูโร ไวน์ส แอนด์ สปิริตส์ (เสินเจิ้น) จำกัด ตั้งบริษัทร่วมทุน เอเชียยูโร อินเตอร์เนชั่นแนล เบฟเวอเรจ (กวางตุ้ง) จำกัด เพื่อทำธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในกวางตุ้ง และจีนตอนใต้

ซินเนอร์ยีต่อยอดธุรกิจในเครือ

        ฟากธุรกิจอาหาร ซึ่งมี “นางนงนุช” เป็นแม่ทัพใหญ่ กล่าวว่า การทำตลาดของทั้ง 3 ขาธุรกิจในเครือ ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และกลุ่มอาหารพร้อมทาน จะมีการแยกกันทำงานโดยชัดเจน เนื่องจากต้องการไดรฟ์การเติบโตและโฟกัสเฉพาะจุดให้สามารถเติบโตและอยู่ได้ด้วยตัวเอง แต่จะมีการทำงานร่วมกันเพื่อให้แผนการทำงานสอดคล้องและสามารถซินเนอร์ยีกันได้ เพราะลูกค้ามีโอกาสและการใช้งานแบรนด์แต่ละแบรนด์ที่แตกต่างช่วงเวลากัน ดังนั้นโจทย์ใหญ่ของเราคือทำอย่างไรให้สินค้าแต่ละกลุ่มเข้าไปอยู่ในช่วงชีวิตของแต่ละคนตั้งแต่เช้าจดเย็น โดยทุกขาธุรกิจต้องแข็งแรงและสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง ผ่านเน็ตเวิร์กที่แข็งแกร่งของบริษัทในเครือไทยเบฟที่เป็นบริษัทแม่

                                         นงนุช บูรณะเศรษฐกุล

       ในอนาคตจะมีแบรนด์ใหม่ๆ เสริมทัพเข้ามาสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มอย่างแน่นอน จากล่าสุดที่ใช้เงินลงทุนกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท เข้าซื้อสิทธิ์การบริหารสตาร์บัคส์ในเมืองไทยทั้ง 372 สาขา พร้อมมีแผนเดินหน้าลงทุนเพิ่ม โดยเฉพาะภายในโครงการของกลุ่มทีซีซีเอง ซึ่งเป็นการซินเนอร์ยี นำแบรนด์ที่แข็งแรงเข้ามาเสริม สร้างความแข็งแกร่งให้กับเครือ

       สำหรับผลประกอบการของบมจ. ไทยเบฟใน 9 เดือนที่ผ่านมา (ตุลาคม 2561-มิถุนายน 2562) พบว่ามียอดขายกว่า 205,277 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 18.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไร 21,894 ล้านบาท เติบโต 34% โดยสัด
ส่วนรายได้มาจาก กลุ่มสุรา 43.4% เบียร์ 44.8% เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 6.2% และอาหาร 5.7% อย่างไรก็ดีหลังจากที่กลุ่มไทยเบฟควบรวมกิจการกับไซง่อน เบียร์ แอลกอฮอล์ คอเปอเรชั่น หรือซาเบโก้ ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดในตลาดเบียร์อาเซียนราว 24% ถือเป็นผู้นำตลาดอาเซียนในปัจจุบัน

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3508 วันที่ 26-28 กันยายน 2562