ธนาคารกรุงศรีฯ เผยลูกค้าธุรกิจครึ่งปีแรก ยังเติบโตแข็งแข็ง รับความผันผวนปัจจัยลบทั้งภายใน ภายนอกได้ เหตุปรับพอร์ตสมดุล ส่งผลรายได้ไม่ใช่ดอกเบี้ยสูงเกิดเป้าหมาย
นายพรสนอง ตู้จินดา ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ ธนาคาร กรุงศรีอยุธยาเปิดเผยว่า กลุ่มลูกค้าธุรกิจของกรุงศรีฯ มีผลการดำเนินงานแข็งแกร่งและเติบโตตามเป้าหมายในช่วงครึ่งปีแรก โดยรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นสูงกว่าเป้าหมาย สะท้อนลูกค้าธุรกิจสามารถปรับตัวรับผลกระทบจากภาวะผันผวนต่างๆได้เป็นอย่างดี ทั้งสภาวะแวดล้อมในประเทศและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจการค้าโลก โดยลูกค้าธุรกิจเน้นปรับพอร์ตให้สมดุล เพื่อเพิ่มคุณภาพในการบริหารจัดการและสร้างความแข็งแกร่งและด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยังผันผวน
“เรายังสนับสนุนลูกค้าธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นผสานศักยภาพการให้บริการ ความแข็งแกร่งของกรุงศรีกับเครือข่าย MUFG ทำให้สามารถนำเสนอบริการทางการเงินที่แตกต่างและแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบริหารจัดการความเสี่ยงของค่าเงินและอัตราดอกเบี้ย ตลอดจนการให้คำปรึกษา การให้ความรู้และกิจกรรมที่ช่วยสร้างเครือข่ายและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ผ่านบริการ Krungsri Business Empowerment เพื่อให้ลูกค้าธุรกิจสามารถนำไปต่อยอดการทำธุรกิจและสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว รวมถึงเตรียมความพร้อมเข้าสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัลอีกด้วย”
ดร.เมธินี จงสฤษดิ์หวัง ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่กล่าวว่า ช่วงครึ่งแรกของปี ผลการดำเนินงานของกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่เติบโตมากกว่าเป้าหมาย โดยรายได้รวมเพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียม เช่น ค่าธรรมเนียมตราสารอนุพันธ์ ค่าธรรมเนียมจากวาณิชธนกิจ และค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมการเงินในประเทศ ส่งผลให้สัดส่วนของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจาก 18% เป็น 25% ของรายได้ทั้งหมด และจากการผสานความร่วมมือกับ MUFG ให้บริการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ(Offshore business expansion) การจับคู่เจรจาธุรกิจ(Business matching) และทำกิจการร่วมค้า (Joint venture) ส่งผลให้ธุรกิจของลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอีกล่าวว่า กลุ่มลูกค้าธุรกิจ SME ขนาดกลาง (SME-M) และขนาดเล็ก (SME-S) เติบโตแข็งแกร่งและสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ โดยช่วงครึ่งแรกปีนี้ พอร์ตเงินให้สินเชื่อ SME-M และ SME-S เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2561 ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตเพิ่มขึ้นของสินเชื่อซัพพลายเชน ขณะที่ยอดเงินฝากเติบโตแข็งแกร่งที่ 8% เช่นกัน ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจการค้าต่างประเทศ (Trade) เติบโตขึ้น8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมภายในประเทศ(Cash management) เพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกันยังสามารถบริหารจัดการสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ของลูกค้าธุรกิจ SME อยู่ที่ 3.4% เทียบกับระดับ 3.8% ณ สิ้นปี 2561 และเป็นระดับที่ต่ำกว่าอุตสาหกรรมโดยรวม