ทิสโก้ ตั้งเป้าเบี้ยสุขภาพโต20%

ทิสโก้จับมือพันธมิตรเสิร์ฟประกันสุขภาพ ส่ง3กรมธรรม์ตั้งเป้า3ปีเพิ่มสัดส่วนเบี้ยสุขภาพเป็น 20%

               การเตรียมความพร้อมสู่สังคมผู้สูงอายุในปี 2564 ซึ่งสำนักงานสถิติแห่งชาติคาดว่า จำนวนผู้สูงอายุจะมีสัดส่วนมากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมดในประเทศไทยและแนวโน้มสัดส่วนดังกล่าว จะปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ข้อมูลจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช)ระบุ สัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น 43.27% สะท้อนค่ารักษาพยาบาลที่มีอัตราเติบโตสูงกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจ

               นายพิชา รัตนธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจธนบดี ธนาคาร ทิสโก้ จำกัด(มหาชน)เปิดเผยว่า ทิสโก้ต้องการเป็นผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาด้านความคุ้มครองสุขภาพ ด้วยความพร้อมทั้ง 3 ด้านคือ การศึกษาข้อมูลทั้งเชิงลึกและกว้างผ่านงานวิจัย เชิงเปรียบเทียบ ก่อนคัดเลือกผลิตภัณฑ์ดีที่สุดในแต่ละประเภท ให้ทีมงานทำหน้าที่แนะนำซึ่งจะเป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่มีความเชี่ยวชาญและได้รับใบอนุญาตมาตรฐานสากลและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ คุณประโยชน์ของ ลูกค้าภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรบริษัทประกันชั้นนำ

 นางกุสุมา ประถมศรีเมฆ  ผู้อำนวยการสายประกันภัยธนกิจธนาคาร ทิสโก้ระบุว่า การเป็นธนาคารที่มีพันธมิตรหลากหลายไม่จำกัดค่าย นับเป็นจุดแข็งของทิสโก้สามารถคัดสรรผลิตภัณฑ์ ทั้งจากบริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันภัย อาทิ ประกันชีวิต 7 บริษัทและวินาศภัยอีกกว่า 20 บริษัทและทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาที่ดีให้กับลูกค้า โดยเฉพาะช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์พร้อมเสนอผลิตภัณฑ์และแผนคุ้มครองสุขภาพ ภายใต้โครงการ Health  Protection Advisory จับมือพันธมิตรนำร่อง(บมจ.ไทยประกันชีวิต,เอไอเอ บมจ.กรุงเทพประกันภัย บมจ.กรุงเทพประกันชีวิตและวิริยะประกันภัย)เสนอ  3 กรมธรรม์

               ประกอบด้วย 1.แผนความ คุ้มครอง โรคมะเร็ง(TISCO  Zero Cancer) จุดเด่นด้วยการจ่ายเงินคุ้มครองทันทีเมื่อตรวจพบเชื้อ เพื่อให้ปรับการใช้ชีวิตรวมค่าใช้จ่ายรักษาต่อเนื่องจนครบวงเงิน โดยไม่ปรับเพิ่มค่าเบี้ยตามอายุที่เพิ่มขึ้นและต่ออายุได้สูงถึง 70 ปี  2. แผนความคุ้มครองแบบประกันเหมาจ่ายต่อปี( My  Care  Smart) ต่ออายุได้ถึง 80 ปี และ 3.แผนความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพที่ให้วงเงินค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่ายตามจริง(My Care Prestige)  ซึ่งต่ออายุได้ถึง 98 ปีคุ้มครองนาน 99 ปี

สำหรับกลุ่มเป้าหมายนั้นเบื้องต้นจะเริ่มจากฐานลูกค้ากลุ่มเวลธ์ของทิสโก้ เฉพาะรายบุคคลที่มีอยู่ราว 2 หมื่นคน มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร(AUM) 2 แสนล้านบาท (รวมนิติบุคคล 2.6 แสนล้านบาท) รวมถึงกลุ่มคนทั่วไปอีก 1แสนราย ซึ่งจะเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่และกลุ่มกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของทิสโก้อีก 4,400 บริษัท ซึ่งมีสมาชิกจำนวน 6 แสนราย โดยอยากดูแลกลุ่มนี้ให้เข้ามาเป็นลูกค้าประกันสุขภาพทิสโก้ประมาณ 5-10% ในสิ้นปี 2563และแนวโน้มจะขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

               "ภายใน 3 ปีคาดว่า จะมีสัดส่วนประกันสุขภาพเป็น 20% จากปัจจุบันอยู่ที่ 10% ที่เหลือเป็นประกันชีวิต 25%และวินาศภัย 65% สำหรับทีมงานคุณภาพนั้น ทิสโก้พยายามพัฒนาบุคลากรต่อเนื่องคาดว่า สิ้นปีจะมีทีมที่ปรึกษามาตรฐานสากลเพิ่มอีก 50% ขณะเดียวกันจะเพิ่มทีมสร้างความสัมพันธ์ (RM) อีก 100 คนรวมเป็น 200 คน ซึ่งครอบคลุมทั้ง 60 สาขา”