ตามคาด! ‘ข้าวเหนียว’ ราคาปรับลงแล้ว
7 วัน หลังคาราวาน ก.พาณิชย์ ปล่อยข้าวเหนียวธงฟ้าล็อตแรก ราคาตลาดปรับลงแล้ว คาดสัปดาห์หน้ายังลงดิ่งต่อเนื่อง ด้าน นายกฯ ข้าวถุงไม่ขวางรัฐผลิตข้าวถุงเหนียวต่อ แต่ขณะนี้ทราบว่ามีชาวนาบางส่วนเริ่มเก็บเกี่ยวแล้วยังไม่มากพอที่โรงสีจะเดินเครื่องผลิต อีกด้านเตือนอย่าแห่ปลูกตามราคาจูงใจผวาปีหน้าท่วมตลาดราคาตกต่ำ
เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปล่อยคาราวานกระจายข้าวเหนียวถุงลดค่าครองชีพทั่วไทย “โครงการลดภาระค่าครองชีพผู้บริโภคข้าวเหนียว” โดยกำหนดผลิตข้าวเหนียวบรรจุถุงราคาพิเศษจำหน่ายให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ผลิตเป็นข้าวสารเหนียว 10% บรรจุถุง คุณภาพตามมาตรฐานกระทรวงพาณิชย์ ขนาด 2 กิโลกรัม ราคาถุงละ 70 บาท และขนาด 5 กิโลกรัม ราคาถุงละ 160 บาท ผ่านร้านธงฟ้าราคาประหยัดเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และโมเดิร์นเทรด เป้าหมายการผลิต 1,000 – 3,000 ตัน ล็อตแรก 2.6 แสนถุง ส่งขาย 59 จังหวัด
นายระพีพัชญ์ ธนถาวรกิตติ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุง เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ราคาข้าวในตลาดปรับตัวลดลงมาแล้ว คาดว่าสัปดาห์หน้าราคาจะปรับลงอย่างต่อเนื่อง เพราะมีข้าวเปลือกบางพื้นที่เริ่มออกมาบ้างแล้ว ทางโรงสีเริ่มทยอยการเก็บข้าวเปลือกมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่สามารถที่จะเปิดเครื่องเดินการผลิตได้เพราะปริมาณยังไม่มากพอ เพราะการเดินเครื่องจักรต้องใช้ปริมาณข้าวเปลือกจำนวนมากพอสมควร
“หากกรมการค้าภายใน จะสั่งผลิตข้าวถุงเหนียวเพิ่มก็ทำได้ เพราะไม่ได้กระทบตลาดโดยรวมของตลาดที่เป็นอยู่ อย่างที่ทราบเป็นช่วงรอยต่อของข้าวออกมาใหม่ แล้วฤดูกาลใหม่หมดไปแล้ว หรือมีปริมาณเหลือนน้อยมากจึงทำให้ข้าวขาดแคลนอยู่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ภาครัฐจะผลิตออกมาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องที่บริโภคข้าวเหนียวเป็นหลัก เมื่อเทียบกับข้าวเหนียวสารบริโภคโดยตลาดทั่วไปแค่ 3-5% “
นายระพีพัชญ์ กล่าวว่า คาดการณ์ผลผลิตปีนี้น้ำท่วมโดยหลักจะท่วมจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเดินทางไปจังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ไม่ได้เสียหายเยอะมาก เพราะมองต้นข้าวสวยชูช่อไสว มองว่าน่าจะไม่ขาดแคลน ขณะที่ราคาข้าวเหนียวคาดว่าจะคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น ส่วนข้าวหอมมะลิ จะต้องมาประเมินในช่วงปลายเดือนตุลาคม ตอนนี้ยังไกลเกินไปที่จะคาดการณ์
อย่างไรก็ตามอยากจะฝากถึงพี่น้องเกษตรกรให้พิจารณาให้ดีว่าควรจะปลูกข้าวชนิดอะไร ไม่ใช่ปีนี้เห็นว่าราคาข้าวเหนียวดี อย่าไปแห่กันปลูกมาก เกรงว่าราคาจะลง เพราะผู้บริโภครับประทานข้าวเหนียวไม่ใช่เป็นอาหารหลัก ถ้าไปปลูกกันเยอะปีหน้าราคาตกต่ำแน่นอน
ส่วน “โครงการประกันรายได้ข้าว” มองว่าเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้เกษตรกรมากกว่าว่าถ้าเกิดความเสียหาย เช่น กรณีน้ำท่วม เป็นต้น หากมีการปลูกข้าวจริง แล้วได้ไปขึ้นทะเบียนไว้ แม้ว่าไร่นาจะเสียหายก็ได้รับเงินชดเชยจากภาครัฐสามารถช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรได้
อนึ่ง สมาคมโรงสีข้าวไทย รายงานสถานการณ์ราคาข้าวเปลือก ณ วันที่ 16 กันยายน 2562 ราคาข้าวสารเหนียว กข.6 อยู่ที่ 3.9 หมื่นบาท- 4.1 หมื่นบาทต่อตัน เปรียบเทียบ วันที่ 2 กันยายน 2562 ราคาอยู่ที่ 4.1 หมื่นตัน - 4.35 หมื่นตัน ราคาปรับลดลงมา 2,000-2,500 บาทต่อตัน