ภาษีใหม่จ่ายลด เครื่องดื่มรักสุขภาพ
“ฟังก์ชันนัล ดริงก์” ส้มหล่น สรรพสามิตชงเก็บภาษีอัตราใหม่ ตํ่าลงจากเดิมเสีย 2 เด้งเทียบเท่านํ้าอัดลม+นํ้าหวาน ด้าน TBA ชี้กระตุ้นให้ผู้ประกอบการพัฒนาเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ลุ้นมีผล 1 ตุลาคมนี้
การจัดเก็บภาษีตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 นอกจากภาษีค่าความหวานแล้ว พบว่า กรมสรรพสามิตยังมีแนวคิดในการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มนวัตกรรม หรือเครื่องดื่มฟังก์ชันนอล (Functional Drink) และภาษีเครื่องดื่มประเภทเบียร์ที่ไม่มีแอลกอฮอลล์หรือเบียร์ 0% ด้วยยังมีแนวคิดในการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มนวัตกรรม หรือเครื่องดื่มฟังก์ชันนัล (Functional Drink) และภาษีเครื่องดื่มประเภทเบียร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์หรือเบียร์
0% ด้วย
ชงเข้าครม.
นายณัฐกร อุเทนสุต ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี กรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิตจะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ เพื่ออนุมัติการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มนวัตกรรมหรือ functional drink ที่ปัจจุบันยังไม่มีอัตราการจัดเก็บชัดเจน เพราะการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ เครื่องดื่มที่เป็นนํ้าผลไม้ 100% จะได้รับการยกเว้นไม่เสียภาษี ขณะที่ภาษีเครื่องดื่มทั่วไปจะจัดเก็บในอัตรา 10% ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ทำให้มีผู้ประกอบการบางรายนำนํ้าผลไม้มาเป็นนวัตกรรม เช่น ผสมคอลลาเจน เพื่อเลี่ยงไม่ต้องเสียภาษีในอัตรา 10%
“เราต้องรีบนำเรื่องเข้าครม. ก่อนที่อัตราภาษีเครื่องดื่มใหม่จะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ตุลาคมนี้ เพราะเครื่องดื่มประเภท functional drink ไม่ใช่นํ้าผลไม้ 100% ที่อัตราภาษี 0% แต่ก็ไม่ใช่นํ้าผลไม้ที่ต้องเสีย 10% เช่นเดียวกัน ดังนั้น จะจัดเก็บภาษี แต่ตํ่ากว่าเครื่องดื่มทั่วไป”
ลุ้นมีผล 1 ต.ค.นี้
ด้านนายประจวบ ตยาคีพิสุทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร และโฆษกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย หรือ TBA เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สมาคมเห็นด้วยกับทางที่กรมสรรพสามิตกำหนดให้มีการจัดทำพิกัดจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาเครื่องดื่มในกลุ่มดังกล่าวยังไม่มีอัตราการจัดเก็บภาษีที่ชัดเจน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรม และชัดเจน แก่ผู้ประกอบการ ภายใต้กรอบการดำเนินงานที่ต้องการชักจูงสร้างแรงจูงใจ และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการหันมาพัฒนาเครื่องดื่มนวัตกรรมที่ตอบโจทย์สุขภาพและสอดคล้องกับความต้องการออกสู่ท้องตลาดมากขึ้น
“เดิมทีเครื่องดื่มในกลุ่มฟังก์ชันนัลดริงก์ยังไม่มีพิกัดการจัดเก็บภาษีที่ชัดเจน ดังนั้นทางสมาคมจึงได้ปรึกษาหารือกับทางกรมสรรพสามิตในการจัดทำหลักเกณฑ์ในการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ขึ้น เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรม และชัดเจน แก่ผู้ประกอบการ”
สำหรับมาตรการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์นั้น ทางกรมสรรพสามิตยังไม่มีการแจ้งกรอบภาษีดังกล่าวออกมาแต่อย่างใด เบื้องต้นทราบเพียงว่าทางกรมต้องการผลักดันให้มีผลบังคับใช้ทันวันที่ 1 ตุลาคมที่จะถึงนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการจัดเก็บภาษีนํ้าหวานที่จะมีผลบังคับใช้เฟส 2 วันที่ 1 ตุลาคมเช่นกัน อย่างไรก็ตามไม่ว่ามาตรการจะออกมาในลักษณะใด ทางสมาคมก็พร้อมที่จะตอบสนองและเป็นสื่อกลางให้แก่ผู้ประกอบการ ในการปฏิบัติตามมาตรการที่ภาครัฐกำหนดออกมาให้มีความสอดคล้องกันมากที่สุด
ชี้ต้นทุนสูงกว่าเครื่องดื่มอื่น
ผู้บริหาร บริษัทเครื่องดื่มรายใหญ่ กล่าวว่า ยังไม่ทราบในรายละเอียดที่จะใช้อัตราการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มฟังก์ชันนัล ดริ้งก์ใหม่ในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 นี้ เพราะขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งใดๆ จากกรมสรรพสามิต และสินค้าที่วางจำหน่ายในปัจจุบันยังเสียภาษีในอัตราเดิม เบื้องต้นมองว่าจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ เพราะยังต้องเสียภาษีเช่นเดิม ส่วนราคาจะมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่นั้น ยังต้องพิจารณารอบด้าน เพราะที่ผ่านมาเครื่องดื่มฟังก์ชันนัล ดริงก์มีจุดเด่นเรื่องของนวัตกรรม ซึ่งการจะได้ผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมจะต้องใช้เงินลงทุน และระยะเวลาในการวิจัยและพัฒนายาวนานกว่าจะได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมทั้งการเพิ่มคุณค่าให้กับตัวผลิตภัณฑ์จึงเพิ่มมูลค่า (Add Value) จากสารสกัด หรือวัตถุดิบต่างๆ เช่น วิตามิน คอลลาเจน นํ้าผลไม้ เป็นต้น ทำให้มีต้นทุนสูงกว่าเครื่องดื่มทั่วไป
โดยกรมสรรพสามิตนำเสนอให้มีการจัดพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่ ในกลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชันนัล ดริงก์หรือเครื่องดื่มที่ผสมวิตามิน คอลลาเจน ฯลฯ เพื่อสนับสนุนเครื่องดื่มที่มีนวัตกรรม ซึ่งเดิมฟังก์ชันนัล ดริงก์จะจัดเก็บภาษีตามเครื่องดื่มนํ้าอัดลมที่มีพิกัดภาษี 14% บวกกับภาษีความหวานที่กำลังจะเริ่มในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ส่งผลให้ต้องเสียภาษีในอัตราที่สูง ดังนั้นการใช้พิกัดภาษีใหม่จะเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการหันไปใช้นวัตกรรมในการผลิตสินค้ามากขึ้น
ขณะที่แนวคิดการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มประเภทเบียร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์หรือเบียร์ 0% เพื่อเป็นการป้องกันนักดื่มหน้าใหม่นั้น พบว่ายังไม่มีข้อสรุป เพราะต้องการใช้พิกัดใหม่ไม่ใช้อัตราภาษีเดียวกับนํ้าอัดลม หรือฟังก์ชันนัล ดริงก์
หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3505 วันที่ 15-18 กันยายน 2562
