สัปดาห์นี้ การบ้าน-การเมืองไทยยังคงวนๆ อยู่กับเรื่อง (เก่า) ไม่กี่เรื่องเหมือนเดิมๆ แม้กระทั่งวันพุธ (18 ก.ย.) นี้ ที่ฝ่ายค้านจะเปิดอภิปรายซักฟอก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปมถวายสัตย์ฯ ไม่ครบ ซึ่งฮึ่มๆ เปิดหัวโหมโรงว่าจะระดม “ขุนพล” ฝ่ายค้านรุมกินโต๊ะ นายกฯ “บิ๊กตู่” แบบไม่ยั้ง ก็คงกร่อยกว่าที่คุยโม้ไว้เยอะเลย
ทั้งที่ รัฐนาวา “ประยุทธ์ 2” เริ่มออกจากฝั่งก็เผชิญมรสุมหลายต่อหลายลูก ไล่เลียงตั้งแต่เป็นรัฐบาลที่มีเสียง “ปริ่มนํ้า” ปัญหาพรรคเล็กถอนตัวออกไปเป็นฝ่ายค้านอิสระ รวมทั้งยังมีปัญหาปลีกย่อยต่างๆ อีกจิปาถะ และล่าสุดกรณีคุณสมบัติ (ต้องห้าม) ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์...
ที่ถูก “สื่อ” ประเทศออสเตรเลีย รายงานว่าเกี่ยวข้องกับการค้าหรือลักลอบขนเฮโรอีนเข้าประเทศออสซี่และเคยถูกศาลออสซี่พิพากษาจำคุก ซึ่งตอนแรกมีเค้าว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่เมื่อฟัง “ผู้กองธรรมนัส” ตอบกระทู้ของพรรคเสรีรวมไทยกลางสภายืนยัน “...ไม่เคยมีคำพิพากษาจากศาลออสเตรเลีย ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าหรือลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศ”
เพียงยอมรับ ถูกควบคุมตัวอยู่ 8 เดือน ตามกระบวนการ Plea Bargaining ของระบบศาลออสเตรเลีย ไม่ใช่ถูกคุมขังในเรือนจำ 4 ปีอย่างที่สื่อออสเตรเลียรายงาน และขณะถูกควบคุมตัว 8 เดือน ไม่ใช่ในฐานะผู้ต้องหาแต่เป็นพยานในคดีที่มีชาวออสเตรเลีย 2 คนเป็นผู้ต้องหา...
จากคำชี้แจงการตอบกระทู้ของร.อ.ธรรมนัส สวนทางกับ “ข้อมูล” ของสื่อต่างประเทศโดยสิ้นเชิง รวมทั้งต่อมาพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ยอมรับว่าเป็นคนคุยกับสื่อออสเตรเลียและให้ข้อมูลสื่อฯ นำเสนอข่าว อ้าว!! โอละพ่อเลยงานนี้
เช่นเดียวกับมติเอกฉันท์ของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันพุธ (11 ก.ย.) ที่ผ่านมา ไม่รับคำร้องปมนายกฯ ถวายสัตย์ฯ ไม่ครบ ชี้ไม่อยู่ในอำนาจ ตรวจสอบขององค์กรตามรัฐธรรมนูญใด??
วันพุธ (18 ก.ย.) นี้ แม้จะมีคำยืนยันจากนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า ญัตติอภิปรายซักฟอก “บิ๊กตู่” ปมถวายสัตย์ฯ ไม่ครบยังอยู่ตามปกติ ส่งผลให้ประเด็นที่ฝ่ายค้านเตรียมถล่มใส่ “บิ๊กตู่” แบบไม่ยั้งยัง “สะดุด” แต่คงยากลำบากขึ้นกว่าเดิม
ส่วนที่มีคนสงสัยว่าเพราะเหตุใด “บิ๊กตู่” จึงใจดีและไฟเขียวให้ฝ่ายค้านรุมกินโต๊ะตัวเองในวันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนฯ สมัยแรก นี่คือ “เกม” การเมืองที่ “รัฐบาล” เพียงต้องการเปิดช่องระบายไอ ไม่กดดันให้ฝ่ายค้านรู้สึกอึดอัดมากเกินไปเท่านั้น
ขณะเดียวกันก็ได้ทดสอบ “สปิริต” ของพรรคร่วมรัฐบาลเสียง “ปริ่มนํ้า” ว่าจะร่วมมือสามัคคีกันอย่างที่ได้ตกลงจับมือจัดตั้งรัฐบาล “ประยุทธ์ 2” หรือไม่ด้วย เนื่องจากไม่ว่าเสียงของรัฐบาลจะหายไปกี่เสียง แต่รัฐบาลที่มีเสียงสมาชิกวุฒิสภา 250 เสียงตุนในกระเป๋าตุงอยู่แล้ว
ที่สำคัญ คือ การอภิปรายซักฟอก “บิ๊กตู่” ครั้งนี้ ยังเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ไม่ต้องลงมติตามรัฐธรรมนูญ (ฉบับใหม่) ที่ได้บัญญัติเพิ่มเติมจากฉบับก่อนๆ ซึ่งจะไม่ส่งผลให้เก้าอี้-ตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” ของ “บิ๊กตู่” สั่นสะเทือนเลยแม้แต่น้อย
เมื่อเป็นอย่างนี้ เราจึงได้เห็นการเดิน “เกม” ลับๆ ล่อๆ ของรัฐบาลอยู่ตลอดเวลา เช่น บอกว่าจะต้องประชุมลับ ต่อมาก็ออกมาบอกเดี๋ยวลับ-เดี๋ยวไม่ลับ จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่า วันอภิปราย “บิ๊กตู่” จะประชุมอย่างไรลับหรือไม่? รวมทั้ง “บิ๊กตู่” จะเข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังการอภิปราย “ซักฟอก” ตัวเองหรือไม่?เพราะมีภารกิจต้องไปเปิดประชุมอยู่ด้วย
อย่างไรก็ตาม “บังเอิญ” ที่วันนั้น เป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยว่า “บิ๊กตู่” เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐหรือไม่? ตามที่มีผู้ข้องใจยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความพอดี หากระหว่างอภิปรายซักฟอกและมีผลวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมาว่า “บิ๊กตู่” ไม่ใช่เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ!?!?
“กฎ-กติกา” ของรัฐธรรมนูญ(ฉบับใหม่) บัญญัติ ว่า “บิ๊กตู่” ก็นั่งเก้าอี้-ตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” ต่อไปโดยไร้มลทิน ในทางตรงข้ามถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่า “บิ๊กตู่” เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ เก้าอี้ “นายกรัฐมนตรี” ก็จะหลุดกระเด็นจากก้นของ “บิ๊กตู่” และปิด “เกม” ซักฟอกของฝ่ายค้านไปโดยปริยาย เนื่องจาก “บิ๊กตู่” พ้นจากการเป็นนายกฯ แล้ว
แต่ดูตาม “เกม” การเมืองที่กำลังสู้กันอยู่ตอนนี้ ก็คงคาดเดาได้ยากว่าผลวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ จะออกมาอย่างไร ซึ่งหากจะมีเหตุที่เหนือความคาดหมาย รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงก็คงจะขยับตัวให้เห็นก่อนหน้านี้แล้ว และไม่รอจนเอาไม่อยู่แน่นอน!?!?
คอลัมน์อยู่กับปัจจุบัน โดย พงษ์ศักดิ์ ศรีสด
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3505 หน้า 14 วันที่ 15 - 18 กันยายน 2562