ลองขับ"เบนซ์ ปลั๊ก-อินไฮบริด" C300e นุ่มจัง พลังแรงจริง

14 ก.ย. 2562 | 03:10 น.

 

เมอร์เซเดส เบนซ์ ซี-คลาส เฟซลิฟท์ (W205) เปิดตัวในตลาดโลกกลางปี2561 จากนั้นช่วงปลายปีเดียวกันเมืองไทยขายรุ่นประกอบในประเทศทันที ประเดิมด้วย C220d เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร บล็อกใหม่

ตอนแรกเจ้าพ่อรถหรู คิดว่าขุมพลังดีเซลจะเป็นตัวประคอง(หลังยุติทำตลาดไปแล้ว) เพื่อรอให้รุ่นปลั๊ก-อินไฮบริด ซีเคดี ทำตลาดช่วงกลางปีนี้ แต่เอาเข้าจริง C220d ยังได้รับความนิยมอยู่มาก บางดีลเลอร์วิ่งหารถกันให้วุ่น

ลองขับ"เบนซ์ ปลั๊ก-อินไฮบริด" C300e นุ่มจัง พลังแรงจริง

ปัจจุบัน C220d แบ่งขาย 2 รุ่นย่อย Avantgarde ราคา 2.479 ล้านบาท และ AMG Dynamic ราคา 2.99 ล้านบาท แต่ที่น่าสังเกตคือ ราคาถูกขยับขึ้นหลังเปิดตัวครั้งแรก (ก.ย. 61) 1.3 แสนบาทและ 1 แสนบาทตามลำดับ

สวนทางกับปลั๊ก-อินไฮบริด ที่เปิดตัวได้ 3 เดือนก็ปรับราคาใหม่ โดยรุ่น Avantgarde ลดลง 1 แสนบาท เป็น 2.599 ล้านบาท AMG Dynamic ลงมา 2.25 แสนบาท เป็น 2.99 ล้านบาท (กลายเป็นว่าตัวท็อปของทั้ง 2 ขุมพลังราคาเท่ากัน)

เมื่อเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ตกใจจึงเห็นการปรับราคายกแผง ตามหลักการดีมานด์ซัพพลายง่ายๆ เพื่อเปิดช่องทางให้ C300e มีโอกาสหายใจหายคอบ้าง ส่วนคนซื้อคนขายมึนกันไปตามระเบียบ 

 

ในภาพใหญ่ของ W205 วิศวกรแจ้งว่าปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนจากการเปิดตัวครั้งแรกไปกว่า 6,500 รายการ หรือคิดเป็น 50% ของรถทั้งคัน สำหรับการออกแบบภายนอก-ภายใน ส่วนตัวผมว่าอารมณ์ไม่ต่างจากโฉมโมเดลเชนจ์มาก แต่ขุมพลังที่ถูกยกออกและวางเข้าไปใหม่ใต้ฝากระโปรงหน้า เปลี่ยนไปทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินครับ (เมื่อก่อนยังมี C300 บลูเทคไฮบริด เครื่องยนต์ดีเซลกับมอเตอร์ไฟฟ้าอยู่เลย)

ลองขับ"เบนซ์ ปลั๊ก-อินไฮบริด" C300e นุ่มจัง พลังแรงจริง

ลองขับ"เบนซ์ ปลั๊ก-อินไฮบริด" C300e นุ่มจัง พลังแรงจริง

อย่างเบนซิน มีบล็อกใหม่ 1.5 ลิตร เทอร์โบ พร้อมระบบไมลด์ไฮบริด 48 โวลต์ หรือ อีคิวบูสต์ (เมอร์เซเดส-เบนซ์ นับเป็นหนึ่งในเทคโนโลยี EQ) ซึ่งประจำการอยู่ในซี-คลาส คูเป้ ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ OM 654 และขุมพลังปลั๊ก-อินไฮบริด เจเนอเรชัน ที่ 3 ปรับการชาร์จ-รีชาร์จ และประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ใหม่

C300e ใช้แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนรุ่นใหม่ความจุเพิ่มขึ้นเป็น 13.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง(เดิม 6.38 กิโลวัตต์ชั่วโมง) พร้อมเซลล์แบตเตอรี่ที่มีส่วนผสมของลิเทียม-นิกเกิล-แมงกานีส-โคบอลต์ (Li NMC) ส่งผลให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่จากความจุ 10% จนเต็ม100%ได้ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง 50 นาที

ส่วนกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ เท่าเดิมที่ 211 แรงม้า แต่พลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 122 แรงม้า(เดิม 82 แรงม้า) แรงบิด 440 นิวตัน-เมตร(เดิม 340 นิวตัน-เมตร)

ในโหมดที่เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าผสานการทำงานกันเต็มที่ สามารถรีดกำลังได้ถึง 320 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตัน-เมตร เมื่อประกบเกียร์ชุดใหม่อัตโนมัติ 9 สปีด (เดิม 7 สปีด) อัตราเร่งดีขึ้นจาก 5.9 วินาที เป็น 5.4 วินาที

ในช่วงที่แบตเตอรี่ชาร์จเต็ม 100% ผมเห็นระยะทางที่วิ่งได้จากมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆ 37 กิโลเมตร เมื่อแบต เตอรี่เต็มขนาดนี้ผมไม่ลังเลที่จะเลือกขับด้วย E-MODE คือไม่ต้องการให้เครื่องยนต์ทำงานหรือปล่อยมลพิษเลย

การใช้โหมดขับเคลื่อนเกี่ยวกับไฮบริดและอีวี ถือเป็นอำนาจรองจากโหมดการขับขี่เดิมๆที่เราคุ้นเคยครับ เช่น อีโค คอมฟอร์ด หรือ สปอร์ต

กล่าวคือถ้าคุณเลือกโหมดสปอร์ต หวังขับขี่สนุกมือมันเท้า อยู่ดีๆคุณไปเลือก E-MODE หวังขับด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆ ระบบเขาก็ไม่เปลี่ยนให้ โดยจะยึดโหมดการขับขี่หลักเอาไว้ก่อน (โหมดเกี่ยวกับพลังไฟฟ้าไม่มีอำนาจเหนือโหมดหลัก)

ลองขับ"เบนซ์ ปลั๊ก-อินไฮบริด" C300e นุ่มจัง พลังแรงจริง

ลองขับ"เบนซ์ ปลั๊ก-อินไฮบริด" C300e นุ่มจัง พลังแรงจริง

นั่นหมายถึงคุณต้องอยู่ในโหมดคอมฟอร์ด หรือ อีโค ถึงจะใช้ E-MODE ซึ่งการขับปกติทั่วไปผมใช้ความเร็วในโหมดนี้ได้ถึง 120 กม./ชม.

อย่างไรก็ตาม ถ้าประจุไฟในแบตเตอรี่เหลือ 10% เหมือนรถจะตัดกลับมาเป็นระบบไฮบริดให้อัตโนมัติ (เครื่องยนต์ทำงานช่วยส่งกำลังขับเคลื่อนและชาร์จแบตเตอรี่)

ในโหมดไฮบริดการตอบสนองของรถว่องไว กระฉับกระเฉงรวดเร็ว (แน่นอนว่าคุณเลือกโหมดสปอร์ตในการขับขี่ได้) เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดนุ่มลื่นและช่วยลดรอบเครื่องยนต์ได้มาก การขับทั่วๆไปความเร็วใช้งานปกติ เมื่อเครื่องยนต์ทำงานรอบก็ไม่เกิน 2,000

อย่างที่เคยเรียนครับว่ารถปลั๊ก-อินไฮบริดถ้าชาร์จไฟจากบ้านมาเต็ม แล้วระยะทางวิ่งต่อวัน(ในเมือง) ประมาณ 20-30 กิโลเมตร คุณแทบไม่ต้องการการทำงานของเครื่องยนต์เลย นั่นเท่ากับไม่กินนํ้ามัน ซึ่งไฮบริดของเมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่นใหม่ขยายความจุแบตเตอรี่มากขึ้น ยิ่งเพิ่มความยืดหยุ่นในการ
ใช้งาน

ส่วนการใช้งานในโหมดไฮบริด เมื่อพลังในแบตเตอรี่เหลือครึ่งเดียว ผมวิ่งในเมืองและออกนอกเมืองลองวัดในระยะทาง 50 กม. อัตราบริโภคนํ้ามันอยู่ แถวๆ 7 ลิตรต่อ 100 กม. หรือประมาณ 14 กม./ลิตร

รวบรัดตัดความ...C300e ปลั๊ก-อินไฮบริด พัฒนาระบบขับเคลื่อนให้ตอบสนองการใช้งานได้สมเหตุสมผลมากขึ้น ทั้งการประหยัดพลังงานและสมรรถนะการขับขี่ ตัวรถกำลังแรง การขับขี่รวมๆนุ่มนวลไปนิด แต่ถ้าใครยังนิยมรถแบบ ICE ประตูของ C220d ก็ยังไม่ปิด ขณะที่คู่แข่งบีเอ็มดับเบิลยู “ซีรีส์ 3” G20 ได้ความสดใหม่และเด็ดดวงเรื่องการขับขี่แบบสปอร์ต รุ่นนำเข้า 320d ราคา 2.959 ล้านบาท ก็ไม่หนีกันมาก(ในอนาคตจะประกอบรุ่นปลั๊ก-อินไฮบริดเช่นกัน) เงินอยู่ในมือคุณครับเลือกได้เลย

คอลัมน์ เทสไดร์ฟ

โดย : กรกิต กสิคุณ

ลองขับ"เบนซ์ ปลั๊ก-อินไฮบริด" C300e นุ่มจัง พลังแรงจริง ลองขับ"เบนซ์ ปลั๊ก-อินไฮบริด" C300e นุ่มจัง พลังแรงจริง ลองขับ"เบนซ์ ปลั๊ก-อินไฮบริด" C300e นุ่มจัง พลังแรงจริง ลองขับ"เบนซ์ ปลั๊ก-อินไฮบริด" C300e นุ่มจัง พลังแรงจริง ลองขับ"เบนซ์ ปลั๊ก-อินไฮบริด" C300e นุ่มจัง พลังแรงจริง ลองขับ"เบนซ์ ปลั๊ก-อินไฮบริด" C300e นุ่มจัง พลังแรงจริง

 

หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,504 วันที่ 12 - 14 กันยายน พ.ศ. 2562