จี้รัฐค้าข้าวจีทูจีกับฟิลิปปินส์

10 ก.ย. 2562 | 11:34 น.

เอกชนจี้รัฐบาล-ก.พาณิชย์ เดินหน้าขยาย MOU ซื้อขายข้าวจีทูจีกับฟิลิปปินส์ หลังถูกแจ้งไม่ต่ออายุ หวั่นทำเสียโอกาสในอนาคต ขณะกรมการค้าต่างประเทศมองต่างให้เอกชนนำเข้า ช่วยเพิ่มโอกาสไทย

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ถึงกรณีรัฐบาลฟิลิปปินส์แจ้งไม่ต่ออายุบันทึกความตกลง(MOU)ว่าด้วยการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี)ระหว่างรัฐบาลไทย และรัฐบาลฟิลิปปินส์ ที่หมดอายุลงตั้งแต่วันที่ 31ธันวาคม2561 และจะมีการเอ็มโอยูฉบับใหม่ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม2562-1ธันวาคม 2563 แต่ฟิลิปปินส์ได้แจ้งไม่ต่ออายุ สืบเนื่องจากฟิลิปปินส์ได้มีการเปลี่ยนแปลงการนำเข้าข้าวจากเดิมจะเป็นการซื้อขายผ่านหน่วยงานรัฐ(องค์การอาหารแห่งชาติของฟิลิปปินส์ (เอ็นเอฟเอ )มาเป็นการค้าแบบเสรี โดยให้เอกชนที่ได้รับใบอนุญาตสามารถนำเข้าข้าวได้ตามโควตาโดยไม่ต้องทำการซื้อขายผ่านหน่วยงานรัฐ

จี้รัฐค้าข้าวจีทูจีกับฟิลิปปินส์

                                             ชูเกียรติ  โอภาสวงศ์

“เรื่องนี้มีผลทำให้โอกาสในการขายข้าวแบบจีทูจีไทยกับฟิลิปปินส์อาจหมดไปและอาจทำให้ไทยสูญเสียตลาดข้าวในฟิลิปปินส์ได้ในอนาคต เพราะปัจจุบันเวียดนามยังมีสัญญาการซื้อขายข้าวกับรัฐบาลฟิลิปปินส์อยู่ ซึ่งโอกาสที่เวียดนามจะได้ส่วนแบ่งตลาดไทยไปก็มีสูง ซึ่งเอกชนเองมองว่ารัฐบาลควรมีการหารือกับรัฐบาลของฟิลิปปินส์อีกครั้งเพื่อให้เกิดการต่ออายุบันทึกดังกล่าว เพราะหากรัฐบาลฟิลิปปินส์มีการเปลี่ยนแปลงการค้าเป็นแบบรัฐต่อรัฐไทยก็ยังจะมีโอกาสในตรงนี้”

 

สมาคมเตรียมเดินทางไปฟิลิปปินส์กับกระทรวงพาณิชย์ในช่วงต้นเดือนหน้าเพื่อพบกับผู้นำเข้าข้าวของฟิลิปปินส์ และหน่วยงานรัฐของฟิลิปปินส์เพื่อไปหารือในเรื่องดังกล่าวด้วย เพราะเกษตรกรของฟิลิปปินส์เองก็ไม่พอใจเพราะราคาข้าวในประเทศลดต่ำลงกว่า 30% เนื่องจากเอกชนของฟิลิปปินส์มีการนำเข้าข้าวไปมาก

อย่างไรก็ตามจากการหารือกับผู้นำเข้าข้าวของเวียดนาม แม้ว่าเวียดนามจะขายข้าวได้มากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ราคาดี เพราะมีคู่แข่งมาก ทั้งจากไทย และจากผู้นำเข้าจากฟิลิปปินส์เองและมีการกดราคาข้าวทำให้ราคาค่อนข้างต่ำ ในขณะที่ข้าวไทยเองมีราคาสูงกว่าคู่แข่งถึง 80% โดยราคาเอฟโอบีข้าวขาว 5% ของไทยอยู่ที่ 400 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ขณะข้าวชนิดเดียวกันจากเวียดนามอยู่ที่ 320 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน

ด้านนางมนัสนิตย์ จิรวัฒน์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยและฟิลิปปินส์ไม่มีการซื้อขายข้าวแบบจีทูจี และระดับเอกชนกับเอกชนมาเป็นเวลานาน เนื่องในช่วงที่ผ่านมาไทยไม่เคยชนะการประมูลข้าวฟิลิปปินส์ จากราคาข้าวไทยสูงกว่าประเทศอื่นๆ อย่างไรก็ตามไทยเริ่มกลับมาซื้อขายข้าวแบบจีทูจีอีกครั้งเมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เข้ามาบริหารประเทศในปี 2557 และมีการต่อสัญญาต่อเนื่องปีต่อปี ดังนั้นกรณีที่ รัฐบาลฟิลิปปินส์แจ้งไม่ต่ออายุบันทึกความตกลงว่าด้วยการซื้อขายข้าว ระหว่างรัฐบาลไทย และ รัฐบาลฟิลิปปินส์นั้น  จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับผู้ส่งออกไทยให้สามารถส่งออกและขยายตลาดข้าวในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับเอกชนผู้ส่งออกข้าวของฟิลิปปินส์ ประกอบกับรัฐบาลฟิลิปปินส์ มีการปรับเปลี่ยนระบบการนำเข้าจากเดิมองค์การอาหารแห่งชาติของฟิลิปปินส์ (National Food Authority: NFA) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่นำเข้าข้าว เป็นผู้นำเข้าแต่เพียงผู้เดียวเพื่อความมั่นคงของประเทศ เป็นการค้าแบบเสรีโดยให้เอกชนสามารถนำเข้าข้าวแทน

สำหรับการนำเข้าข้าวแบบจีทูจีไทย-ฟิลิปปินส์ตั้งแต่ปี 2557-2561 มีทั้งสิ้น 6 ฉบับ ปริมาณ 1.1 ล้านตัน มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท โดยข้าวที่ฟิลิปปินส์นำเข้าเป็นข้าวขาว 25%