ดีป้า ทุ่ม 73 ล้าน เตรียมจัดงาน “ดิจิทัล ไทยแลนด์ บิ๊กแบง 2019” ชูไฮไลท์ 3 โซนเด่น เน้นพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีแก่เยาวชน คาดคนแห่ร่วมงานกว่า 5 แสน เงินสะพัดกว่าพันล้าน
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า สำหรับงานดิจิทัลไทยแลนด์บิ๊กแบงที่ได้เคยจัดขึ้นนั้นทำให้เห็นว่าสองปีที่ผ่านมาคนไทยเริ่มเข้าใจในดิจิทัลและให้ความสนใจมากขึ้น คนที่อยู่ในแวดวงมีความตื่นเต้นที่จะนำเสนอเรื่องที่ทันสมัยให้กับประชาชนโดยในงานครั้งนี้จัดขึ้นบนพื้นที่กว่า 40,000 ตารางเมตร เพื่อเตรียมยกระดับประเทศไทยสู่การเป็น ASEAN DIGITAL HUB มีการรวมตัวของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลกว่า 300 บูธซึ่งแบ่งพื้นที่เป็น 3 โซนหลักคือ 1.DIGITAL ECONOMY พัฒนาเมืองสู่เศรษฐกิจดิจิทัลนำเสนอเทคโนโลยีที่จะเป็นตัวกำหนดเทรนด์ของโลกอนาคตอาทิเทคโนโลยีAI, Internet of Things (IoT), และ Big Data พร้อมโชว์เคสเทคโนโลยียานยนต์อนาคต 2. DIGITAL SOCIETY พื้นที่แสดงถึงความสำคัญเกี่ยวกับทักษะด้านดิจิทัลการเตรียมบุคลากรดิจิทัลเพื่อรองรับการพัฒนาประเทศและการเปลี่ยนแปลงของสังคมโชว์เคสการใช้โดรนในการขนส่งมนุษย์ 3. CREATIVITY พื้นที่ที่รวบรวมเทคโนโลยีเพื่อการสร้างสรรค์จากหลากหลายสตาร์ตอัพนักพัฒนาเกมและเทคโนโลยีต่างๆ
“ปีนี้ตั้งเป้าให้ไทยก้าวสู่การเป็นดิจิทัลฮับ รวมถึงเรื่องสังคมคนเทคในประเทศไทยที่มีอยู่จำนวนมากแต่ยังไม่ได้ทำอย่างเต็มที่เพราะประเทศไทยมีคนเด่งอยู่มากแต่ยังไม่ได้ถูกพัฒนาอย่างเต็มความสามารถนอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของสถาบันไอโอทีสู่การเป็นดิจิทัลวัลเลย์ที่จะช่วยดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาในไทยได้มากขึ้น”
ด้าน ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้าสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า สำหรับงานดิจิทัลไทยแลนด์บิ๊กแบงที่ผ่านมานั้นปีแรกมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 200,000 คน ปีที่ผ่านมามีผู้เข้าร่วมงานราว 350,000 คน โดยมีวิทยากรในระดับนานาชาติเข้าร่วมบรรยายกว่า 100 คนและวิทยากรไทยอีกกว่า 100 คนภายในงานมีภาคเอกชนร่วมจัดบูธกว่า 300 บูธ ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าผู้เข้าชมงานกว่า 500,000 คน
“สำหรับงานดิจิทัลไทยแลนด์บิ๊กแบงในครั้งนี้ใช้งบประมาณจากภาครัฐ 73 ล้านบาท สัดส่วนราว 40% และได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนอีก 60% เพื่อประกาศให้ทั่วโลกได้รับรู้ว่าประเทศไทยจะเป็นจุดหมายปลายทางด้านดิจิทัลในอาเซียนซึ่งคาดว่าจะทำให้เกิดเงินสะพัดภายในงานกว่า 1,000 ล้านบาทรวมถึงการจับคู่ทางธุรกิจ (Pitching) ที่คาดว่าจะสร้างมูลค่าอีกกว่า 500 ล้านบาทจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 200 ล้านบาท”
นายพุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เป้ายอดผู้เข้าชมงาน 5 แสนรายนั้นมองว่าเป็นตัวเลขที่ไม่ไกลเกินเอื้อมกลุ่มคนที่เข้าร่วมงานส่วนใหญ่ต่างเป็นผู้ที่สนใจในธุรกิจดิจิทัลรวมถึงมีการเพิ่มเข้ามาของภาคสังคมและกลุ่มครอบครัว โดยเน้นให้การสนับสนุนผู้ปกครองในการพัฒนาทักษะให้กับบุตรหลานในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีอาทิการโค้ดดิ้งเพื่อให้ผู้ปกครองเห็นว่าการเล่นเกมของเด็กไม่ได้เป็นปัญหาทั้งหมดแต่สามารถพัฒนาทักษะแก่เยาวชนด้วยการเรียนรู้จากเทคโนโลยีตรงนี้ได้โดยงาน DIGITAL THAILAND BIG BANG 2019 นั้นจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคม2562 ณศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา