สรท.ฟันธงส่งออกทั้งปีโต 0%

สรท.ฟันธงส่งออกปี 62 ขยายตัว 0%  จากเดิม3%จากปัจจัยหนุนต่างๆทั้งราคาทองคำแนวโน้มสูง อานิสงค์สงครามการค้าที่เร่งให้ทั้งสหรัฐฯและจีนรีบนำเขาสินค้ามากขึ้นก่อนทั้ง 2 ฝ่ายจะปรับขึ้นภาษีระหว่างกัน  วอนรัฐเร่งหาทางรุกตลาดศักยภาพอื่นทั้งอินเดีย กรีซ ออสเตรีย ยูเครน

นางสาวกัญญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท.ยังคงเป้าการส่งออกปี 2552 ไว้ที่ ติดลบ 1% ถึง 0% จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้3% โดยปัจจัยที่สนับสนุนยังคงเป็นการส่งออกทองคำที่มีแนวโน้มสูงขึ้นรวมไปถึงผลกระทบจากสงครามการค้ามีผลทำให้สหรัฐเร่งการนำเข้าสินค้ามากขึ้น ก่อนที่จะมีการปรับภาษีรอบใหม่ ส่งผลให้หลายประเทศผู้ผลิต โดยเฉพาะจีน ต้องเร่งนำเข้าชิ้นส่วนอุปกรณ์เพื่อเร่งการผลิตในการผลักดันการส่งออก นอกจากนี้ ยังมีในเรื่องของการขยายการส่งออกในกลุ่มสินค้าเกษตร อาหาร ไลฟ์สไตล์ที่ขยายตัวต่อเนื่อง และการส่งออกไปในสหรัฐและอินเดีย ขยายตัว จากผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมถึงแนวโน้มราคาน้ำมันที่ลดลงทำให้ผู้ประกอบการ แบกรับ ต้นทุนที่ต่ำลง แต่ทั้งนี้ต้องคอยจับตาภาษีน้ำมันนำเข้าของจีนที่อาจจะมีผลกระทบ ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามสภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนจากปัญหาสงครามการค้าที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ ปัญหาของการออกเป็นสมาชิกของสหราชอาณาจักรที่อาจจะมีผลต่อความเชื่อมั่นและผู้ส่งออกรวมไปถึงเศรษฐกิจโลก

"บรรยากาศการเมืองของตะวันออกกลางเกี่ยวกับสถานการณ์และอิหร่าน ความขัดแย้งของอินเดียและปากีสถาน อัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่องที่กระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน ภัยธรรมชาติที่มีผลต่อภาคการผลิตโดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่อาจจะสร้างความเสียหายได้ ปัจจัยต่างๆที่เป็นความเสี่ยงต่อการแห่งการส่งออกและการแข่งขันของไทย"

อย่างไรก็ตามสรท.ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐเร่งบุกตลาดอินเดียซึ่งเป็นตลาดที่มีโอกาสในการส่งออกโดยเฉพาะยางพารา อุตสาหกรรมอาหาร อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นต้น ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการสูงและไทยมีศักยภาพในการแข่งขัน และการพิจารณาตลาดที่มีโอกาส โดยเฉพาะตลาดกรีซออสเตรีย ยูเครน โดยประเทศไทยสามารถผลักดัรการส่งออกทดแทนตลาดที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า แล้วต้องการให้มีการสนับสนุนช่องทางการค้า e-commerce  platform หรือ National Digital Trade platform (NDTP)  ซึ่ง เอกชนร่วมกันผลักดัน เพื่อขยายช่องทางการค้า

สำหรับ การส่งออกของไทยในเดือนกรกฎาคม 2562 มีมูลค่า 21,205 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 4.28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การนำเข้าเดือนกรกฎาคม  มีมูลค่า 21,095  ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  ส่งผลให้การค้าเกินดุล 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมการส่งออกไทย 7 เดือนแรก (มกราคม-กรกฎาคม) ปี 2562 การส่งออกมีมูลค่า 144,176 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 1.9% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 140,122 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 1.8% และการค้าเกินดุล 4,054 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ