กรมโรงงานฯ เปิดตัวระบบ GPS ติดตามรถขนส่งกากของเสียอันตรายแบบ Real Time

28 มี.ค. 2559 | 07:08 น.
นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การจัดการกากอุตสาหกรรมเป็นภารกิจเร่งด่วนที่รัฐบาลให้ความสำคัญ กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้จัดทำแผนการจัดการกากอุตสาหกรรม พ.ศ.2558 - 2562 ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2558 ซึ่งปัจจุบันมีการควบคุมรถขนส่งของเสียอันตรายและการแจ้งข้อมูลการขนส่ง แต่ยังพบว่ามีการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมในหลายพื้นที่ เนื่องจากยังไม่มีระบบติดตามตัวรถขนส่งทำให้เกิดการลักลอบทิ้งกากระหว่างการขนส่ง กระทรวงอุตสาหกรรม จึงมอบหมายให้ กรมโรงงานฯ จัดทำ “โครงการจัดสร้างระบบฐานข้อมูลและติดตามการขนส่งกากอุตสาหกรรม (GPS)”  ระบบฐานข้อมูลและติดตามการขนส่งกากอุตสาหกรรม (GPS) เพื่อติดตามรถขนส่งกากของเสียอันตรายด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบเรียลไทม์ (Real Time) โดยคาดหวังว่าจะสามารถบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้าน ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และรองโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า  ระบบฐานข้อมูลและติดตามการขนส่งกากอุตสาหกรรม (GPS)” สามารถรายงานตำแหน่งของรถขนส่งด้วยระบบ GPS (Global Positioning System) ผ่านแอพพลิเคชั่น GPSHZW DIW บนสมาร์ทโฟนในระบบแอนดรอย (Android) และเว็บไซต์ http://gisapp.diw.go.th ภายในระบบฯ จะระบุรายละเอียดข้อมูลการขนส่ง อาทิ หมายเลขประจำตัวเครื่องบันทึกข้อมูล (GPS ID) วันเวลาที่ส่งข้อมูล ข้อมูลของเสียที่จะขนถ่าย ละติจูด ลองจิจูด ความเร็ว สถานะเครื่องยนต์ ทิศทางการเดินทาง เป็นต้น โดยสามารถติดตามรถขนส่งได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง และรายงานข้อมูลทุกๆ 1 นาที ตั้งแต่เริ่มมีการแจ้งนำของเสียออกนอกโรงงานจนกระทั่งเข้าสู่แหล่งกำจัดกาก ซึ่งหากเกิดปัญหาการทิ้งกากระหว่างการขนส่งหรือนอกพื้นที่ กรมโรงงานฯ จะสามารถตรวจสอบได้ทันที ซึ่งจะทำให้กรมโรงงานฯ กำกับดูแลการจัดการกากอันตรายในภาพรวมได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการตรวจสอบถึงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในช่วงวันหยุดยาวที่กำลังจะมาถึงได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ระบบการติดตามการขนส่งกากอุตสาหกรรมได้พัฒนาเสร็จแล้ว ขณะนี้ กรมโรงงานฯ อยู่ระหว่างการร่างกฎหมายเพื่อกำหนดให้รถขนส่งกากอุตสาหกรรมอันตรายติดตั้งระบบ GPS ทุกคัน และเตรียมบังคับใช้เป็นกฎหมายลงโทษกับผู้ประกอบการขนส่งกากฯ ที่ลักลอบทิ้งกากอันตราย โดยจะเริ่มบังคับใช้จริงในเดือนกรกฎาคม 2559 โดยแนวทางของกฎหมายคือ หากรถขนส่งกากฯ ไม่ดำเนินการติดตั้งระบบ GPS และไม่ส่งข้อมูล GPS ให้กับกรมโรงงานฯ กรมโรงงานฯจะไม่พิจารณาออกใบอนุญาตครอบครองวัตถุอันตรายเพื่อการขนส่งได้  ซึ่งระหว่างร่างกฎหมายฉบับนี้ ได้เปิดทดสอบระบบควบคู่ไปด้วย ซึ่งได้รับความร่วมมือในการทดลองส่งสัญญาณ GPS โดย บริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ซึ่งเป็น Service provider ที่ให้บริการด้าน GPS อีกทั้งยังได้รับความรับมือในการทดลองใช้ระบบการติดตามการขนส่งกากอุตสาหกรรมจริงโดย บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้รับบำบัด/กำจัด กากอุตสาหกรรม และคาดว่าหลังจากบังคับใช้จริง ทุกโรงงานต้องเข้าสู่ระบบการกำจัดกากฯ ซึ่งปัจจุบันมีกากอุตสาหกรรมอันตรายเข้าสู่ระบบประมาณ 1 ล้าน ตันต่อปี

ปัจจุบันมีโรงงานที่อาจจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ซึ่งจัดอยู่ในโรงงานจำพวกที่ 3 แจ้งประกอบกิจการจำนวน 70,311 โรงงาน  ในจำนวนนี้มีโรงงานรับกำจัดกากฯ จำนวน 1,694 โรงงาน พบว่า มีโรงงานประมาณ 47,950  โรงงาน หรือคิดเป็น 68% ที่มีการลงทะเบียนในระบบการจัดการกากอุตสาหกรรมของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีโรงงาน จำนวน 28,178 โรงงาน ที่มีการจัดการกากอุตสาหกรรมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หรือคิดเป็น 40% และยังมีโรงงานอีกกว่า 60% ที่ยังไม่ได้เข้าระบบการจัดการกากอุตสาหกรรมอย่างถูกต้อง จึงเป็นเป้าหมายหลักของกรมโรงงานฯ ที่จะเร่งรัดโรงงานเข้าระบบการจัดการกากฯ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย