แกะรอยข้าวปริศนา 8.3 หมื่นตัน
แกะรอยข้าวนอกบัญชี 8.3 หมื่นตัน เจ้าของคลังกิจเจริญทรัพย์ ลพบุรีโผล่แจง ระบุเป็นข้าวของ “โชควรลักษณ์” หนึ่งในผู้รับจ้างผลิตข้าวถุง ยันเป็นแค่คลังกลางฝากเก็บ เผยช่วง ม.ล.ปนัดดา ตรวจสต๊อกไม่ได้ชี้เป้า ชี้ไม่ใช่หน้าที่ โบ้ย อคส.ต้องเป็นคนแจ้ง
“ฐานเศรษฐกิจ” ยังแกะรอยการระบายข้าวในและนอกคลังสินค้ากลางโครงการรับจำนำข้าวเปลือกในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พบข้อมูลข้าวที่ไม่มีผลการวิเคราะห์คุณภาพต่อคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ครั้งที่ 4/2562 (ลับ) เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2562 จำนวน 18 จังหวัดใน 29 คลัง รวมปริมาณ 8.3 หมื่นตัน ขององค์การคลังสินค้า (อคส.) แยกตามชนิดข้าว 11 ชนิด เป็นคลังสินค้าที่มีการเก็บรักษาข้าวสารเกิน 5 ปีขึ้นไป ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าส่วนหนึ่งเป็นข้าวจากคลังสินค้าของ หจก.กิจเจริญทรัพย์ ลพบุรี หลัง 1/1 และคลังสินค้า บจก.ลพบุรีสตาร์ช หลัง 2 ซึ่งเก็บรักษาข้าวสารตามโครงการนาปี 2555/2556 และโครงการนาปรัง ปี 2555 ตามลำดับ
นายไตรสิทธิ์ เจริญหิรัญโภคิน เจ้าของคลังกิจเจริญทรัพย์ ลพบุรี หลัง 1/1 เป็น 1 ใน 2 คลัง หนึ่งในข้าวนอกบัญชี ของ อคส. เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ข้าวในคลังนี้ ชุดสายตรวจ 100 สาย ของ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้าวคงเหลือของรัฐ เป็นประธาน ไม่ได้ตรวจคลังดังกล่าว ขณะเวลาที่จะมาตรวจ ทาง อคส.จะทำหนังสือแจ้งมาว่าจะมาตรวจคลังใดบ้าง ไม่ใช่หน้าที่ตนที่จะไปชี้ว่าคลังนี้ไม่ตรวจหรือ? แต่หน้าที่ของตนคือ ถ้ามีหนังสือแจ้งมาว่าจะตรวจคลังใดบ้าง ก็เปิดให้ตรวจหมดทุกคลัง
“ข้าวดังกล่าวอยู่ในโครงการรับจำนำข้าว แต่ได้โอนย้ายมาผลิตเป็นข้าวถุง พอถูกสั่งระงับการผลิตโรงสีที่ขนข้าวไปแล้วก็ต้องคืนข้าวที่เหลือกลับมาที่คลังกลางที่จังหวัดลพบุรี ประมาณกว่า 4 หมื่นกระสอบ ซึ่งเป็นของหจก.โรงสีโชควรลักษณ์รุ่งเรืองกิจ จังหวัดลพบุรี 1 ใน 6 ผู้รับจ้างปรับปรุงและทำข้าวสารบรรจุถุง เพื่อลดค่าครองชีพผู้บริโภคในขณะนั้นเข้าใจได้ว่าเป็นข้าวที่ อคส.ไม่ได้ทำบัญชีส่งให้ ม.ล.ปนัดดาจึงตีโพยตีพายว่าข้าวหายไปเป็นแสนตัน ผมว่าจำนวนหายน่าจะหายไปจริง แต่ไม่น่าจะเยอะขนาดนั้น เพราะถ้าจะขนออกไปเป็นหมื่นลูก คนพื้นที่ต้องเห็น พยานแวดล้อมรอบข้างต้องทราบ”
นายไตรสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของข้าวถุงที่มาฝากคลังไม่ได้รับผิดชอบอะไร ต้องเป็นส่วนของ อคส.ที่จะต้องเป็นคนรับผิดชอบ เพราะตนเป็นแค่คลังกลางที่รับฝากข้าวที่โชควรลักษณ์นำไปผลิตข้าวถุงเท่านั้น ซึ่งพอ อคส.สั่งระงับผลิต อคส.ก็นำข้าวทั้งหมดมาไว้ที่คลังกลางแห่งนี้
“ปัจจุบัน อคส.ทำเรื่องฟ้องคลังกลางกว่า 200 คลังกลางทั่วประเทศที่ส่อทุจริตโครงการรับจำนำข้าวซึ่งในรายที่บริสุทธิ์ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมไม่ชี้แจง เพราะพวกผมก็ไม่สามารถไปรับรองใครได้ ก็คุย 7-8 คลังในตอนนั้นก็หวังว่าจะมีคนมาร่วมกับเรา พวกที่เผชิญชะตากรรมแต่ก็เงียบ ต่างคนต่างนิ่งเฉยแล้วคงคิดว่าคดีจะนิ่งหายไปเอง ทุกคนเข้าใจว่าเป็นอย่างนั้น แต่จะยื้อข้าวไม่ให้ออก จะกันไว้เป็นพยานว่าหลักฐานข้าวยังดีอยู่ ไม่ได้เสียไปอย่างคณะกรรมการตรวจ ก็เกรงว่าจะผิดสัญญา สุดท้ายก็ต้องยอม แล้วก็พยายามทำตัวเป็นเด็กดี ตอนนี้ก็ต้องมาสู้กันในเรื่องข้อเท็จจริงต่อไป”
อย่างไรก็ดีเวลานี้หลายรายก็มาคุยกันว่า แต่ละคนโดนข้อหาหรือโดนคดีอะไรบ้าง ใครมีข้อมูลอะไรก็แลกเปลี่ยนกัน พบว่าที่ผ่านมาบางทีทหารที่มาตรวจสต๊อกและคัดแยกเกรดข้าวก็เขียนโค้ดตัวอย่างผิด เพราะข้าวมีจำนวนมากและทหารไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ ในขณะนั้นเราเถียงตรงนี้ เขาก็แย้งมาว่าทหารได้รับการอบรมมาแล้ว
“ถ้าเรารู้ว่าจะมาตรวจเพื่อที่จะจัดเกรดมาตรฐานข้าว จะเข้าไปกำกับและดูแลการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดว่ามาเอาตัวอย่างไปถูกต้องหรือไม่ ตรงตามระเบียบการเก็บตัวอย่างหรือไม่ เพราะมีคู่มือหมดทุกอย่าง ยอมรับว่า ก็ไม่รู้ที่มาตรวจเพื่อจับผิด แต่ด้วยความบริสุทธิ์ใจของพวกเราก็อำนวยความสะดวกให้ทุกอย่างพอมาตรวจแล้วระบุว่าของไม่ดี ก็ได้แย้งไปขอให้ตรวจใหม่ก็ไม่ยอม”
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,501 วันที่ 1-4 กันยายน 2562
