ขุนคลังสั่ง ตั้งทีม "หมอคลังอาสา"

อุตตม สั่งสศค.ตั้งทีม "หมอคลังอาสา" ลงพื้นที่สอนบริหารเงิน ลดหนี้ปชช.พร้อมดูความต้องการจริง ก่อนทำยุทธสาสตร์ดูแลรากหญ้าให้ตรงจุดและปฎิบัติได้ หวังเห็นความเข้มแข็งภายในประเทศ ต้านผลกระทบจากปัจจัยภายนอก พร้อมใช้เป็นฐานข้อมูลส่งเงินลงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ถูกจุดในอนาคต

               ในงานสัมมนาวิชาการ ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)ประจำปี 2562 เรื่อง "คลังคิด เศรษฐกิจเชิงพื้นที่" นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า แม้ สศค.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะช่วยกันคิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ และออกมาตรการมาดูแลเศรษฐกิจได้อย่างทันการ และตรงจุดสอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่ในอนาคตกระทรวงการคลังจะต้องแก้ไขปัญหาเพื่อดูแลคนไทยให้อยู่ดีก้นดีมากขึ้น ด้วยการร่วมกันปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ เพื่อให้แข่งขันกับประเทศอื่นในโลกได้ พร้อมทั้งต้องสร้างเสริมให้เศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพิงการส่งออก

               ดังนั้นจากนี้ไปรัฐบาลจะต้องเน้นการดูแลระบบฐานรากให้เข้มแข็งมากขึ้น เช่น การดูแลผู้สูงอายุ ที่ไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงวัย รัฐบาลก็จะต้องพิจารณางบประมาณที่จะดูแลสวัสดิการผู้สูงวัยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุข และการส่งเสริมการลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนใน EEC ที่เดินมาถูกทางแล้ว ซึ่งกระทรวงการคลังจะต้องเข้าไปดูเรื่องงบประมาณการลงทุนให้เหมาะสม เพื่อให้การลงทุนเป็นไปตามเป้าหมายและคุ้มค่า

ทั้งนี้ตนอยากให้สศค.ไปศึกษาแนวทางการทำงานในระยะกลางและระยะยาว ออกมาเป็นยุทธศาตร์การดูแลประชาชนในเชิงพื้นที่ หรือประชาชนในระดับฐานรากในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งต้องการให้สศค.ตั้งทีมคลังพื้นทื่ ที่ประกอบไปด้วย คลังจังหวัด ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ และภาคเอกชนในพื้นที่ ร่วมกันพิจารณางบประมาณของรัฐบาลที่จะลงไปพัฒนาพื้นที่จะลงไปในรูปแบบใด เพื่อให้คนในพื้นที่ได้ประโยชน์สูงสุด โดยให้คิดนโยบายเศรษฐกิจต่างๆ ที่สามารถดำเนินการได้จริงเป็นรูปธรรม และทำได้จริงในพื้นที่ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่โดดเด่นของแต่ละพื้นที่ รวมถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น เพราะเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจฐานราก เพราะในอนาคตจะสามารถใช้ข้อมูลที่ได้ เป็นฐานข้อมูลในการให้สวัสดิการแก่ผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วย

               ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังพัฒนาระบบ E-payment เข้าไปสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก ทั้งการลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการรายเล็ก และสนับสนุน Start-up ให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะการค้ายุคใหม่

               "อยากให้คลัง สศค.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปดูว่าจะมีทีมลงไปดูแลประชาชนในพื้นที่ต่างๆ อย่างไร และความต้องการเขาคืออะไร อุตสาหกรรมไหนควรสนับสนุนในพื้นที่ไหน โดยจะเริ่มจากการส่งทีมลงไปดูแลให้ความรู้เรื่องการบริหารเงิน เพื่อลดการเป็นหนี้ของคน และต่อไปจะเอามาเป็นฐานในการให้สวัสิดการผ่านบัตร ว่าพื้นทีไหนจำเป็นต้องช่วยเหลือเงินด้านไหนบ้าง เพื่อให่ใช้งบประมาณได้อย่างคุ้มค่าที่สุด ซึ่งอยากให้สศค.ทำเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด"นายอุตตม กล่าวว่า

สำหรับการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่นั้น จะเปิดให้ลงทะเบียนภายในปี 2563 ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้สรุปว่าจะให้สวัสดิแบบรายบุคคลเหมือนเดิม หรือ เป็นรายครอบครัว ซึ่งสศค.กำลังศึกษาความเหมาะสมอยู่ แต่อย่างไรก็ตามจะได้ข้อสรุปภายในเดือนพ.ย.-ธ.ค.นี้ เพื่อให้ทันเปิดลงทะเบียนรอบใหม่

               ด้านนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสศค. ระบุว่า เครือข่ายหมอคลังอาสานั้น เป็นแนวคิดที่มีมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน ซึ่งสศค.ก็จะกลับไปหาแนวทางในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวให้เหมาะสม โดยเฉพาะการดูความสำคัญของแต่ละพื้นที่ที่จะใส่บงบประมาณลงไป ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในเร็วๆ นี้ โดยจะใช้ฐานข้อมูลจากการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีมาประกอบการดำเนินงาน และในอนาคตอาจจะมีการปรับการให้สวัสดิการที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลมากขึ้น